จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงมือใหม่มาทำความรู้จัก Retinol กันค่ะ ว่าเค้าคืออะไร ช่วยอะไร เหมาะกับใคร ทำไมกระแสเค้ามาแรงมากขนาดนี้
เรตินอลคือ “อนุพันธ์วิตามินเอ” มหัศจรรย์ที่ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส เรียบเนียน และลดเลือนริ้วรอย รวมไปถึงช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า,สร้างชั้นผิวใหม่,กระตุ้นคอลลาเจน แทบจะครอบคลุมปัญหาผิวบนใบหน้าแล้ว
เรตินอลช่วยอะไร โดยปกติการผลัดเซลล์ผิวเราจะอยู่ที่ 28 แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นการผลัดเซลล์ผิวของเราก็จะช้าลงเช่นกัน ซึ่งทำให้หน้าดูหมองคล้ำ อุดตันเป็นสิวง่าย เจ้าตัวเรตินอลนี้แหละที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวทำให้หน้ากระจ่างใส ลดการอุดตัน กระตุ้นคอลลาเจนพร้อมเผยผิวเรียบเนียน
ข้อระวังในการใช้ การใช้เรตินอลสำหรับมือใหม่ควรระวังในเรื่องการระคายเคืองและผิวแห้ง ช่วงที่เริ่มใช้อาจจะใช้ในปริมาณที่น้อยควรทาในเวลากลางคืน อย่าลืมที่จะทากันแดดในตอนเช้า เพราะช่วงที่ใช้เรตินอลผิวค่อนข้างไวต่อแสง
เอาละวันนี้ก็เลยอยากจะมาแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ดีของ mesoestetic นั้นก็คือ
skinretin 0.3% และ skinretin 1%
ของ mesoestetic เรียกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การชะลอวัยเลยก็ได้
ทุกคนอาจจะ “เอ๊ะ” แล้วมันแตกต่างกันยังไง มาค่ะเชนนี่จะเล่าฟัง
อายุเริ่มเยอะริ้วรอยก็เริ่มมา การลดริ้วรอยที่ง่ายคือการใช้ “เรตินอล”
ตัวที่จะมาแชร์ตัวแรก - skinretin 0.3%
ครีมบำรุงผิวหน้า จากแบรนด์ mesoestetic ที่มีส่วนผสมของ เรตินอล และ บาคูชิออล สำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยแรกเริ่ม ริ้วรอยร่องลึก และจุดด่างดำ ครีมเลิศครีมตัวแม่ แต่มือใหม่ควรเริ่มใช้จาก % ที่น้อยก่อน เพราะการใช้เรตินอลจะมีอาการ ระคายเคืองหน้าแห้งร่วมด้วย และสิ่งที่สำคัญมากคือการทากันแดดทุกวัน
ส่วนผสม
Pure retinol 0.3% ที่จะช่วยต่อต้านริ้วรอย กระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสติน ให้ผิวยืดหยุ่นไม่หย่อนคล้อย ลดเลือนริ้วรอยแรกเริ่มและร่องลึก
Bakuchiol 0.7% เรตินอลจากพืชที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อต้านริ้วรอยของ Pure retinol แต่ตัว Bakuchiol นั้นจะไม่ทำให้ผิวละคายเคือง
Post-biotic complex ช่วยในการปกป้องผิว ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง และปรับค่า ph ให้กับผิว
Centella ที่จะช่วยปลอบประโลมผิวและยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิว
ทุกคนอาจจะเอ๊ะแค่ retinol 0.3% เองหรอแล้วมันจะดีไหม เรื่องมันเป็นอย่างนี้ตัว skinretin 0.3% เค้าออกแบบมาให้ใช้เป็นตัวเริ่มต้นสำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้ตัว retinol มาก่อน จึงมี Pure retinol มาให้ 0.3% และทางแบรนด์ก็ได้เพิ่ม Bakuchiol 0.7% ซึ่งมีประสิทธิคล้ายกับเรตินอลแต่ไม่ทำให้ผิวระคายเคือง พอเอามารวมกันก็เทียบเท่า 1% ด้วยการทำงานร่วมกันของ เรตินอล และ bakuchiol ทำให้ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ดีมากขึ้น
ควรทา : ควรเริ่มจากอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้ผิวได้ปรับตัวกับเรตินอล ทาเฉพาะเวลากลางคืน
สูตรนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ผิวแห้ง แพ้ง่าย แต่อยากเริ่มใช้ (ยิ่งเรตินอล % สูงมากเท่าไหร่จะทำให้ผิวระคายเคืองได้มากเช่นกัน)
ตัวที่สอง - skinretin 1%
ครีมบำรุงลดเลือนริ้วรอยที่มากับ Pure retinol 1% แบบฉ่ำๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวใหม่ และลดเลือนริ้วรอย รอยดำบนใบหน้า ตัวนี้เหมาะกับคนที่เป็นมือโปรที่อยากขยับมาใช้ % ที่สูงขึ้น เพื่อเร่งการแก้ปัญหาริ้วรอยก่อนวัย และ ริ้วรอยร่องลึก แต่ก็อาจจะมีการระคายเคืองอยู่บ้าง เนื่องจากเรตินอล % ค่อนข้างสูงแนะนำให้ค่อยไต่ระดับความเข้มข้นไปก่อนจะดีกว่า
ส่วนผสม
Pure retinol 1% ที่จะช่วยต่อต้านริ้วรอย กระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสติน ให้ผิวยืดหยุ่นไม่หย่อนคล้อย ลดเลือนริ้วรอยแรกเริ่มและร่องลึก
Panthenol ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ปรับสมดุลเซราไมด์เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว และทำให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรงขึ้น
Centella ที่จะช่วยปลอบประโลมผิวและยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิว
Vitamin E ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
สำหรับ retinol 1% ประสิทธิภาพก็ต้องเพิ่มขึ้นมากอยู่ ซึ่งรวมไปถึงการระคายเคืองก็เพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้แนะนำให้เริ่มใช้จาก % ที่น้อยก่อนเพื่อปรับผิวให้ชินและลดการระคายเคือง ระหว่างที่ใช้ retinol อาจจะมีการสิวขึ้นบ้าง เนื่องจากมีการผลัดเซลล์ผิวเก่าและสิ่งสกปรกใต้ผิวของเรา
ควรทา : ควรเริ่มจากอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้ผิวได้ปรับตัวกับเรตินอล เวลากลางคืน สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่เคยใช้เรตินอลมาแล้ว
แนะนำใครยังไม่เคยใช้ retinol ให้เลือกเปอร์เซ็นต์ต่ำๆ อย่างเช่นตัว 0.3%
ใครเคยใช้ retinol มาก่อนแล้ว ก็แนะนำเป็น 1% เพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น
การใช้ retinol สิ่งที่ควรคำนึงถึงเลยคือการทามอยเจอร์ไรเซอร์ และกันแดดเป็นประจำ
ข้อควรระวัง : ไม่ควรใช้รวมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี หรือ BHA / AHA เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคือง
สุดท้ายนี้การใช้ retinol ควรใช้ให้ถูกวิธีและผลิตภัณฑ์ที่มีมาตราฐานเพื่อให้เห็นผลลัพธ์สูงสุด
ใครมีคำถามหรือข้อสงสัยสามารถคอมเมนต์ถามกันเข้ามาได้นะคะ
ตอบกระทู้