Skincare Routine กู้ผิวจากสิวแพ้แมสก์ให้พร้อมออกงานมั่นใจใน 1-2 สัปดาห์

เวลาจะออกงานทีไรต้องมีสิวบุกทุกที ไม่เข้าใจเล้ยยย อย่างเรานี่สิวขึ้นคางต่อเนื่องมาเกือบเดือนทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนสกินแคร์ที่ใช้เลย แต่เปลี่ยนแมสก์กล่องใหม่รุ่นใหม่มา เลยเดาว่า น่าจะแพ้แมสก์นี่ล่ะ แต่คนมีอีเว้นต์ต้องไปออกงานแบบเราจะทำยังไงให้พร้อมออกงานอย่างมั่นใจ เราจะมาแชร์ Skincare Routine กู้ผิวจากสิวแพ้แมสก์ใน 1-2 สัปดาห์ (อาจจะไม่ได้หายเกลี้ยง แต่ก็แต่งหน้ากลบได้ ผิวไม่ปุปะจนไม่มั่นใจ)

Skincare routine ที่เราใช้ไม่ได้เยอะ+ส่วนใหญ่ราคาสบายกระเป๋า

เน้นใช้ยาร่วมกับสกินแคร์ดูแลเรื่องสิวและรอยสิวโดยเฉพาะ

เปิดที่ BENZAC AC 5% ตัวยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะ Propionebacterium acnes (P. acnes) ที่เป็นต้นเหตุของสิวอักเสบ ฯลฯ ที่มีส่วนประกอบสำคัญจาก Benzoyl Peroxide เข้มข้น 5% แบบ Water Base Gel ระคายเคืองน้อย (จริงๆ เขามีให้เลือกความเข้มข้น 2 แบบ คือ 2.5 และ 5 เปอร์เซ็นต์เด้อ ใครที่ผิวแห้ง หรืออ่อนแอ แพ้ง่ายไม่ค่อยแนะนำให้ใช้ ถ้าจะลองใช้ควรเลือกใช้ตัวที่มีความเข้มข้น 2.5% เด้อ + อาจใช้แค่ 2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์) ตัวนี้ควรใช้ควบคู่กับการใช้ยาแต้มสิวค่ะ

ถึงจะอยู่ในช่วงที่มีสิวก็ยังต้องใช้กันแดดเลยต้องล้างด้วยคลีนซิ่ง ก่อนหน้านี้ชอบใช้คลีนซิ่งแบบน้ำ เพราะสบายผิวดี แต่ช่วงที่ใช้ยารักษาสิวผิวแอบลอกเกือบไม่ไหว ใช้สำลีเช็ดแล้วแอบแสบ ตัวที่เราใช้ช่วงนี้เลยเป็น b.glen QuSome Nano Off Cleansing คลีนซิ่งแบบไฮบริด (น้ำผสมออยล์) มีส่วนประกอบที่ช่วยบำรุงและปลอบประโลมผิวจาก Gluconobacter/Honey Ferment Filtrate ที่ได้จากกระบวนการหมักน้ำผึ้งปลอบประโลมให้ผิวสงบ+Pistacia Lentiscus (Mastic) Gum น้ำตานางฟ้า ช่วยเรื่องริ้วรอยและรูขุมขน ฯลฯ เนื้อเป็นเหมือนกึ่งเจลชุ่มชื้น ทำความสะอาดได้ดี แต่ไม่เหนอะหนะแบบออยล์ และก็ไม่ต้องใช้สำลีแบบคลีนซิ่งน้ำ ถือว่าแจ่มเลย

แต้มสิวจะใช้ Differin Gel มีตัวยาสำคัญเป็น Adapalene เข้มข้น 0.1% ยากลุ่ม Retinoids ใช้รักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ ลดการหนาตัวของเซลผิวชั้นเคราติน ช่วยผลัดเซลผิว พูดง่ายๆ ว่า ดันสิว เพราะงั้นใครที่ใช้ต่อเนื่องมา 6-8 สัปดาห์ก็อาจจะต้องอดทนกับการที่มีสิวโผล่มาทักทายนิดนึง ใช้ทาแค่วันละครั้ง ส่วนตัวใช้แล้วไม่ระคายเคือง + ใช้แค่เฉพาะตอนกลางคืนแล้วรีบปิดไฟนอน และก็ใครที่รู้สึกว่า ระคายเคือง อาจจะต้องผสมกับมอยส์เจอไรเซอร์หรือสกินแคร์ตัวอื่นแบบ 1:1 หรือใช้แค่ 30 นาทีแล้วล้างออก แต่ตัวนี้ถือว่า อ่อนโยนกว่า Tretinoin แล้วเน้อ (และไม่เด่นเรื่องริ้วรอยเท่า) สามารถใช้ร่วมกับตัวยา Benzoyl Peroxide ได้เด้อ

ต่อจากนั้นเราจะลงด้วยเซรั่ม INNISFREE Retinol Cica Repair Ampoule ตัวนี้จะเป็นสิวอยู่หรือไม่เป็นสิวก็สามารถใช้ได้เลย แต่สำหรับคนเป็นสิวที่ผิวอ่อนแอจะใช้เป็นตัวจัดระบบจบวงจรสิวก็ได้ตั้งแต่มีสิวอุดตันจนถึงการดูแลรอยสิว (สำหรับคนที่ใช้แบบยาแล้วลอกหรือระคายเคืองไม่ไหวนะคะ) ตัวนี้จะมี 95% Pure Retinol ที่ความเข้มข้น 0.15% ใช้ได้ทุกวันไม่ระคายเคือง ผลัดเซลล์ผิวเก่า ลดการผลิตไขมันส่วนเกิน และคุมความมัน + Niacinamide ลดเลือนรอยสิว ปรับผิวกระจ่างใส + Cica Liposome บรรเทาอาการระคายเคืองผิว 88% สรุปคือ มี Retinol ดูแลสิว - Cica ดูแลเกราะป้องกันผิว - Niacinamide ดูแลรอยสิว เนื้อเซรั่มสีขุ่น บางเบา และซึมไว ใช้แล้วไม่ระคายเคือง ถึงจะพึ่งจิ้มเปิดหัวสิวก็ไม่แสบ หลังใช้รู้สึกผิวเรียบเนียนมากขึ้น สิวและรอยสิวค่อยๆ ดีขึ้น ใช้ควบคู่กับยาและสกินแคร์ตัวอื่นได้เลย

ส่วนรอยเราจะใช้ Skinoren Cream จริงๆ ตัวนี้ก็ช่วยรักษาสิวด้วยเหมือนกัน แต่ตัวยาจะเป็น Azelic Acid 0.2 g : 1g ลดสิวได้ทุกประเภท เพราะมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ P.Acne แต่จะออกฤทธิ์เบากว่าตัวอื่น ที่เด่นจริงๆ จะเด่นในเรื่องของรอยสิวมากกว่า (แต่ช่วงแรกที่ใช้ก็แอบยิบๆ ระคายเคืองเอาเรื่องเหมือนกัน) เราเลยจะทาหลังลงมอยส์เจอไรเซอร์เช้า-ก่อนนอนมากกว่า ถึงเนื้อครีมจะดูหนัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้อุดตันเพิ่ม และเวลาใช้ก็ทาแค่บางๆ เลยไม่มีปัญหาอะไร

ถ้าสิวมีหัวหนองโผล่มาเราก็จะใช้ไม้กดสิวฝั่งหัวแหลมจิ้มเปิดหัว แต่ส่วนที่เป็นหัววงกลมเราจะไม่ค่อยกล้ากดเท่าไหร่ เพราะกลัวเป็นรอยช้ำหนัก เลยจะปิดด้วยแผ่นซับสิวดูดซับเอาของเหลวออกมา ที่แนะนำก็จะมีของ Olive Young กับ Brown Lab ดูดซับของเหลวได้ดี แต่ที่ซื้อบ่อยจะเป็น BrownLab เพราะหาซื้อง่ายกว่า

สำหรับคนที่เป็นหนักบางทีอาจจะลองปรึกษาเภสัชหรือแพทย์ผิวหนังดูก็ได้ เพราะเขาอาจจะสั่งจ่ายยากินมาให้ใช้ร่วมด้วยเหมือนกัน

ภาพก่อน-หลัง ประมาณเกือบ 2 สัปดาห์ค่ะ

อาจจะไม่ได้หายเกลี้ยง แต่ก็โอเคกว่าก่อนหน้าปรับสกินแคร์รูทีนและเปลี่ยนแมสก์

ออกงานแล้วมั่นใจมากขึ้น เดินโชว์หน้าชิลๆ เลย

ใครที่กำลังเจอสิวอักเสบหรืออุดตันจากการแพ้แมสก์แล้วมีอีเว้นต์ต้องไปงานก็อาจจะลองเอาตัวที่เรามาบอกต่อในบทความนี้ไปปรับรูทีนกันดูน้า เผื่อจะใช้แล้วถูกกับผิว สิวและรอยสิวดีขึ้น ออกงานมั่นใจมากขึ้นกัน ยังไงก็ไว้เจอกันใหม่บทความหน้านะคะ สวัสดีค่ะ รักรักรัก <3