จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงสวัสดีค่ะ พ่อแม่พี่น้องและผองเพื่อน ที่ติดตามกันมานาน หรือเพิ่งบัญเอิญมาอ่านเจอ วันนี้บีก็จะมาเม้ามอยกันอีกเช่นเคย แต่เป็นใน Topic ที่พิเศษหน่อย เพราะไม่ค่อยได้มีโอกาสพูดถึงเลย นั่นก็คือเรื่อง “ผม” นั่นเองค่ะ
บีเคยรีวิวเรื่องการทำสีผมไปบ้าง อันที่จริงเนี่ย บีทำสีผมบ่อยมากกก ทุก 3 เดือนเลยแหละ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผมสีน้ำตาลค่ะ หลายคนเลยอาจไม่เคยสังเกตเห็นกัน พอทำสีผมบ่อยๆ ผมมันก็ต้องมีเสียบ้างแหละ แล้วไหนจะใช้เครื่องม้วนผมทุกวันอีก ถึงแบรนด์จะเคลมว่าไม่ทำให้ผมเสีย แต่บีก็แอบคิดนะ ว่ามันต้องมีบ้าง เพราะแต่ก่อนตอนเด็กๆ ยังดูแลผมไม่เก่ง ใช้เครื่องม้วนผมที่เป็นไฟฟ้านี่ผมเสียตลอด555 เอาล่ะ เข้าเรื่องดีกว่า เพราะถึงจะอย่างนั้น ทุกครั้งที่บีไปทำสีผม ช่างทำผมแทบทุกร้านมักจะทักว่า ผมบีสุขภาพดี/ผมไม่เสียเลย บีก็เลยแบบเห้ยยย จริงหรอ! วันนี้เลยจะมาเล่าวิธีการดูแลผมนี่แหละค่ะ555
มาดูกันดีกว่า ว่าบีใช้ไอเท็มอะไรบ้างเนอะ
เริ่มจากตัวเบสิคก่อนเลย คือแชมพูและครีมนวดผมค่ะ
Dove Intense Repair สีน้ำเงิน สูตรใหม่
บีเป็นคนติดแชมพูและครีมนวดของโดฟมากกกก ใช้มานานตั้งแต่ก่อนกาล เพราะรู้สึกว่าแบรนด์นี้เค้าจะช่วยให้ผมเรานุ่มขึ้นได้จริงๆ แล้วก็ช่วยพวกผมเสียได้ดีมากกกก แต่ถ้าใครผมมันง่ายจะรู้สึกอย่างนึง คือ โดฟจะทำให้ผมมันไปหน่อย ไม่สระผม 3 วัน ผมด้านบนจะมันๆ แล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้ เค้าเพิ่งปรับสูตรใหม่ค่ะ ที่นอกจากจะบำรุงผมเสียได้ดีมากขึ้นแล้ว ตอนที่เราใช้ ยังรู้สึกว่าผมไม่มันเหมือนก่อนหน้านี้ด้วย นี่ไม่ได้สระผมมา 3 วัน ยังไม่รู้สึกว่าผมมันหรือผมเหนียวเลย ซึ่งตัวนี้คือ โดฟ Intense Repair สูตรใหม่ ผสมไบโอนูริชมิลค์นั่นเองค่ะ
อย่างที่บอกไปว่าเค้าปรับสูตรจากสูตรเดิม ทำให้บำรุงดีขึ้นกว่าเดิมมากๆ แต่ไม่ทำให้หัวมัน ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นลูกรักบีไปโดยปริยาย ส่วนเนื้อผลิตภัณฑ์ของโดฟ ยังคงเป็นเนื้อเข้มข้น นมๆ เหมือนเดิมค่ะ และกลิ่นยังหอมมากเหมือนเดิม
ว่าแต่ตัวนี้ดียังไง
ครีมนวดสูตรใหม่นี้ เค้ามีเทคโนโลยี Smart Targeting ครั้งแรกของโลกค่ะ ซึ่งจะจัดการเฉพาะจุดที่ผมเสีย โดยตรงเข้าบำรุงจุดที่เกล็ดผมเปิด ผมแตกปลาย ปลายผมเราที่เคยแห้ง แตกปลาย ก็จะดีขึ้นแบบเห็นได้ชัด และต่างกับแชมพูและครีมนวดตัวอื่นๆ ที่เราอาจรู้สึกว่าผมนุ่ม ผมลื่น แต่จริงๆ แล้วปลายผมเรายังคงเสียอยู่ค่ะ
ตัวแชมพู ความดีงามคือ ปกติเนี่ยเวลาเราใช้แชมพูแบรนด์อื่น ตอนที่เราสระผมอยู่จะรู้สึกว่าผมแห้งๆ สระยากใช่มั้ยคะ แต่ตัวแชมพูของโดฟ เราจะสัมผัสได้เลยว่าผมมันลื่น และสระง่าย ฟองกำลังดี ส่วนตัวครีมนวดเค้าก็ดีนะคะ บีชอบที่ล้างออกง่ายค่ะ และพอล้างน้ำออกเสร็จนะ เราจะรู้สึกได้เลยว่าผมมันนุ่มลื่นขึ้นมาก
บีรู้สึกว่ามันทำให้ผมบีมีน้ำหนักมากขึ้น อย่างเวลาสางจะเห็นได้เลยว่าผมไม่ผันกัน ผมนุ่มลื่นตลอดเส้นผม และปลายผมก็สุขภาพดีขึ้นมากๆ
ลองไปสอยกันดูได้นะคะ ถูกและดีมีอยู่จริง ตอนนี้มีวางขายทั่วไปตามห้างแล้วค่ะ
ส่วนเทคนิคการสระผมของบีคือ
ตอนแรกบีจะใช้น้ำอุ่นในการสระผมก่อน เคยอ่านเจอมาว่ามันช่วยในการเปิดชั้นผิวนอกของผมค่ะ จากนั้นก็สระผมด้วยแชมพู พร้อมกับนวดหนังศีรษะไปเรื่อยๆ สัก 15 ครั้ง เลือดจะได้ไหลเวียนดี แล้วก็ล้างผมด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดชั้นผิวนอกของผมค่ะ แล้วก็ใส่ครีมนวดตั้งแต่โคนถึงปลายผมเลย แต่จะเน้นบริเวณปลายผมค่ะ บีจะทิ้งไว้ประมาณ 3 -5 นาที แล้วค่อยล้างออกค่ะ
ช่วยที่ผมยังไม่แห้ง ห้ามซางผม หรือหวีแรงๆ รวมถึงขยี้นะคะ เน้นซับเบาๆ ค่ะ เพราะช่วงผมเปียก ผมจะร่วงง่ายมาก ต้องระวังนิดนึง
nature’s bounty hair skin & nails gummies
ต่อด้วยไอเท็มลูกรักอีกตัวคือ nature’s bounty hair skin & nails gummies ค่ะ
มันคือเยลลี่บำรุงผม และเล็บนั่นเอง ซึ่งมันมีส่วนผสมของวิตามินอี วิตามินซีและไบโอตินค่ะ
ไบโอตินนี่แหละตัวช่วยสำคัญของคนอยากผมสวยค่ะ จริงๆ ร่างกายเรามีไบโอตินที่สร้างขึ้นมาได้เองอยู่แล้วนะคะ แต่ถ้าเรากินยาปฏิชีวนะบางอย่างเป็นเวลานาน หรือทานไข่ขาวดิบ ก็ทำให้เราขาดไบโอตินได้ ซึ่งก็จะทำให้ผมเราร่วงและเสียมาก อันเป็นผลข้างเคียงจากการขาดไบโอตินนั่นเอง เราก็ควรทานไบโอตินเสริมเข้าไป เพื่อให้ผมและเล็บเราสุขภาพดีค่ะ
ตัวนี้จะช่วยในเรื่องของคนที่ผมน้อย ผมบาง ผมร่วงบ่อยๆ บีบอกเลยค่ะ ตัวนี้ดีมากกก ตั้งแต่กินมาประมาณ 3 เดือน รู้สึกได้เลยว่าผมหนานุ่มขึ้น และร่วงน้อยลงมากๆ และผลพลอยได้อีกอย่างคือเล็บค่ะ ปกติบีเนี่ยเล็บจะหักง่ายมาก เปราะตลอด พอกินตัวนี้มา อาการพวกนี้หายไปเลย
และวิธีกินเค้าก็ง่ายดี หลังกินข้าวเสร็จ ก็กินตัวนี้ไป 2 เม็ด แล้วคือนางอร่อยมากกกก จริงๆ เค้าให้กินวันละ 2 เม็ดพอนะคะ แต่บางวันบีติดใจ กินไป 3-4 เม็ดก็มี
ข้อเสียก็มีนะคะ นอกจากจะราคาสูงแล้ว นางยังไม่เข้าไทยแบบเป็นทางการ ต้องพรีเอาเด้อ
Dyson supersonic
ไดร์เป่าผม ที่มีแล้วจะไม่อยากใช้ไดร์อื่นๆ อีกเลยค่ะ เพราะเป่าเสร็จผมจะไม่แห้งสาก แต่ผมจะมีความนุ่มๆ ชุ่มชื้น และมันช่วยลดอาการผมเสียไปได้เยอะ มันคือไดร์ Dyson supersonic ค่ะ
เจ้าตัวนี้มีเทคโนโลยีIntelligent heat control มันจะปกป้องเส้นผมเราจากความร้อน โดยการตรวจเช็คความชุ่มชื้นของเส้นผมเรา และจะปรับลดอุณหภูมิลมร้อนให้เหมาะสม เพื่อช่วยรักษาระดับความชุ่มชื้นในเส้นผมของเราค่ะ
บีชอบที่เค้าจะสามารถปรับเลือก ความร้อนความเย็นได้หลายระดับมากๆ โดยมีปุ่มระดับร้อนและเย็น อย่างละ 3 ระดับค่ะ แต่โดยส่วนตัวบีจะใช้ลมเย็นตลอด เพราะไดร์เค้าลมมันแรงอยู่แล้ว เราเป่าแค่ลมเย็นผมก็แห้งได้ค่ะ
หลังจากได้ตัวนี้มา ก็ใช้มาตลอด รู้สึกว่าผมดีขึ้นขัดเจนมั้ย บอกตรงๆ ว่าไม่ค่ะ555 แต่มารู้สึกเอาก็ตอนไปนอนโรงแรม จะรู้สึกว่าไดร์ของโรงแรมมันทำให้ผมเราสากมาก แต่ไดร์ Dyson มันไม่ทำให้ผมเราแห้งแบบสากๆ แบบนี้ ไดร์เสร็จผมมันนุ่มกว่านี้555
คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ค่ะ จริงๆ บีไม่ใช่คนพิถีพิถัน ให้เวลากับการดูแลผมแบบจริงจังเหมือนสาวๆ คนอื่น อย่างตอนนี้ก็ไม่ได้สระผมมา 3 วันแล้ว5555 แถมทำสีบ่อยอีก แต่ก็รู้สึกว่าสุขภาพผมเราโอเคนะ ^_____^ ใครอยากลองใช้เทคนิคของบี ก็ไปลองสอยๆ ไอเท็มพวกนี้ตามกันได้นะคะ มั่นใจว่าสาวๆ ต้องชอบ!
กินBiotinของตัวนี้อยู่เหมือนกันค่ะ ดีและ อร่อย ^^