ผิวฉ่ำเด้ง เนียนใส ไร้รอยสิวด้วยคู่นี้จาก Clearnose

หวัดดีค่าาาา ชาวกระทู้ที่น่ารักของเราทุกคน

ใครที่ชอบใช้สกินแคร์ที่เป็นเนื้อเจลแบบเรา ต้องไม่พลาดกระทู้นี้น้าาา เราเป็นคนนึงที่ชอบใช้สกินแคร์เนื้อเจลมาก ใช้มาหลายแบรนด์มากๆเลยค่ะ และ 1 ในนั้นก็คือแบรนด์นี้เลย Clearnose ใครที่เคยตามอ่านกระทู้เก่าๆของเรา จะรู้เลยว่าเราเป็นสาวกของแบรนด์นี้มาตลอด ใช้มาตั้งแต่อยู่มัธยม จนถึงตอนนี้เลยค่ะ นานมากกก 5-6 ปีแล้วอะ 

แบรนด์นี้ทำสินค้าออกมาตอบโจทย์คนเป็นสิวมากๆ ใครผิวแพ้ง่าย เซนซิทีฟ ก็สามารถใช้สกินแคร์ของแบรนด์นี้ได้เหมือนกัน

และวันนี้ตัวที่เรายกให้เป็นลูกรักแห่งปี 2023 ก็คือเจลว่านหางจระเข้ตัวนี้เลย Clearnose Aloe vera Soothing Brightening Gel 

อย่างที่บอกเราเลิ้ปอะไรที่เป็นแบบเจลมาก ยิ่งเอาไปแช่เย็นคือยิ่งฟิน เย็นสบายผิวสุด ที่สำคัญคือไม่เหนอะผิวเลยค่ะทุกคน ชอบมาก อากาศร้อนๆแบบนี้ต้องมีติดกรุไว้สักซองแล้วนะคะ

• Clearnose Aloe vera Soothing Brightening Gel

มีสารสกัดจากว่านหางจระเข้มากถึง 97% เอาจริงเยอะมากๆเลยนะคะทุกคน เป็นสารสกัดจากธรรมชาติเน้นๆเลย ที่สำคัญตัวนี้สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว รวมไปถึงชาวแพ้ง่ายด้วยค่ะ 

เนื้อเจลสีเขียวใส บางเบาไม่หนัก เวลาทาจะรู้สึกสบายผิว เนื้อเจลค่อนข้างซึมลงผิวไว ทาเยอะแค่ไหนผิวก็ไม่เหนอะ ไม่เหนียว ตัวนี้เป็นสูตนอ่อนโยนด้วยน้าาา ใครที่กลัวว่าใช้แล้วจะอุดตันไหม? ผดจะขึ้นรึเปล่า? ไม่แน่นอนค่ะ ไม่แพ้ ไม่ระคายเคียงต่อผิว ที่สำคัญยังช่วยปบอบประโลมผิวด้วย เอาใจชาวแพ้ง่ายสุดๆ

สำหรับใครที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน แห้งลอกเป็นขุย หรือผิวไหม้แดด แสบแดงจากการตากแดดนานๆ แนะนำให้ใช้เจลอโลตัวนี้เลย ทาหนาๆ โบกลงไปเยอะๆได้เลยค่ะ ช่วยกู้ผิวให้กลับมาชุ่มชื้นได้ไวมาก 

ตัวนี้สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าแล้วก็ผิวกายเลยนะคะ จะแช่เย็นก่อนเอามาทาหรือจะไม่แบ่ก็ได้ ผลลัพธ์ดีเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าแช่เย็นจะสดชื่นมากกกก เอามาทำเป็นมาส์กใต้ตาด้วยก็ได้นะคะ ช่วยลดความคล้ำใต้ตาได้ด้วย หรือใครที่มีปัญหาผิวโทรม เพราะนอนน้อย นอนไม่เป็นเวลาแบบเรา โบกตัวนี้ก่อนนอนไปเลยค่ะหนาๆ ตื่นเช้ามาผิวฟูเด้งมากก สิวผดเล็กๆน้อยๆบนหน้าก็ยุบลงด้วยนะคะ นั่งส่องกระจกชมผิวตัวเองทั้งวัน ทั้งเนียน ทั้งนุ่ม อิ่มน้ำอิ่มฟู แถมความโทรม ความคล้ำก็หายไปด้วยค่ะ เหมือนผิวใสขึ้นด้วย

แล้วซองนึงคือให้มาเยอะมากๆ ใช้แบบไม่ต้องกลัวเปลืองเลย คุ้มไปหมด ซองใหญ่มากก ใส่มาให้จุกๆ 50ml แถมราคาก็ดีงามด้วยค่ะ กำแบงค์ 50฿ ไปซื้อยังมีทอนเลยอะทุกคน คุ้มไม่ไหว

แต่ แต่ แต่ วันนี้ไม่ได้มา 1 แต่มาถึง 2 !!!!!

ใช้เดี่ยวๆว่าแังแล้วใช้คู่กันคือปังกว่าเดิมมาก ผิวเนียน หน้าใสเพราะรอยสิวลดลง สิวก็ขึ้นน้อยลงอีก เอาไรมาไม่คุ้มใช่ไหมล่ะคะทุกคน

ต้องใช้คู่กับตัวนี้เลย Clearnose Dark Spot Bright Serum เป็นเซรั่มตัวดังอีกตัวของทางแบรนด์เลยค่ะ ตัวนี้จะเด่นในเรื่องฟื้นฟูผิวจจากความหมองคล้ำ ผิวโทรม และช่วยลดเลือนจุดด่างดำต่างๆบนผิวเรา ใช้ตัวนี้ผิวใสมากนะทุกคน เค้าไม่ได้มาเล่นๆจริงค่ะ

• Clearnose Dark Spot Bright Serum 

ตัวนี้สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวเลยค่ะ ผิวแพ้ง่ายแบบเราก็ใช้แล้วรอดอยู่น้าา จริงคือมีไซส์ใหญ่ที่เป็นแบบขวดด้วย แต่แบบซองเราไว้พกพามากกว่า เวลาไปนั่นนี่คือสะดวกมากๆ ตัวนี้เราใช้ทุกวันเลยค่ะเช้า-เย็น เนื้อเซรั่มสีขาวขุ่น เนื้อดีมากไม่หนักเลย ค่อนข้างเกลี่ยง่าย แล้วก็ซึมไวด้วยค่ะ ลงตัวนี้เสร็จก็ลงสกินแคร์ตัวอื่นต่อได้เลย 

นอกจากจะช่วยฟื้นฟูผิวคล้ำเสียแบบเร่งด่วนแล้ว ตัวนี้ยังช่วยทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวด้วยค่ะ และยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นภายในผิวด้วยนะคะ ไม่ต้องมานั่งกังวลเลยค่ะว่าผิวจะแห้ง ขาดความชุ่มชื้นใดๆ 

และยังมี RBA Technology ที่ทำหน้าที่บำรุงผิวแบบตรงจุด ช่วยให้ผิวดูสดใส มีชีวิตชีวามากขึ้นด้วยค่ะ ถ้าใช้เป็นประจำทุกวันช่วยให้ผิวใสขึ้นด้วยนะคะ 

ยังไม่หมดแค่นั้นค่ะทุกคน ตัวดาร์คสปอตตัวนี้ยังมี Rainbow Algae Technology อีกด้วย เป็นอะไรที่ว้าวมากๆ ตัวนี้จะช่วยทำให้ผิวดูฉ่ำ ดูโกลว์แบบมีออร่า ผิวเรียบเนียนขึ้น ดูกระชับมากขึ้นด้วยค่ะ ช่วยให้ผิวนุ่มลื่น และชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน ใครที่ผิวโทรม หรือผิวไม่สม่ำเสมอตัวนี้ก็ช่วยได้ค่ะ ผิวจะเรียบเนียนสม่ำเสมอเท่ากัน แล้วก็จะช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นด้วย

จากผิวแห้ง ไม่สดใส ดูหยาบกระด้าง มีสิวผด มีรอยดำแดงจากสิวทั่วผิวหน้า หลังจากใช้คู่นี้ไปผิวตอนนี้คือดีขึ้นมาก ผิวจะค่อยๆดีขึ้น เผลอแป๊ปๆหน้าใสละอะ ถึงจะนอนน้อย นอนดึก ตื่นมาหน้าก็ไม่โทรม เอาจริงในราคาแค่หลักสิบ เราถือว่าคุ้มค่ามากๆเลยนะ

เป็นแบรนด์ที่ทำสกินแคร์ออกมาได้ถูกใจผู้บริโภคแบบเรามากๆ แทบไม่มีอะไรจะติเลยค่ะ นอกจากหมดไว55555 ให้มาเยอะแค่ไหนก็หมดไว เราใช้เปลืองมาก แต่ยอมรับเลยว่าใช้ดีมากๆ ตั้งแต่ใช้มาคือประทับใจทุกตัวเลยค่ะ ตัวนี้ก็ราคาน่ารักเหมือนเดิม หลักสิบเองค่ะทุกคน ได้มาในขนาด 7g เราว่าก็คุ้มอยู่น้าา

2 ตัวนี้เราได้มาในราคา 49฿ ทั้งคู่เลย 

พิกัด 7-11 เลยค่าาา

รออ่านกันต่อได้น้าาา ว่ารอบหน้าเราจะมารีวิวตัวไหนต่อ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนน้าาา สวัสดีค่าาาาาา ♥♥♥