จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงสวัสดีค่าสาวๆ ทุกคนนน กระทู้นี้ก็คือจะพามาเปิดกรุเครื่องม้วนผมดงผู้ดีให้ดู เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะเคยเห็นยี่ห้อเหล่านี้กันมาบ้าง ซึ่งก็มีราคาตั้งแต่หลักพันยันหลักหมื่น วันนี้เราก็จะมารีวิวให้ดูกันแบบเต็มๆ อันนี้คือเป็นเครื่องม้วนผมของเรากับพี่สาว ทั้ง 4 ยี่ห้อดัง ตอนแรกก็เถียงกับพี่สาวอยู่ว่าตัวไหนทำลอนได้สวยกว่ากัน วันนี้ถึงเวลาแล้วที่จะมาประชันกันให้ดูจะๆ ว่าใครจะเริ่ดใครจะร่วง ไปดูกันเล้ยย
ตัวแรก ‘Lesasha jumbo curl 32 mm’ (1990 บาท) เปิดมากับราคาเบาๆ กันก่อน ของเราเอง ตัวนี้เค้าเคลมว่ามีเทคโนโลยีถนอมเส้นผม แกนม้วน เซรามิคเคลือบทัวร์มาลีนที่ช่วยให้ผมมีความเงา ตอนเปิดใช้งานแกนก็ร้อนเร็วด้วย ตัวนี้ใช้ม้วนทำลอนขนาดจะดูใหญ่ๆ พองๆกว่าปกติ แต่ตรงปลายลอนจะมีความแตกๆอยู่บ้าง
ความคิดเห็นหลังใช้ : ตัวเครื่องม้วนง่ายดีนะ เหมือนที่ม้วนลอนทั่วๆ ไป รู้สึกว่าลอนให้เกลียวใหญ่สะใจจริงๆ แต่ปลายเกลียวแตกไปหน่อย แล้วพอจับผมรู้สึกได้เลยว่าผมแห้งกว่าก่อนม้วน ซึ่งถ้าคนผมดีๆ เราว่าก็โอเคนะ
‘Create Ion Elemea Curl 32mm’ (3690 บาท) ตัวที่สองของเราเอง ซื้อมาเพราะเป็นแบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งดังมากเรื่องให้ผมสุขภาพดี เค้ามีพรีเมียมไอออนเทคโนโลยีช่วยเรื่องไม่ทำให้ผมแห้งเวลาที่เราม้วนผม คือจะกักเก็บน้ำไว้ในเส้นผมให้ผมไม่เสียง่าย หลังใช้เราว่าผมนุ่มเงาดี อ๋อ ตัวนี้ช่วยให้ผมไม่แก่ก่อนวัย
ความคิดเห็นหลังใช้ : ผมที่ม้วนออกคือเงามากและเด้งดี เวลาจับผมไปคือนุ่มอยู่ เสียดายว่าเค้ามีแกนอยู่ไซส์เดียวคือ 32mm ใครชอบแกนใหญ่อาจไม่พอ แต่เราว่าลอนกำลังดี ตัวนี้ม้วนง่ายมากผมไม่ติด ไม่สะดุด ผมที่ม้วนก็อยู่ทรงนานนะ ไม่คลายง่าย
‘Mod's hair advanced easy curl 32 mm’ (2500บาท)ตัวนี้ก็เป็นที่ม้วนผมแบรนด์จากญี่ปุ่นเหมือนกัน พี่สาวเราไปสอยมาจาก Big camera เพราะรูปลักษณ์ประหลาดกว่าแบรนด์อื่น ตรงหัวเหมือนปากเป็ด เค้าเคลมว่าทำทั้งลอนแล้วก็หนีบผมตรงได้ด้วย ส่วนลอนที่ได้ก็จะเป็นเกลียวหลวมๆ สวยดี ใครชอบแบบเกลียวไม่แน่นมากก็แนะนำตัวนี้นะ
ความคิดเห็นหลังใช้ : ตอนแรกใช้ไม่เป็นลอนจะหัก ๆ ผมจะหลุด ๆ เพราะความงงของเรา แต่พอเริ่มชิน เราชอบความม้วนผมเกลียวเป็นธรรมชาติของตัวนี้มาก แต่ผมที่ได้ออกมาค่อนข้างแห้งไม่ค่อยเงา แต่ลอนปังมาก แปลกดีบอกไม่ถูก
มาถึงตัวสุดท้าย ‘Dyson Airwrap Complete’(17900 บาท) ที่แพงหรูหราสุดๆ พี่สาวเราไปลงชื่อต่อคิวซื้อมา แบบไม่มีไม่ได้แล้ว อันนี้เค้ามาเป็นเซตมีทั้งไดร์เป่าผม หวีสำหรับไดร์ผม เครื่องม้วนผมแกนเล็ก / ใหญ่ คือเวลาใช้ก็จะสลับหัวกับตัวไดร์ ข้อดีของเค้าคือสามารถทำผมได้หลายทรง แถมบอกผมไม่เสียความคิดเห็นหลังใช้ : ใช้แล้วผมดูเงาขึ้นนะ คือถ้าไดร์ตรงหรืองุ้มปลายหน่อยๆ ก็สวยเลยแหละแต่ถ้าจะให้ม้วนลอน ส่วนตัวคิดว่ามันใช้ยาก เพราะต้องคอยสลับหัวหมุนเข้าออกไปมา ผมต้องชื้นนิดๆ เพื่อให้ม้วนติด แต่ลอนสวยเหมือนไดร์ร้าน แต่ก็คลายไวมากจริงๆ คือทำครึ่งหัวแรกเสร็จ ย้ายไปทำครึ่งหัวที่เหลือ กลับมาดูอีกทีลอนคลายแล้ว อาจจะไม่ตอบโจทย์คนที่อยากให้ลอนอยู่นานๆ แถมราคาแอบแรงสุดๆ
อันนี้เราจะให้ดูเปรียบเทียบหลังจากม้วนผมเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้สางผมให้ลอนคลายนะ ไปดูกันเลยว่าแต่ละตัวม้วนผมแล้วลอนจะเป็นยังไงบ้าง
ต่อมาคือเวอร์ชั่นสางลอนให้เป็นทรงแบบ finish look แล้วลองไปทำนู่นทำนี่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ให้ดูว่าลอนของแต่ละยี่ห้อแตกต่างกันยังไง
เราจะมาสรุปให้ดูเป็นแต่ละหัวข้อว่าหลังใช้ในความคิดเราชอบยี่ห้อไหนในเรื่องอะไรบ้าง จากมากที่สุดไปน้อยที่สุด
1.ความชุ่มชื้น เงางาม หลังม้วนเสร็จ
Create Ion > Dyson > Mod’s Hair > Lesasha
2.ลอนอยู่ทรงนาน
Mod’s Hair > Lesasha > Create Ion > > Dyson
3.การใช้งานง่าย เราให้ Create Ion กับ Lesasha เท่ากันนะ
Lesasha & Create Ion > Mod’s Hair > Dyson
4. คุณภาพเหมาะสมกับราคา
Create Ion > Mod’s Hair > Lesasha > Dyson
5. ผมคงความชุ่นชื่นข้ามวัน
Dyson > Create Ion > Mod’s Hair > Lesasha
ก็จบไปแล้วสำหรับรีวิวเครื่องทำผมพรีเมียมแบบจุกๆ ก็หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยให้หลายๆ คนตัดสินใจเลือกใช้เครื่องทำผมที่เหมาะสมกับตัวเองได้ง่ายขึ้นน้า J
ว้าว ดีงามมากค่ะ ทำผมเก่งจัง