จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงวิธีดูแลเครื่องประดับให้สวยวิ๊งไปอีกนาน
ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง แต่จะงามขึ้นไปอีกถ้าได้เครื่องประดับสวยๆเก๋ๆ มา Mix & Match กับเสื้อผ้าตัวสวย แต่เชื่อว่าหลายคนคงเคยประสบปัญหาการเลือกเครื่องประดับไม่เป็น หรือใส่ไม่นานก็ลอกก็ดำแล้ว วันนี้เลยมีเทคนิคการดูแลรักษาเครื่องประดับมาแชร์กันค่ะ แต่ก่อนจะไปถึงวิธีการดูแลรักษาเรามาดูประเภทของเครื่องประดับกันก่อนดีกว่า
ทองคำ (Gold)
โลหะสีเหลือง ไม่หมองและไม่เป็นสนิม นิยมใช้ทองคำ 25% หรือ 18K ในการทำเครื่องประดับเพราะสามารถใช้เป็นตัวเรือนของจิวเวอร์รี่หรืออัญมณีต่างๆเนื่องจากมีความแข็งที่เหมาะสม
เงิน (Siilver)
โลหะสีขาว ที่มีการกำหนดค่ามาตรฐานที่ต้องไม่ต่ำกว่า 92.5% เรียกว่า สเตอร์ริง (Sterling) บนตัวเรือนของชิ้นงานจะประทับ 925
แพลตตินัม (Platinum)
ที่โลหะที่เงางามและแข็ง นิยมนำมาใช้ผลิตเครื่องประดับที่มีราคาสูง เพราะหายากและมีราคาสูง
พาราเดียม (Palladium)
หรือที่รู้จักกันว่าทองคำขาว เป็นการใช้โลหะผสมกับทองคำ
โรเดียม (Rhodium)
เป็นโลหะที่นิยมนำมาใช้ชุบเครื่องโลหะ เครื่องประดับที่ทำด้วยเงิน เพื่อให้เงางาม
สแตนเลสสตีล (Stainless Steel)
เป็นโลหะที่นิยมใช้ทำตัวเรือนเครื่องประดับโดยเฉพาะต่างหูมากที่สุดรองจากโลหะเงิน เพราะมีความสวยงาม แวววาว ไม่เป็นสนิม ไม่ดำ ทนทานทำความสะอาดง่าย
เครดิตภาพงานสแตนเลสสตีล จากเพจ ขายส่ง ต่างหู เครื่องประดับ แหวน สร้อย ข้อมือ accessories
มาถึงวิธีการดูแลรักษาเครื่องประดับกันค่ะ
1. ใช้แปรงนิ่มๆ ขัดเบาๆเพื่อทำความสะอาดฝุ่น,แป้ง หรือสิ่งสกปรกที่ติดตามซอกของเครื่องประดับ และตามด้วยผ้านิ่มๆเช็ดตามเพื่อให้เงางาม
2. หลีกเลี่ยงไม่ให้เครื่องประดับถูกละอองน้ำหอม หรือน้ำยาที่มีแอลกฮอล์ต่างๆ เพราะอาจจะทำให้เครื่องประดับชิ้นสวยสีหลุดลอกไม่สวยงามเหมือนเดิม
3. หลีกเลี่ยงการใส่เครื่องประดับลงสระว่ายน้ำที่เป็นคลอรีน เพราะคลอรีนจะทำให้เครื่องประดับไม่สวยงามเหมือนเดิม
4. ใช้มะนาว จะคั้นเป็นน้ำผสมเกลือเพื่อแช่กับเครื่องประดับ1 คืนแล้วขัด หรือจะใช้เป็นมะนาวซีกถูก็ได้
5. น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำแล้วใช้แปรงขนอ่อนขัด จากนั้นเช็ดด้วยผ้านุ่มๆให้แห้ง
6. น้ำร้อน เกลือ โซดา น้ำยาล้างจาน ทิ้งไว้ 5 – 10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดจากนั้นเช็ดให้แห้ง
7. ใช้น้ำยาขัดเงาสำหรับเครื่องประดับโดยเฉพาะ โดยน้ำยาทำความสะอาดเครื่องประดับบางชนิดทำมาเพื่อเครื่องประดับของแท้ ซึ่งถือว่าแรงไปสำหรับเครื่องประดับเทียม
8. เช็ดเครื่องดับทุกครั้งหลังถอด เพื่อเช็ดเอาฝุ่นหรือเหงื่อไคล ที่จะทำให้เครื่องประดับหมองออก และเก็บในถุงผ้าหรือกล่องเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เครื่องประดับกระทบกันจนเกิดเป็นรอย
อย่างไรก็ตามอายุการใช้งานของเครื่องประดับนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา และความเป็นกรดด่างในเหงื่อของผู้สวมใส่ด้วย
ข้อมูลจาก : Goal PR Consulting