จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงสวัสดีค่ะเพื่อนๆ กลับมาเจอกันอีกแล้ว ก่อนอื่นคือต้องเกริ่นก่อนว่า ปกติเราเนี่ยเป็นคนที่ผิวค่อนข้างแพ้ง่าย เลยจะชอบเป็นผื่นแดง ผื่นคัน ทั้งหน้าและผิวกายเป็นประจำเลย แต่ช่วงนี้คือสังเกตตัวเองว่า 2-3 เดือนที่ผ่านมา ผื่นที่หน้าแทบจะไม่ขึ้นมาเลย ก็เลยคิดว่า สกินแคร์ต่างๆที่ใช้อยู่ตอนนี้ น่าจะถูกกับผิวเราแล้วแหละ เลยอยากจะมาแชร์ สกินแคร์ที่ใช้ก่อนเข้านอนในช่วงนี้มาฝากกันค่า
และนี่ก็คือเหล่าผู้กล้าทั้ง 4 ของเรานั่นแหละ
ไล่เรียงตั้งแต่หลังล้างหน้าไปเลย (เพิ่งนึกได้ว่าจริงๆ น่าจะรีวิวโฟมที่ใช้ด้วย แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวรอบหน้ามาแชร์กันใหม่นะ) อ่ะ เพื่อนๆน่าจะอยากรู้แล้วแหละว่าแต่ละตัวเป็นยังไงบ้าง งั้นเริ่มจาก Step แรกหลังล้างหน้ากันเลยเนอะ
ตัวแรกของเราคือโทนเนอร์
ตัวนี้คือ MadeCera Hydro Water Peel Toner
หรือเรียกง่ายๆคือ โทนเนอร์ Re-born นั่นเอง
ตัวนี้ช่วยกู้ชีพเราจากความแดงจากผื่นและจากรอยสิว รวมไปถึงช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้นด้วย ใครที่มีปัญหาหน้ามัน ตัวนี้คือเหมาะมากๆ
ด้านในจะเป็นน้ำใสๆ เหมือนน้ำเปล่าเลย แต่กลิ่นแอลกอฮอล์ค่อนข้างแรงนิดนึงนะ เวลาใช้ก็คือหยดลงบนสำลีซัก 3-4 หยด แล้วก็เช็ดๆให้ทั่วใบหน้า จบๆ เป็นการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างหมดจด เพราะบางทีการล้างหน้าอย่างเดียวก็ไม่พอจริงๆ
พอใช้โทนเนอร์แล้วรู้สึกว่าผิวหน้าสะอาดขึ้น ทำให้สิวไม่ค่อยขึ้นและไม่ค่อยมีสิวอุดตันด้วย
มาต่อกันที่ Step ต่อไป นั่นก็คือน้ำตบนั่นเอง
ซึ่งเป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้เลยนะ เพราะรู้สึกว่าน้ำตบทำให้หน้าเรารู้สึกชุ่มชื่น และไม่เหนียว
สำหรับขวดนี้ Eucerin Spotless Brightening Boosting Essence
เราใช้มาเป็นขวดที่ 2 แล้ว เพราะสอย Eucerin ตัวไหนก็ไม่เคยแพ้ ไม่ต้องมาคอยลุ้นว่าจะเสียเงินฟรีมั้ย บางตัวซื้อมา 2-3 พันแต่ทาแล้วคันยุบยิบๆ ก็ต้องเทรดให้เพื่อนไปทาต่อ แต่ตัวนี้คือเริ่ดมาก
นอกจากจะรู้สึกว่าผิวฉ่ำน้ำแล้ว ยังรู้สึกได้ว่าผิวกระจ่างใสขึ้น ส่วนผสมคือครบมีทั้ง Vitamin C, Hyaluron, Panthenol
ที่สำคัญคือผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ทำให้อุดตัน ใครที่ระคายเคืองง่ายอุดตันง่าย สบายใจได้เลย
ตัวนี้คือนอกจากใช้ทาก่อนนอน เรายังใช้ตอนเช้าก่อนแต่งหน้าด้วย ไม่เหนียว ไม่เหนอะ ไม่กวนเมคอัพ เลิฟมาก
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ และสำหรับเทกเจอร์ของตัวนี้คือ เป็นคล้ายๆน้ำใสๆ แต่มีความหนืดเล็กน้อย ซึ่งตรงนี้แหละที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันทำให้หน้าชุ่มชื่นมากๆ แต่มันซึมง่ายมากเลยนะ ทาแปบเดียวซึมหมดไม่ต้องรอนาน
เป็นไอเทมที่คิดว่าน่าจะได้อยู่ต่อกันไปอีกนาน เพราะราคาก็คือไม่โหดเกินรับมือด้วย
ถ้าใครมาถามว่าใช้น้ำตบยี่ห้อไหนดี ก็จะแนะนำเป็นตัวนี้เลย สรรพคุณเริ่ด ครบในตัวเดียว ทั้งกระจ่างใสและชุ่มชื้นไปเลย
หลังจากใช้น้ำตบเรียบร้อยแล้ว เราจะต่อด้วยเซรั่ม ซึ่งที่ใช้อยู่ช่วงนี้คือ Kiehl’s Clearly Corrective ตัวนี้คือยอมรับเลยว่า ซื้อมาเพราะเพื่อนสนิทแนะนำ ขีบอกว่าใช้ดี หล่อนต้องตำ ก็เลยเออออห่อหมกหิ้วจากช็อปตามชีมาหนึ่งขวด ตอนนี้ผ่านไปแล้วครึ่งขวด ในใจยังคิดว่าราคาสูงไปหน่อยถ้าเทียบกับประสิทธิภาพ เพราะยังรู้สึกว่าแอบเหนียวไปหน่อย
แล้วก็มีบางครั้งที่รู้สึกแสบๆตอนที่ทาตัวนี้ เลยยังไม่ได้คิดว่าจะมีขวดต่อไปนะ ผลลัพธ์น่าจะขึ้นอยู่กับผิวแต่ละคนจริงๆ
ในส่วนของแพ็กเกจจิ้ง ก็ต้องยอมรับว่าชีทำออกมาได้ดี
ใช้งานง่าย บีบๆที่หัวสองที จบ กะปริมาณได้ง่าย
เนื้อด้านในก็คือมีความข้นประมาณนึงอย่างที่บอกไป
แต่ก็จะใช้ต่อไป เพราะเสียดาย
สำหรับ Step สุดท้ายก่อนเข้านอน ก็คือ Sleeping Mask นั่นเอง ตัวนี้คือ BIOTHERM life Plankton Mask
ตัวนี้เป็นอีกตัวที่ใช้แล้วประทับใจ กระปุกใหญ่สะใจ โบกก่อนนอน ตื่นมาหน้าฉ่ำ ซึ่งตอนนี้ก็คือใกล้จะหมดกระปุกละ (และคาดว่าจะซื้อซ้ำแน่นอน)
พอทาตัวนี่คือเย็นสบายผิวสุดๆ ใช้แล้วรู้สึกว่าหลับสบาย
ชีมี LIFE PLANKTON ตัวนี้คือปัง คุณสมบัติเริ่ด (แต่กลิ่นแอบคาวๆหน่อยนะ เป็นกลิ่นแพลงตอนอ่ะแม่)
ส่วนเนื้อ Mask ก็เป็นใสๆเช่นนี้
จริงๆไม่ค่อยอยากใช้เยอะในแต่ละวัน(เพราะราคาแอบแรง) แต่พอโบกเยอะๆแล้วมันสบายผิวดี พอเสร็จตัวนึ้ ก็คือพร้อมกระโดดลงเตียง เตรียมปิดไฟนอนจ้า
ตื่นมาสดใส พร้อมทำกิจกรรมใดๆต่อในเช้าวันใหม่
ตอนเรานอนหลับพักผ่อน แล้วผิวของเรามันได้รับการพักผ่อนไปด้วยมันรู้สึกดีมากเลยนะ เหมือนมันก็ทำให้หน้าของเราพร้อมปะทะเครื่องสำอาง เพราะผิวเนียน สีผิวสม่ำเสมอทำให้แต่งหน้าง่ายไม่ต้องปกปิดอะไรมากมาย แต่งหน้าได้ฉ่ำๆติดทน ไม่เป็นขุยเป็นคราบ หรือถ้าไม่ได้ออกไปไหน แค่ทาลิปมันฉ่ำๆ ก็ออกจากบ้านไปหาข้าวกินได้แล้วแม่ ไว้เจออะไรดีๆ เดี๋ยวเค้ามาเล่าให้ฟังใหม่น้าาาา เยิ๊ฟฟฟฟฟ
1 / 2