ย้อมผมด้วยตัวเองไม่ยากอย่างที่คิด ทำเองที่บ้านได้ง่ายๆ

ช่วงกักตัวในยุคโควิดแบบนี้ จะออกไปไหนก็ไม่ได้ แถมร้านทำผมก็ปิด อีฟเลยรับบทเป็นช่างทำผมเองซะเลย เพราะความสวยมันรอไม่ได้นี่นา? วันนี้อีฟก็เลยจะมาเปลี่ยนลุคตัวเอง ด้วยการเปลี่ยนสีผมกันหน่อย เพราะความว่างทำให้เราต้องช็อปออนไลน์รัวๆแก้เบื่อ? ยิ่งเลือกเยอะยิ่งตัดสินใจยาก เพราะอยากทำหลายสีเยอะแยะไปหมด ก็เลยไปจบที่ครีมเปลี่ยนสีผมของญี่ปุ่นแบรนด์ “Nigao”

อย่างแรกที่อีฟเลือกครีมเปลี่ยนสีผมตัวนี้ เพราะรู้สึกว่า...มีสีให้เลือกเยอะมากกก แถมยังมีหลายเฉดสี ที่สำคัญ คือ ตัวน้ำยาเปลี่ยนสีผมของเค้า ไม่มีแอมโมเนีย ไม่มีกลิ่นฉุน แล้วก็ไม่ระคายเคืองหนังศีรษะด้วย อ้อ..ตัวแบรนด์มีครีมฟอกสีผมให้ด้วยนะคะ สำหรับคนที่อยากได้สีผมสวยตรงปกก็ต้องฟอกสีผมก่อนน้า และที่สำคัญ คือ ราคาไม่แรง มีครบทุกอย่างเกี่ยวกับการทำสีและบำรุงเส้นผม

ตอนแรกอีฟอยากจะย้อมผมสีเทาตามเทรนนะ แต่ใจยังไม่กล้าพอที่จะฟอกสีผมเอง ครั้งแรกของการย้อมสีผมเองอีฟก็เลยสั่งสีบลอนด์มาลองย้อมดูก่อนดีกว่า(^^) ข้างในกล่องก็จะมี ครีมย้อมสีผมเบอร์ 8.0 กับ Developer 9% (ส่วนอีกรูปจะเป็นแชมพู ทรีทเม้นต์ และสเปรย์บำรุงสำหรับผมทำสีที่อีฟสั่งมาด้วยนะคะ จัดเต็มครบ Set ไปเลย)

ซึ่งวิธีการย้อมผมด้วยตัวเองก็ไม่ได้ยากเลยทุกคน อุปกรณ์ก็ไม่เยอะ มีแค่ถ้วยผสมสีย้อม แปรงหวี แล้วก็อาจจะใช้กิ๊บหรือหนังยางไว้แบ่งผม แล้วก็กระจกตั้งโต๊ะไว้ส่อง ผ้าคลุมกันเลอะ แค่นี้เอง

เตรียมอุปกรณ์พร้อมแล้วเราก็มาผสมสีย้อมผมกันดีกว่า...

ตัวสีที่อีฟเลือกมาจะเป็นสีบลอนด์เบอร์ 8.0 ซึ่งใน Set เค้าจะมีตัวน้ำยา Developer 9% และ ครีมย้อมสีผม 8.0 เราก็ผสมทั้งสองอย่างนี้เข้าด้วยกันได้เลยค่ะ คนเบาๆให้เนื้อครีมเป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากผสมแล้วจะได้เนื้อครีมแบบนี้..

หลังจากผสมครีมย้อมผมเรียบร้อยแล้ว อีฟก็จะมาแบ่งผมเพื่อให้ง่ายต่อการลงสี แล้วทำให้ครีมโดนเส้นผมทั่วถึง (พอดีที่บ้านอีฟไม่มีกิ๊บตัวเล็กก็เลยจะใช้กิ๊บหนีบผมตัวใหญ่แทน) อีกอย่างผมของอีฟไม่ได้ยาวก็เลยแบ่งเป็น 2 ชั้น ได้ง่ายหน่อย ตัวอย่างการแบ่งผมประมาณในรูปนี้นะคะ

ขั้นตอนต่อมาก็คือการลงสี (ตื่นเต้นๆ ^^) อีฟจะเริ่มลงสีจากปลายผมก่อนนะ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วค่อยย้อมที่โคนในตอนสุดท้าย เพื่อที่สีจะได้ออกมาไม่ด่าง และสว่างเท่าๆกัน

จากนั้นเมื่อเราลงครีมย้อมสีผมเสร็จแล้ว ก็พักผมทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วค่อยไปล้างออกกัน

ตอนนี้ก็ครบ 30 นาที แล้วค้าบบบบ ไปล้างผมได้เลย การล้างผมก็เราจะล้างด้วยน้ำเปล่าก่อนนะคะ จากนั้นก็ค่อยล้างด้วยแชมพู 1 รอบ และตามด้วยทรีทเม้นต์อีก 1 รอบ และหลังจากสระผมเสร็จก็บำรุงผมด้วยสเปรย์เพื่อบำรุงผมหลังย้อมตอนที่ผมหมาดๆนะคะ

สเปรย์ฉีดผม อีฟว่ามันสะดวกดีนะ เพราะสามารถฉีดบำรุงหลังจากสระผมแล้วก็ได้

หรือจะฉีดบำรุงเส้นผมระหว่างวันก็ได้จ้า

ส่วนการเป่าผมหลังสระ อีฟจะเป่าผมด้วยลมเย็นนะคะ (จะไม่ใช้ไดร์ร้อนเป่าผมน้า..ไม่งั้นผมจะแห้ง และเสียง่าย) หลังจากเป่าผมแห้งแล้วจะเห็นได้เลยว่าผมของอีฟเปลี่ยนจากสีเดิมมาเป็นสีบลอนด์แบบที่ต้องการเลย สวยมากเลยยย ปลื้มมมมม

และนี่คือภาพเปรียบเทียบสีผมก่อนทำ-หลังทำของอีฟจ้าาา(รูปนี้ถ่ายในบ้านสีผมอาจดูไม่สว่างเท่าสีจริงนิดนึงนะคะ) สีผมหลังย้อมที่ได้คือเป็นสีบลอนด์แบบไล่ระดับอย่างที่ต้องการเลย และด้วยความที่อีฟเลือกที่จะไม่กัดสีผมด้วยแหละ เพราะอยากได้สีไล่ระดับและไม่อยากให้สีสว่างเกินไป ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้มันเกินคาดมาก ยิ่งเวลาเจอแสง หรืออยู่กลางแจ้งสีผมคือสวยเหมือนไปทำที่ร้านเลย ตอนแรกไม่คิดว่าสีจะสวยแบบนี้ เพราะอีฟไม่เคยย้อมสีผมเองเลย ตัวครีมย้อมผมของเค้าไม่ทำให้แสบ หรือระคายเคืองหนังศีรษะ กลิ่นก็ไม่ฉุน และที่สำคัญ!! ผมไม่แห้งเสียด้วย อยู่บ้านก็สามารถย้อมสีผมเอง ไม่ต้องไปที่ร้านก็สวยได้ ประหยัดงบไปเยอะ ^^

สภาพผมของอีฟก่อนการเปลี่ยนสี...ย้อมสีผม

สภาพผมของอีฟหลังจากที่ผ่านการย้อมสีผม ด้วยครีมเปลี่ยนสีผม “Nigao”

แล้วยิ่งเวลาโดนแดดยิ่งสวยมากกกกก

รูปนี้หลังผ่านมา 1 สัปดาห์ สีผมดูลงตัวมากเลย อีฟรู้สึกว่าตอบโจทย์สำหรับช่วงนี้มาก แม้ว่าร้านทำผมจะปิด ต้องอยู่บ้านยาวๆก็ไม่เป็นปัญหา เปลี่ยนสีครั้งหน้า ต้องมีอีกแน่นอน ติดใจแล้วค้าบบบ

ของดีราคาไม่แรงเลย คุ้มมาก ตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบอยู่บ้านอย่างเรา เปลี่ยนสีครั้งหน้า ต้องมีไปซื้อซ้ำอีกแน่นอน ติดใจแล้วค้าบบบ

มีของดีก็ต้องบอกต่อ ใครสนใจอย่าลืมไปหาซื้อมาลองกันได้ที่เพจ Nigao-brand เลยค้าบบบ