จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงUNBOX กันค่ะ
เปิดกล่องมาจะเจอกระเป๋าสีครีม ภายในกระเป๋าก็จะมี ตัวเครื่องกำจัดขน IPL 5124 มาพร้อมกับหัวครอบขนาดเล็ก (สีขาว) ขนาดใหญ่ (สีทอง) ใบมีดโกน Gillette Venus
หัวครอบ 2 ขนาด ใช้งานคนละจุดกันค่ะ ตัวหัวครอบเล็กจะยิงบริเวณรักแร้ บิกินี่ ใบหน้าหรือจุดอื่นๆที่เป็นจุดแคบๆ ส่วนหัวครอบใหญ่จะยิงบริเวณแขน ขา หรือจุดที่กว้างๆเพื่อให้สามารถยิงได้รวดเร็วค่ะ
ที่เราเลือกเครื่องนี้ เหตุผลที่สำคัญเลย เพราะ Braun ค่อนข้างมีชื่อเสียง ทางยุโรปนี่ใครๆก็รู้จักดังมาเรื่องอุปกรณ์กำจัดขนค่ะ และเป็นเครื่องที่ผ่านการทดสอบทางคลินิก ได้รับการยอมรับจากสากลแล้ว ปลอดภัย ไม่อันตราย ทำเองได้สบายๆที่บ้านเลย (ใครกลัวเรื่อง UV เครื่องนี้มีตัวกรองแสง UV ด้วยค่ะ)
ถ้าลองดูข้างๆตัวเครื่องจะเห็นคำว่า Sensodapt มันคือระบบปรับความเข้มข้นพลังงานแสงให้เราอัตโนมัติค่ะ จะมี 10 ระดับ อย่างแขนเราสีผิวยังไม่เท่ากันตลอด ตัวนี้จะเป็นตัวที่อ่านค่าสีผิวเราในทุกครั้งที่เราเอาหัวเครื่องแนบไปกับผิว สีผิวที่ต่างกันก็จะได้ระดับความเข้มข้นของแสงแฟลชที่ต่างกัน ซึ่งเครื่องก็จะคำนวณความเหมาะสมเองว่าสีผิวสีนี้ ความเข้มข้นของแสงที่ควรจะปล่อยออกมาควรจะเป็นระดับไหน
เวลาใช้เราก็ต้องแนบหัวครอบไปกับผิวเราให้สนิท ไม่งั้นตรงแถบ Power Bar จะขึ้นสีแดงนะคะ จะไม่ยิงแสงออกมา แต่ถ้าแนบสนิทแล้วก็จะขึ้นแถบสีขาวนั่นเองค่า ซึ่งตรงนี้ดีมากๆค่ะ ใช้งานได้ปลอดภัยหายห่วง
แล้วต้องใช้ไปกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
เจ้าเครื่องนี้พนักงานเค้าแนะนำว่าให้เราใช้สัปดาห์ละ 1ครั้ง ติดต่อกัน 4 สัปดาห์ก็จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงแล้วว่าขนบางลง และถ้าใช้ติดต่อกัน 12 สัปดาห์ก็จะเห็นผลชัดเจนเลยว่าขนแทบไม่ขึ้นแล้วนั่นเองค่ะ จากนั้น เราสามารถทิ้งช่วงเป็นเดือนละครั้ง แล้วแต่สภาพผิว/ฮอร์โมนของแต่ละคนเลยค่ะ แต่เค้าบอกว่าที่สำคัญเลยคือเราต้องมีวินัยทำ IPL สม่ำเสมอในช่วงแรกนะคะ เราจะบันทึกวันที่ต้องทำไว้ใน Application นี้>> Braun silk expert pro เป็นฟรีแอปนะคะ คิดว่ามีให้โหลดทั้ง iOS ทั้ง Android (ยังไงเพื่อนๆลองไปเสิร์ชดูกันอีกทีนะคะ) จะช่วยตั้งเวลาได้ว่าเราต้องทำอีกทีเมื่อไหร่ เช่น อีก 1 อาทิตย์ / 2 อาทิตย์ / 1 เดือน / 2 เดือน
App นี้ค่า
ใช้ยังไง?
ก่อนใช้ทุกครั้งต้องโกนขนก่อนด้วยมีดโกนที่แถมมาให้ก่อนนะคะ ไม่งั้นเครื่องจะกำจัดไม่ถึงรากขน ไม่เต็มประสิทธิภาพของเครื่อง อีกอย่างถ้าไม่โกนขนก่อนหรือโกนไม่หมดอาจจะได้กลิ่นไหม้ๆออกมานะคะ55 (ขนไหม้ แต่ผิวไม่ไหม้น้า) ก่อนจะเปิดเครื่องก็ให้เสียบสายกลมเข้ากับตัวเครื่องและเสียบสายแบนเข้ากับตัว Power Supply จากนั้นเสียบปลั๊กแล้วกดปุ่มขนนกเพื่อเปิดเครื่องเลย พร้อมใช้งานแล้วค่ะ! (สำหรับตัวหัวเครื่องถ้าอยากเปลี่ยนขนาดหัวก็ให้ดึงออกตรงๆ แล้วเสียบหัวอีกขนาดเข้าไป ง่ายม้าก)
ฟังก์ชันการใช้งานหลักๆ หลังการกดปุ่มขนนกเพื่อเปิดเครื่องแล้วเราสามารถเลือกระดับความอ่อนโยนได้ด้วยค่ะ จะมี 3 ระดับ กดตรงปุ่มขนนกเหมือนเดิม ตามนี้เลยค่า
• ขึ้นไฟมา 3 ดวง จะเป็นระดับปกติ (Normal) ใช้กับแขน ขา หรือส่วนที่ไม่ Sensitive มากน้า
• ขึ้นไฟมา 2 ดวง เป็นระดับปานกลาง (Gentle) ใช้ตรงที่ผิวส่วนที่บอบบาง อย่างรักแร้ คนที่เพิ่งลองใช้ครั้งแรกอาจจะเลือกเป็นระดับนี้ได้นะคะ
• ขึ้นไฟมา 1 ดวง จะเป็นระดับอ่อนโยนสุด (Extra Gentle) ใช้ตรงผิวที่บอบบางเป็นพิเศษ อย่างเช่นใบหน้า บิกินี่โซนหรือสำหรับคนที่ผิวบอบบางมากๆก็ใช้โหมดนี้นะคะ
เราลองยิงทุกระดับแล้วค่ะ ไม่เจ็บเลยจะรู้สึกจี๊ดๆเหมือนมดกัดแค่นั้นค่ะ ไม่แสบ แดงหรือระคายเคืองเลยค่ะ
เวลาที่เราจะยิงก็กดปุ่มใหญ่ได้เลย ยิงได้ 2 โหมด
• Gliding mode ยิงบริเวณกว้าง กดปุ่มใหญ่ค้างไว้และลากไปตามผิวได้เลยค่ะ แสงจะยิงออกมารัวๆ สะดวกมากๆ โหมดนี้เราจะชอบใช้ยิงขา แขน
• Stamping mode ยิงบริเวณแคบ จะกดยิงทีละครั้ง ค่อยๆเล็งเป็นจุดๆไป อย่างรักแร้ ใบหน้า ขนบิกินี่ค่ะ
ใช้มาสักพัก เป็นยังไงบ้าง?
หลังจากที่เราใช้ไปแค่2 ครั้งแรกก็รู้สึกได้เลยว่าขนขึ้นช้าลงและขึ้นบางกว่าเดิม ผิวดูเนียน สว่างขึ้น เพราะไม่มีเส้นขนมาบดบังผิว อย่างรักแร้ เรารู้สึกว่าที่จุดที่เป็นหนังไก่ดีขึ้นด้วยนะคะ(เราแนบรูปมาด้วย ลองดูด้านล่างนะคะ)
ซึ่งเจ้าเครื่องนี้ถ้าใช้ติดต่อกัน 12 ครั้ง ขนก็แทบจะไม่ขึ้นแล้ว (เดี๋ยวเราจะลองใช้ต่อไปดู แต่คิดว่าถ้าใช้ไป 12 ครั้ง ขนก็น่าจะลดลงไปอีกเยอะนะคะ) ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าปกติแล้วเป็นคนขนเส้นหนาหรือบางมาตั้งแต่แรก และก็ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการใช้งานของแต่ละคนด้วยค่ะ ส่วนตัวบอกเลยว่าประทับใจมาก เพราะว่ามันใช้ได้สะดวก ทำที่บ้านเองได้ และชอบผลลัพธ์มากกว่าวิธีกำจัดขนอื่น เช่น โกน ถอน แว๊กซ์ ที่มันจะเสี่ยงต่อการเกิดขนคุดหรือขนขึ้นใหม่แข็งมากกว่าค่ะ
ราคาเท่าไหร่ ซื้อดีมั้ยนะ?
ราคาเต็มเครื่องนี้ประมาณ 28,XXX บาท ราคาอาจจะดูสูง แต่ด้วยจำนวนช็อตที่ยิงได้ ค่อนข้างเยอะ ( 4 แสนช็อต) และเค้าบอกว่าใช้ได้นานเฉลี่ยแล้วใช้ได้เป็น 10 ปีเลย (ใครกลัวจะพังก่อนใช้ช็อตหมด พนักงานขายบอกว่าถ้าเครื่องมีปัญหาก็เอาไปศูนย์ได้เลยค่ะ เค้าบอกว่าไม่แกะซ่อม แต่เปลี่ยนเครื่องให้เลย เราว่าดีตรงที่เราไม่ต้องเสียเวลาด้วย กว่าจะรอซ่อมอะไรต่างๆเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป)
อีกอย่างคือเครื่องนี้ทำได้ทั่วร่างกาย เทียบราคากับวิธีกำจัดขนอื่นๆที่ทำทั่วร่างกายแล้วก็ถือว่าคุ้มค่าเลยค่ะ
สำหรับตัวเครื่องถือว่าปลอดภัยมากๆ ด้วยความที่แบรนด์เค้ามีขายตามห้างด้วยเนอะ คือเค้ามีตัวแทนจำหน่าย มีศูนย์บริการลูกค้า เราเลยรู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยกว่าการซื้อเครื่องหิ้วตามท้องตลาด บวกกับเทคโนโลยีของตัวเครื่องด้วยที่เราว่าค่อนข้างไว้ใจได้เลยค่ะ
เราเป็นคนขนเยอะ พอมีเครื่องนี้แล้วดีมากค่ะ พอเห็นความผิวเนียน รูขุมขนกระชับขึ้นบ้างแล้ว ซึ่งจริงๆเราใช้ไปแค่ 2 ครั้งเอง ก็เริ่มเห็นผลบ้างแล้วค่ะ รู้สึกเสียใจที่เจอกันช้าไปของดีแบบนี้ควรมีนานแล้ววน้าา TT ก็สำหรับใครที่กำลังหาเครื่องกำจัดขนที่เป็น IPL เราแนะนำ BRAUN นี่เลยค่ะ ลงทุนครั้งเดียวใช้ยาวๆแถมหารกับเพื่อนได้ด้วยค่ะ สำหรับเรา เราว่าคุ้มค่า เพื่อนๆคิดว่ายังไงกันบ้างคะ? เรื่องคุ้มมั้ยเนี่ย เราว่าแล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนเลย แต่ถ้าใครอยากลองจับๆเล่นๆเครื่อง ลองไปดูกันตามห้างก็ได้ค่ะ ?