จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงสวัสดีค่า หนุ่มๆสาวๆผู้รักการดูแลผิวทุกคน
พูดถึงสกินแคร์ที่เป็นถูกกล่าวถึงในปีนี้เยอะมากก็คือ เรตินอล
ก่อนนี้หลายๆคน อาจเคยได้ยินหรือมีความเชื่อว่า เรตินอลแรงกับผิวเกินไป
จนทำให้บางคนไม่กล้าใช้ แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ความรู้ที่มีการแชร์กันมากขึ้น
จึงทำให้ช่วยพิสูจน์ได้ว่า เรตินอล ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว หรือ รุนแรงกับผิวเลย
แถมยังช่วยฟื้นฟูผิว ให้ผิวดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ !!
หนึ่งเองก็เพิ่งได้เริ่มใช้ เรตินอล อย่างจริงจังปีนี้เลยค่ะ
เพื่อนๆคนไหน ที่กำลังหาข้อมูล หรือ ลังเลในการใช้ สกินแคร์กลุ่ม เรตินอล
วันนี้หนึ่งอยากมาแชร์ เรตินอล จากแบรนด์ mesoestetic
แบรนด์ mesoestetic เป็นอีกหนึ่งแบรนด์สกินแคร์ที่หนึ่งวางใจ
เนื่องจากเป็นสกินแคร์ medical grade จากสเปน ที่แพทย์ผิวหนังทั่วโลกให้การยอมรับ
หนึ่งใช้ผลิตภัณฑ์ของเค้ามาหลายตัวเลยค่ะ
รวมถึง skinretin 0.3% ที่หยิบมาบอกต่อในวันนี้ด้วยค่ะ
ความพิเศษและจุดเด่นของขวดนี้ ก็คือ เป็น Pure Retinol บริสุทธิ์ 0.3% ที่ช่วยจัดการปัญหา
ริ้วรอยได้อย่างตรงจุดพร้อมกระตุ้นคอลลาเจนอิลาสตินในชั้นผิวให้ผิวยืดหยุ่ม อิ่มฟู ดูสุขภาพดี
แถมยังช่วยเร่งสร้างผิวชั้นใหม่ ให้ผิวดูกระจ่างใส เปล่งปลั่งขึ้นด้วยค่ะ
ซึ่งนอกจากส่วนผสมของเรตินอลบริสุทธิ์แล้ว เค้ายังมีส่วนผสมอื่นๆที่ช่วยบำรุงผิว
ไม่ว่าจะเป็น Bakuchiol 0.7% เสริมการทำงานคู่กับเรตินอลให้ต้านริ้วรอยได้ดีขึ้น
Post-biotic complex ช่วยฟื้นฟูผิว สร้างความสมดุลให้ผิว
แม้ Retinol จะช่วยเรื่องปัญหาริ้วรอยเป็นหลัก แต่หนึ่งอยากบอกต่อว่า
ผู้ที่ยังไม่มีริ้วรอย ก็สามารถเริ่มใช้เรตินอลได้เช่นกัน อย่ารอจน 30 แบบหนึ่ง
แล้วค่อยเริ่มใช้ เพราะมันอาจจะสายเกินไป !! ใช้ก่อน สวยก่อน ><
เหตุผลที่หนึ่งแนะนำให้ใช้ได้เลย เพราะเค้าช่วยฟื้นฟูผิว กระตุ้นการสร้างผิวใหม่
จึงทำให้เรามีผิวที่เนียนใส ไม่มีจุดด่างดำ เรียบเนียน มีความยืดหยุ่น อิ่มฟู
และที่สำคัญ ช่วยป้องกันริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้นั่นเองค่ะ
เนื้อสัมผัส เป็นครีม มีความบางเบา ไม่มีกลิ่น เกลี่ยง่ายค่ะ
คำแนะนำในการใช้คือ : ทาเพียงบางๆ และใช้ในตอนกลางคืนเท่านั้น เว้นบริเวณรอบดวงตา
รอบปาก เนื่องจากเป็นบริเวณบอบบาง และควรทากันแดดทุกวันในตอนเช้า
นอกจากนี้ การใช้เรตินอล อาจจะทำให้ผิวแห้ง หรือลอก (ในบางคน) ซึ่งเป็นปกติ
จึงแนะนำให้ใช้เพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้งในช่วงเริ่มค่ะ แล้วจึงค่อยๆเปลี่ยนเป็นวันเว้นวัน
หลังผิวปรับสภาพได้แล้วค่ะ
เนื้อสัมผัสเมื่อเกลี่ยแล้ว ก็จะมีความครีมอยู่ แต่บางเบา และซึมเข้าผิวได้ง่ายค่ะ
สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวเลย และหากเป็นช่วงที่ใช้เรตินอลอยู่ ไม่ควรใช้
สกินแคร์ที่มีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิวอย่าง AHA หรือ BHA นะคะ เพราะอาจทำให้
แห้ง ลอก และระคายเคืองมากกว่าเดิมได้
มาแชร์ผลลัพธ์หลังใช้ skinretin กันดีกว่าค่ะ
ก่อนอื่น ในภาพด้านบนนี้ คือสภาพผิวทั่วๆไป มีจุดด่างดำเล็กน้อย
มองเห็นรูขุมขนได้ชัด เมื่อสัมผัสที่ผิวยังดูไม่อิ่มฟู และมีริ้วรอยเล็กๆ บริเวณ ร่องรอยยิ้ม
ซึ่งต้องบอกว่า หนึ่งใช้เรตินอลมาก่อนหน้านี้บ้าง แต่ก็หยุดใช้ไปพักใหญ่หลายเดือน
ก่อนจะกลับมาเริ่มใช้ Pure retinol จาก mesoestetic ตัวนี้ค่ะ
ผลลัพธ์ที่สัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงได้มากที่สุด คือ ผิวมีความอิ่มฟู ยืดหยุ่น แน่นกระชับ
เมื่อใช้มือลูบที่ผิวหน้า มีความเรียบเนียนขึ้น และผิวดูใสขึ้นค่ะ
ในส่วนของร้ิวรอย ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เนื่องจากก่อนใช้ หนึ่งมีเพียงริ้วรอยเล็กๆ
บางๆเท่านั้น อาจต้องใช้เวลาและความต่อเนื่องมากกว่านี้ค่ะ
จากการใช้ skinretin ขวดนี้ หนึ่งไม่มีการระคายเคืองที่ผิว หรือผิวแห้งลอก
เนื่องจากพยายามใช้ตามวิธีที่แนะนำไปด้านบนมาที่สุด คือ ทาบางๆ ทาแค่ตอนกลางคืน
ทามอยซ์เจอไรเซอร์ตาม และทากันแดดเป็นประจำ ซึ่งช่วยได้มากๆเลยค่ะ
สรุปโดยรวม คือ เรตินอล ช่วยฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพดีขึ้นมาก แบบสัมผัสได้
และไม่ได้รุนแรงกับผิวจนเกินไปเลยค่ะ เพียงแค่มีความรู้ และใช้ให้ถูกวิธี
ก็จะเกิดประโยชน์กับผิวมากๆเลย เพื่อนๆคนไหน ที่เริ่มกังวลเรื่อง ริ้วรอย
ผิวไม่เรียบเนียน ดูแก่กว่าวัย หนึ่งแนะนำให้เริ่มใช้ สกินแคร์กลุ่ม เรตินอลได้เลยค่ะ
และ mesoestetic skinretin 0.3% ขวดนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่ใช้ดี เห็นผลดี
และช่วยให้ผิวดีขึ้นจริงๆ ไปสอยมาใช้กันเลยค่า
พิกัด Facebook : mesoestetic Thailand.
“The element for skincare experts”
Thank you.