จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงEucerin - ตัวนี้ซื้อเพราะรู้จักละเคยใช้ครีมยี่ห้อนี้ แต่ตอนนั้นครีมที่ใช้ยังเป็นสูตรเก่าอยู่เลย (White Therapy) พอผิวหน้าเริ่มเป็นฝ้า และกระจุดเล็กๆ ตรงโหนกแก้มก็เลยกัดฟันซื้อมาลองใช้ดูเพราะคิดว่าน่าจะเห็นผล ที่ใช้คำว่ากัดฟันหลายๆ คนก็คงจะรู้ใช่มั้ยล่ะว่าครีมยูเซอรินค่อนข้างมีราคาสูง สำหรับขวดนี้ราคาก็อยู่ที่ 1,800-2,100 บาทเลยค่ะ ส่วนตัวรู้สึกว่าเนื้อครีมเกลี่ยง่าย ไม่เหนอะผิว ให้ความชุ่มชื่นได้ดีมากเลย ฝ้าจางลงเล็กน้อย เราคิดว่าเหมาะกับคนที่มีผิวแห้งและผิวผสมค่ะ คนที่ผิวมันมากๆ อาจจะไม่แนะนำนะคะ
Smooth E - ยี่ห้อคู่ใจที่อยู่กับเรามาตั้งแต่วัยเยาว์ อันนี้เห็นเพื่อนซื้อมาใช้บ่อยๆ ทุกครั้งที่ร้านเขียว เพื่อนก็จะหยิบตัวนี้ตลอด ก็เลยสนใจและลองไปหาข้อมูลดู สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อมาลองสัก 1 หลอด เพราะราคาก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่เรายังจ่ายได้ ไม่เกิน 600 บาท ความรู้สึกแรกของเราคือเนื้อครีมเค้าจะแอบแน่นนิดนึง (ตอนที่บีบครีมลงหลังมือ) พอได้ลองแต้มลงบนหน้าความรู้สึกก็เปลี่ยนไปนิดนึง เพราะว่าเนื้อครีมเค้าไม่ได้หนักเลย เกลี่ยได้ค่อนข้างดี ออกจะลื่นๆ เล็กน้อย ฝ้าลดลง แต่อาจจะไม่ได้ไวมากเท่ายูเซอริน
Melamii - ยี่ห้อนี้แอบเห็นรีวิวบ่อยๆ ช่วงที่ทำรีเสิร์ชว่าครีมทาฝ้ามียี่ห้อไหนดีบ้าง รีวิวส่วนใหญ่ก็จะแอบมีน้องเค้าติดอยู่ในหลายๆ กระทู้รีวิว เป็นยี่ห้อที่จำได้นะ แต่ยังไม่ซื้อมาลองใช้ทันที ฟีลแบบแอบสนใจแล้วแหละแต่รอก่อนนะ “ถ้าเทอยังอยู่ในใจเราจะไปซื้อ” 555555 สรุปก็คือตัดไม่ขาด คาใจมากก็เลยต้องไปซื้อมาลองใช้ดู ส่วนราคาก็น่ารักกรุบกริบไม่เกิน 300 บาท ตัวครีมมีส่วนผสมของของสารกันแดด SPF20 แต่เนื้อครีมค่อนข้างเบามาก เกลี่ยได้ง่ายสุด ซึมไวมาก รอแปปเดียวก็สามารถลงครีมในขั้นตอนถัดไปได้เลย ฝ้าก็จางลงดีมากค่ะ ประมาณ 2 อาทิตย์เริ่มเห็นผลแล้ว หลังใช้ไม่มีอาการแสบ แพ้ หรือระคายเคืองใดๆ เลย พอใช้ต่อเนื่องมาก็ไม่รู้สึกว่าหน้าบางลงค่ะ แต่แอบหลอดเล็กไปนิดต้องซื้อบ่อย
Uderma - ตัวนี้ได้มาเพราะไปเดินช้อปปิ้งที่ร้านเขียว เห็นว่าจัดโปรบ่อยๆ ก็เลยหยิบใส่ตะกร้า ความงกและความคุ้มค่ามันบังตาเว่อ พอได้มาก็แอบกลัวเพราะไม่เคยลองใช้ เราเทสครีมกับข้อพับผิวประมาณ 3 วันก่อนจะทาลงบนหน้า พอเข้าวันที่ 4 ไม่มีอาการแพ้ก็จัดเลยทาบางๆ ลงไปบนโหนกแก้มของเรา เนื้อครีมเกลี่ยนมาก ลื่นปรื้ดไปเลยค่ะคุณพี่ ซึมได้ไวดีค่ะ ไม่เหนอหนะผิวเลย ฝ้าค่อยๆ จางลง แต่เห็นผลช้ากว่า 3 ตัวข้างบนนะคะ แต่ส่วนตัวก็ยังรู้สึกว่าโอเคไม่ได้มีปัญหาอะไร
Dermadict - ตัวสุดท้ายแล้วค่ะเดอมาดิกยี่ห้อนี้ก็พึ่งมารู้จักเหมือนกัน ราคาถูกมากที่สุดแล้วสำหรับตัวนี้ เอาจริงก็กล้าๆ กลัวๆ ว่าจะลองดีมั้ย แต่สุดท้ายก็แบบลองก็ได้ราคาก็ไม่ได้แพงเลย อันนี้ก็ทดสอบกับข้อพับแขน 3 วันเหมือนเดิมนะคะ (เราทำกับทุกตัวค่ะ เพราะหน้าเราแพ้ง่าย) ไม่เกิดเอฟเฟคอะไรก็ใช้กับผิวหน้าเราได้เลยค่ะ ตัวนี้เนื้อครีมสีขาว แบบขาวสว่างมาก ตอนทาก็กลัวว่ามันจะทำให้หน้าขาวแบบตอนทาโทนอัพรึเปล่า เพราะส่วนตัวเราไม่ชอบโทนอัพค่ะ แต่สุดท้ายก็ไม่ขาววอกนะคะ ซึมเนียนไปกับผิวดีค่ะ ฝ้าจางลงค่ะ แต่รู้สึกว่าเค้าจะช่วยปรับผิวหน้าให้ขาวขึ้นมากกว่า
ครีมของเราเปลี่ยนไปเรื่อยตามเงินที่มีในกระเป๋า ณ ช่วงเวลานั้นค่ะ ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่าตัวที่นำมาบอกต่อนั้นมีทั้งราคาถูกไปยันแพงปะปนกัน สำหรับวันนี้ขอจบการบอกบุญไว้เท่านี้นะคะ ขอบคุณที่สนใจแล้วเข้ามาอ่านกันค่ะ