How to สะสมคะแนน Cosmenet เก็บคะแนนให้ครบทุกวัน ต้องทำยังไงบ้าง?

navigate_beforeย้อนกลับ

pic400
0 

Review: Oncemet Skin Smooth Boost

   หลายคนคงมีปัญหาผิวที่เริ่มแสดงออกมาอย่างชัดเจนเมื่ออายุมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรูขุมขนที่กว้างขึ้น หรือแม้แต่จุดด่างดำ และริ้วรอยที่เพิ่มขึ้น และเด่นชัดมากขึ้น อันเนื่องมาจากผิวเสื่อมโทรม ต้องเผชิญกับมลภาวะ ความเครียด และเชื้อโรครอบตัว มี่เองก็เป็นคนนึงที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ รูขุมขนเริ่มกว้างขึ้น จุดด่างดำ และริ้วรอยที่เห็นชัดเจนมากขึ้นด้วย… แต่วันนี้มี่มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสูตรเข้มข้น ที่มาพร้อมคุณสมบัติจัดการทุกปัญผิว ปรับสภาพผิว และฟื้นฟูให้ผิวกลับมาแข็งแรง กระจ่างใส แบบสุขภาพดี ใครอยากรู้แล้วว่าผลิตภัณฑ์นั้นคืออะไร ไปชมรีวิวกันเลยค่ะ

Oncemet Skin Smooth Boost


  ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Oncemet Skin Smooth Boost เป็น “แอมพูล” บำรุงผิวจากประเทศสเปนที่มาในรูปแบบของหลอดแอมพูล 2 ขั้นตอน: “Exfoliate” and “Deep” Treatment… โดยขั้นตอนแรก (STEP 1) เน้นผลัดเซลล์ผิวชั้นหนังกำพร้า (epidermis) อย่างอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว มีส่วนผสมของ AHAs (Glycolic Acid, Mandelic Acid and Maleic Acid) เพื่อปรับสภาพผิวให้พร้อม “เปิดรับ” สารบำรุงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เฉกเช่นกับการทำทรีทเม้นท์ได้เอง “ทุกที่ ทุกเวลา”

   ส่วนขั้นตอนที่ 2 (STEP 2) คือการบำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับขึ้น และคืนความกระจ่างใสให้กับผิว ทำให้ผิวมีชีวิตชีวา โดยปราศจากสารเคมีอันตรายต่างๆ ได้แก่ No Silicone, No Alcohol, No Colorant, No Fragrance, No Paragen และ No Mineral Oil






ส่วนผสมหลักที่สำคัญใน Oncemet Skin Smooth Boost

Glycolic Acid เป็น AHA โมเลกุลขนาดเล็ก สามารถซึมลงใต้ชั้นผิวได้ดีกว่า AHA ชนิดอื่นๆ และมีงานวิจัยเยอะที่สุดในด้านการผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นบน และยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ด้วย ซึ่ง Oncemet Skin เค้าเลือกปริมาณความเข้มข้นของ Glycolic Acid ในปริมาณที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังมากจนเกินไป

Mandelic Acid เป็น AHA ที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่ที่สุด ซึมเข้าผิวได้ยาก แต่นิยมใช้ในกลุ่มผู้ที่เป็นสิว และเหมาะกับผู้ที่ผิวระคายเคืองง่าย

Maleic Acid มีคุณสมบัติเป็น Humectant (สารที่ช่วยดูดซับน้ำ) ช่วยดึงดูดน้ำเข้าผิว ให้ความชุ่มชื้นกับผิว และยังมีความสามารถทำให้สารกลุ่ม Humectant อื่นๆ ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้นด้วย

Tranexamic Acid เป็นส่วนผสมที่มีงานวิจัยรองรับว่าสามารถรักษาฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกลไกการทำงาน 3 อย่าง ที่เข้าช่วยซ่อม, บำรุง และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ผิว โดยลดการขยายตัวของหลอดเลือด อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยแดงใต้ผิว ที่จะนำไปสู่การเกิดฝ้า กระ และลดกระบวนการอักเสบของเซลล์ผิวหลังโดนแสงแดด และความร้อน และยับยั้งการทำงานของเอมไซม์ Tyrosinase ต้นเหตุสำคัญอย่างหนึ่งของกระบวนการผลิตเม็ดสีเมลานิน

3-O-Ethyl Ascorbic Acid อนุพันธ์วิตามินซีที่ละลายในน้ำ มีความเสถียรสูง ทนอุณหภูมิสูงได้ดี ใน Oncemet Skin เลือกใช้ปริมาณที่เข้มข้นพอเหมาะ ให้เซลล์ผิวได้รับการกระตุ้น ช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใส เพราะอนุพันธ์วิตามินซี ตัวนี้จะไปรบกวนกระบวนการผลิตเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดจุดด่างดำ นอกจากนี้ยังเป็น anti-aging ช่วยลดเลือนริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปกป้องเซลล์ผิว และ DNA จากการโดนอนุมูลอิสระทำร้าย ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยลดการอักเสบของผิวได้ด้วย โดยอนุพันธ์วิตามินซีตัวนี้จะเข้าไปรบกวนโปรตีน Interleukin 6 (IL-6) ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของเซลล์ผิว ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาผิวต่างๆ เช่น การแพ้ บวม ผื่น แดง ฝ้า กระ

Acetyl Hexapeptide-38 หรือ Argireline เป็น peptide ที่ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกในแลปที่ประเทศสเปน เพื่อลดการส่งสัญญาณจากสมองมาสู่กล้ามเนื้อขณะที่เรามีการแสดงสีหน้า เพื่อให้กล้ามเนื้อมีการขยับน้อยลง ริ้วรอยจึงดูตื้นขึ้น ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกันกับการใช้โบทอกซ์ โดยการใช้ Argireline ร่วมกับส่วนผสมที่เป็น Humectant จะยิ่งเสริมให้ผิวอิ่ม ฟูขึ้น ผิวชั้นนอกจะดูเรียบ ลื่น และริ้วรอยดูลดลงอย่างชัดเจน

Vitis Vinifera Vine Extract หรือสารสกัดจากเมล็ดองุ่น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ที่สำคัญมีส่วนประกอบของ Linoleic Acid อยู่เยอะมาก ทำให้ผิวได้รับกรดไขมันโมเลกุลเล็กที่ดีต่อผิว ส่งผลให้ผิวสมดุล ไม่ผลิตน้ำมันโมเลกุลใหญ่ส่วนเกินออกมา หน้าก็จะไม่มัน และเป็นการลดการเกิดสิวทางอ้อมด้วย


   ด้าน Packaging มาในรูปของกล่องกระดาษมุขสีขาว-ทองแดง ดูหรูหรา คำอธิบายทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ เมื่อเลื่อนเปิดกล่องออกมา จะเจอหลอดแอมพูล STEP 1 จำนวน 5 หลอด และ หลอดแอมพูล STEP 2 อีกจำนวน 5 หลอด (10 x 1.5 ml AMPOULES) พร้อมฝาต่อพลาสติก








   แอมพูล STEP 1 เป็นของเหลวใส เหลวมากกก ไม่มีกลิ่น พอถูวนไปเรื่อยๆ จะมีฟองขาวเล็กๆออกมา และวนไปเรื่อยๆ ก็จะซึมเข้าสู่ผิว และฟองหายไปค่ะ





   ส่วนแอมพูล STEP 2 เป็นของเหลว สีอมส้มอ่อนๆ มีกลิ่นสารบำรุงคล้ายกลิ่นวิตามินซี เวลาเกลี่ยแล้วให้ความรู้สึกเหมือนทาออย





   สำหรับวิธีใช้จะแยกเป็น 2 ขั้นตอน คือ การใช้แอมพูล STEP 1 และ การใช้แอมพูล STEP 2 แนะนำให้ใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้งตอนกลางคืนในเดือนแรก และเดือนต่อไปสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง (วิธีการหักหลอดแอมพูล ให้ใช้ทิชชู่ช่วยหัก จะทำให้หักได้ง่ายขึ้นค่ะ)…ส่วนตัวเราแบ่งใช้ STEP 1 & STEP 2 อย่างละหลอด เช้า - เย็นค่ะ เพราะรู้สึกว่าหลอดนึงใช้ได้ 2 ครั้ง แต่จะใช้ให้หมดใน 1 วัน เพื่อไม่ให้สารบำรุงเสื่อมสภาพค่ะ

   วิธีใช้ STEP 1 ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี คือ ใช้หลังการทำความสะอาดผิวหน้า ให้ลงแอมพูล STEP 1 ให้ทั่วใบหน้า และนวดเบาๆเป็นวงกลม ประมาณ 2-3 นาที เนื้อแอมพูลจะกลายเป็นฟองบนใบหน้า และอาจจะรู้สึกยิบๆที่ผิว ถือเป็นปฏิกิริยาปกติ… เมื่อผ่านไป 2-3 นาที ให้ล้างเซรั่มออกให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า เช็ดหน้าให้แห้ง และเตรียมบำรุงด้วยเซรั่มเข้มข้นใน STEP 2 (หากใช้ STEP 1 แล้วมีอาการแดง และคันมากจนเกินไป ให้รีบล้างออก)








    ความรู้สึกขณะใช้แอมพูล STEP 1 ตอนทาที่ผิว คือ จะรู้สึกยิบๆที่ผิวในสัมผัสแรกที่แอมพูลซึมเข้าสู่ผิวค่ะ ทาปุ๊บซึมปั๊บเลย เพราะเนื้อเค้าบางเบามากๆ ซึมซับง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะผิว พอทิ้งไว้สักครู่ ก็จะไม่รู้สึกแสบ หรือคันผิวเลยค่ะ ให้ความรู้สึกว่าใช้แล้วไม่แพ้ ไม่ได้มีรอยแดงขึ้นแต่อย่างใด…พอครบ 2 นาที ไปล้างออกด้วยน้ำสะอาด คือล้างออกง่ายค่ะ ผิวไม่เหนียวเลย สัมผัสผิวหน้าแล้วผิวลื่นๆ และดูโกลว์ขึ้น กระจ่างใสขึ้นค่ะ


    ขั้นตอนต่อมา คือการทา STEP 2 ให้ทั่วใบหน้า และลำคอ โดยนวดให้ซึมเข้าผิวประมาณ 1-2 นาที จากนั้นทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว เพื่อตื่นมากับผิวที่ได้รับการบูสอย่างเต็มที่ “Smooth Boost”







    ความรู้สึกขณะใช้แอมพูล STEP 2 ความรู้สึกตอนเทแอมพูลออกมา รู้สึกว่าแอมพูล STEP 2 มีความคงตัวมากกว่า STEP 1 แล้วก็เป็นของเหลวที่มีสีส้มอ่อนๆ ทาแล้ว ซึมเข้าผิวได้ค่อนข้างไว คือถ้าเทียบกับ STEP 1 ตัวแอมพูล STEP 2 ต้องใช้เวลาซึมเข้าสู่ผิวมากกว่า แต่ก็ไม่นานค่ะ ทาแล้วผิวรู้สึกมีความมันขึ้น มีกลิ่นของวิตามินซีจางๆ แบบว่าถ้าไม่ได้เอามือมาดมใกล้ๆ ก็แทบจะไม่ได้กลิ่นเลยค่ะ ทาแล้วผิวไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่หน้าดูโกลว์มากกกก คือแบบมันเงา เหมือนกระจก ผิวดูสุขภาพดีขึ้นมากค่ะ เวลาสัมผัสที่ผิวแล้วรู้สึกว่าผิวมีความกระชับขึ้น ยืดหยุ่นดีขึ้น มีความเนียนนุ่ม อาการคันยิบๆไม่มาก คือแบบถ้าไม่ได้ตั้งใจรู้สึก ก็แทบจะไม่รู้สึกเลยค่ะ 



   ความรู้สึกหลังใช้ของแอมพูล Oncemet รู้สึกได้ว่าผิวได้รับการปรับสภาพ ฟื้นฟู เป็นการบูสท์ผิวให้ผิวมีสุขภาพที่ดีขึ้น สัมผัสได้จากผิวเรียบเนียน นุ่มขึ้น เด้งฟู มีความกระชับ และยืดหยุ่น รูขุมขนดูเล็กลง และลดการเกิดริ้วรอย ผิวมีความชุ่มชื้น แต่ไม่ได้หน้ามันเยิ้ม คือตัวนี้ปรับบาลานซ์ผิวได้ดีเลยค่ะ อีกทั้งยังให้ความรู้สึกว่าผิวกระจ่างใสด้วย รอยดำดูจางลง ผิวโกลว์ ดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วยค่ะ ส่วนตัวมี่ไม่ได้ใช้คู่กับบำรุงตัวอื่นๆ ผิวก็ดูได้รับการบำรุงเต็มที่แล้ว ช่วยกู้ผิวเสื่อม หน้าโทรมได้ดีเลยค่ะ 





    โดยรวมมี่ประทับใจในผลลัพธ์มากค่ะ คือผิวได้ปรับสภาพ และได้รับการฟื้นฟูอย่างดีเลย แอมพูลของ Onecemt ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวันค่ะ ใช้สัปดาห์ละประมาณ 1-2 ครั้ง กล่องนึงก็ใช้ได้เดือนนึงเลยค่ะ สำหรับใครที่มีปัญหาเยอะ และรู้สึกว่าช่วงนี้ผิวหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน ผิวโทรม ลองหามาใช้กันดูนะคะ


++++ ขอบคุณที่เข้ามาชมกันค่ะ ++++

27 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
ขอบคุณค่ะ
6 ธ.ค. 2565 เวลา 11:17 น.
ความคิดเห็นที่ 2
Thanks
6 ธ.ค. 2565 เวลา 13:14 น.
ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณที่มาแชร์ค่า
6 ธ.ค. 2565 เวลา 17:17 น.
ความคิดเห็นที่ 4
ปังมากค่า
6 ธ.ค. 2565 เวลา 18:33 น.
ความคิดเห็นที่ 5
?
6 ธ.ค. 2565 เวลา 18:45 น.
ความคิดเห็นที่ 6
น่าสนใจ
6 ธ.ค. 2565 เวลา 19:10 น.
ความคิดเห็นที่ 7
ขอบคุณค่ะ
6 ธ.ค. 2565 เวลา 20:13 น.
ความคิดเห็นที่ 8
ขอบคุณค่ะ
6 ธ.ค. 2565 เวลา 20:14 น.
ความคิดเห็นที่ 9
ขอบคุณครับ
6 ธ.ค. 2565 เวลา 20:41 น.
ความคิดเห็นที่ 10
น่าสนใจค่ะ
6 ธ.ค. 2565 เวลา 20:58 น.
ความคิดเห็นที่ 11
Thanks 
7 ธ.ค. 2565 เวลา 0:42 น.
ความคิดเห็นที่ 12
ขอบคุณค่ะ
7 ธ.ค. 2565 เวลา 1:07 น.
ความคิดเห็นที่ 13
ขอบคุณที่มาแชร์กันนะคะ??‍♀️???
7 ธ.ค. 2565 เวลา 8:12 น.
ความคิดเห็นที่ 14
ขอบคุณค่ะ
7 ธ.ค. 2565 เวลา 8:33 น.
ความคิดเห็นที่ 15
น่าสนใจมากค่า ขอบคุณที่มาแชร์นะคะ?
7 ธ.ค. 2565 เวลา 9:14 น.
ความคิดเห็นที่ 16
ขอบคุณค่ะ
7 ธ.ค. 2565 เวลา 10:16 น.
ความคิดเห็นที่ 17
น่าสน
7 ธ.ค. 2565 เวลา 10:23 น.
ความคิดเห็นที่ 18
น่าสนใจ 
7 ธ.ค. 2565 เวลา 10:24 น.
ความคิดเห็นที่ 19
ขอบคุณค่า
7 ธ.ค. 2565 เวลา 12:19 น.
ความคิดเห็นที่ 20
7 ธ.ค. 2565 เวลา 13:54 น.
ความคิดเห็นที่ 21
 ขอบคุณนะคะ
7 ธ.ค. 2565 เวลา 14:45 น.
ความคิดเห็นที่ 22
ขอบคุณค่ะ
7 ธ.ค. 2565 เวลา 19:52 น.
ความคิดเห็นที่ 23
ขอบคุณค่ะ ?
7 ธ.ค. 2565 เวลา 20:38 น.
ความคิดเห็นที่ 24
Thx ka
7 ธ.ค. 2565 เวลา 22:35 น.
ความคิดเห็นที่ 25
ขอบคุณค่ะ
8 ธ.ค. 2565 เวลา 8:32 น.
ความคิดเห็นที่ 26
Thanks 
8 ธ.ค. 2565 เวลา 18:11 น.
ความคิดเห็นที่ 27
??????????
10 ธ.ค. 2565 เวลา 15:34 น.
What's new
ป้ายยา 5 อันดับครีมกันแดดหน้า ยี่ห้อไหนดี บางเบา ซึมง่าย สบายผิว จากรีวิวผู้ใช้จริงแนะนำ 5 อันดับไอเท็มจัดการฝ้าซ้ำซาก จะฝ้าแบบไหนก็เอาอยู่ รวมตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน รีวิว 5 รองพื้นผิวโกลว์ บางเบาแต่ปกปิดเนียนกริบ ติดทนตลอดวันETUDE ส่งท้ายปีกับคอลเลคชั่นใหม่ Dear My Bestie ด้วยความน่ารักแบบเกินต้าน!Sea Moss Gel คืออะไร? ส่อง 5 คุณประโยชน์ของ Sea Moss ที่สายเฮลตี้ต้องรู้อัปเดต 14 เรตินอลตัวปัง 2025 ยี่ห้อไหนใช้ดีหน้าใส ขนมาหมด!บอกต่อ! 11 ยาสีฟันสมุนไพร ยี่ห้อไหนดี แก้ปวดฟัน ลดอาการเหงือกบวมอักเสบดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 22 - 28 ธ.ค. 67 (ทุกราศี) เท้าแตก ทําไงดี? 5 สูตรสครับแก้เท้าแตก ให้ผิวเนียนนุ่ม ไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์Cosmenet* ส่งท้ายปีกับไอเทม Redeem แบบจุใจตลอดเดือนธันวาคม 2024!