นี่แหนะ! ไหนๆ หัวข้อคือเรื่องผมบาง
ก็ต้องจั่วหัวรูปแรกด้วรูปกลางกบาล เอ้ย!
กลางกระหม่อมแบบไม่ต้องมาองมาอายกันเลยจ้าาา พอๆ เลิกเล่นๆ เข้าเรื่องได้
จากรูปเรา บางคนอาจจะมองว่าไม่ได้บางมากขนาดนั้นนิ ก็ไม่ได้ถึงกับดูล้าน
หรืออะไร แต่ถ้าคนที่เป็นแบบเราจะเข้าใจค่ะ
คือเวลาทำผมแบบแสกตรงกลางแล้วมันไม่มั่นใจเอามากๆ
คือเส้นกลางหัวมันมีระยะห่างมากเกินไป
เวลาไปไหนมาไหนกับผู้หญิงด้วยกันก็ไม่ค่อยกังวลอะไรหรอก
เพราะความสูงไม่ได้ต่างกันมาก จึงไม่ค่อยเห็นกลางกระหม่อมของเรา แต่ปัญหาคือ
เวลาที่เดินกับผู้ชายนี่ซิ ตำแหน่งที่เขาเห็นคือกลางหัวเต็มๆ
มันเลยทำให้เรารู้สึกกังวล แล้วถ้าเกิดถ่ายรูปที่สาดแฟลชแรงๆ
ยิ่งเห็นชัดเข้าไปใหญ่ พอยิ่งคิดมาก ก็ยิ่งกังวล
ไม่รู้มันเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งด้วยหรือเปล่าที่ทำให้มันบางลง
จริงๆ
แล้วมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาตึงเครียดมากจนกระทั่ง เรารู้สึกว่าปีสองปีหลัง เวลาสระผม
หรือหวีผม
ผมมันหลุดออกมามากกว่าปกติ สังเกตจากที่ดักฝุ่นตรงท่อระบายน้ำ รวมไปถึงเวลาเห็นผมที่ติดหวีออก
อาจจะด้วยวัยหรือเปล่าไม่แน่ใจ
หรือเพราะหนังศรีษะเราเริ่มอ่อนแอระคายเคืองเพราะเราไม่ดูแลรึเปล่า
ความตึงเครียดเกิดหนักข้อขึ้นก็ตอนถ่ายรูปนี่แหละ
แล้วคิดว่ามันต้องใช่แน่ๆ ต้องเป็นปัญหาจากผมไม่แข็งแรงสาเหตุจากหนังศรีษะระคายเคืงจนทำให้มันหลุดร่วงง่ายกว่าปกติ
พอทนไม่ได้เข้า จึงหาวิธิทำให้มันกลับมาดีขึ้น
คือไม่ได้คาดหวังให้มันกลับมาเต็มเหมือนตอนสาวรุ่น
แต่ก็อยากให้มันผมมันดูมีวอลลุ่มมากกว่านี้ เราก็เลยไปศึกษาวิธีการต่างๆ
ตามเว็บไซต์ และนำวิธีหลายๆ อย่างมาปรับใช้กับผม และหนังศรีษะของเราเพื่อจะทำให้มันดีขึ้นให้ได้
ด้วยทั้งวีธีธรรมชาติ อย่างสมุนไพร อาหารการกิน
รวมไปจนถึงการลงทุนกับแชมพูแก้ผมร่วง ผมบาง เพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงให้เส้นผม
และหนังศรีษะ
นี่ค่ะ เอามือสางผมตอนสระผมเสร็จใหม่ๆ
แล้วผมร่วงเยอะมากจริงๆ
มาถึงใจความสำคัญกันดีกว่า
เพื่อให้ผมของเรากลับมามีวอลลุ่ม และหนาขึ้น เราใช้ทั้งวิธีธรรมชาติอย่างสมุนไพร
ควบคู่ไปกับแชมพุแก้ผมบาง ลดผมร่วง โดยส่วนของการหมักสมุนไพร เราทำอยู่สองอย่าง
หนึ่งคือหมักมะกรูด โดยใช้วิธีการต้มมะกรูด5-6ลูก ต้มเอาแค่ให้พอนิ่ม
หรือจะเอาเข้าไมโครเวฟก็ได้ (แต่อันนี้เรากะเวลาไม่ถูก)
เพื่อให้คั้นเอาน้ำมันออกมากได้มากๆ รวมถึงใช้ขิงแก่ (ช่วยกระตุ้นการงอกเส้นผม)
ย่างพออุ่น เราใช้วิธีสับ และเอาไปตำต่อให้ละเอียดเพื่อมาทาบริเวรหนังศีรษะ อ่อ
เวลาหมักมะกรูด เราทำไม่เกิน5นาทีค่ะ อาทิตย์ละ2-3
ครั้ง
แล้วแต่สะดวก ส่วนขิงบดใช้เวลาหมักประมาณครึ่งชั่วโมง อาทิตย์ละครั้งบ้าง
สองครั้งบ้าง
ในขณะเดียวกันก็พึ่งพาวิทยาการอย่างแชมพูราคาแพงบ้างงง
5555เพราะเราคิดว่า หน้าเรายังดูแลอย่างดีเลย แล้วนี่ผมกับหนังศรีษะ
ล้านไปอายกว่าหน้าเหี่ยวอี๊กกกมีอะไรใช้ได้ใช้หมด ยกเว้นการไปปลูกผม
และกินยา เพราะเคสของเราถือว่าไม่หนักมาก เป็นเรื่องของความมั่นใจมากกว่าอาการผมร่วงรุนแรงจากกรรมพันธุ์
เราใช้การหมักผมจากสมุนไพรอย่างมะกรูด และขิงควบคู่ไปกับแชมพูสำหรับผมบาง
โดยเรามีสองตัวเลือกที่ใช้ควบคู่สลับกันไปอย่างแชมพูสมุนไพรที่หาได้ทั่วไป
(ทีมีส่วนผสมจำพวกมะกรูด ว่านห่างจระเข้ ชาเขียว หรือขิง)
กับแชมพูสำหรับผมบางอย่างEucerinสูตร
ThinningHairก่อนที่เราจะซื้อผลิตภัณฑ์ก็ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาในเว็บเมืองนอก
ด้วยความสามารถทางภาษาอังกฤษอันกระจิดริด ก็พบว่ามันมีสารช่วยลดการผลิตน้ำมัน
หรือความมันบนหนังศีรษะ และเพิ่มความแข็งแรงให้กลับหนังศีรษะเป็นTreatmentช่วยลดผมร่วงที่ทำให้ผมดูหนาขึ้น
และยังทำให้ผมดูแข็งแรงขึ้นตั้งแต่รากผมแถมช่วยบำรุงผมในแต่ละเส้นด้วย
สรุปง่ายๆก็คือ ทำให้การหลุดร่วงของเส้นผมขาดหลุดร่วงได้น้อยลงเพราะกล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะแข็งแรงขึ้น
แล้วตามดูรีวิวในไทยก็บอกว่าผมขึ้นดูหนาขึ้นถึง45%
เอาจริงๆ
ก็ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะขึ้นอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ที่เราเลือกใช้แชมพูสมุนไพร
ร่วมกับแชมพูของEucerinก็เพราะ
ได้รับการวิจัยและควบคุมจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์
ทดสอบแล้วว่ามีความโอนโยนต่อหนังศีรษะของเรานะแหละ เพราะเราเป็นคนหนังศีรษะแพ้ง่าย
ตอนไปซื้อที่วัตสันพนักงานก็บอกแนะนำให้ใช้กับTreatment
ของมันไปเลย
หน้าตาเป็นแบบนี้
จะบอกว่าราคาก็แพงอยู่
เมื่อเทียบกับยาสระผมทั่วไป ราคา495บาท ก็รุ่สึกว่าแพงนิดหนึ่ง ส่วนราคาTreatment
ก็
560บาท
กัดฟันซื้อค่ะ
ส่วนการสระเราจะสลับกับแชมพุสมุนไพรมะกรูด ซื้อได้ที่7-11
(ขี้เกียจไปหาอย่างอื่น)
กับEucerinสูตร
ThinningHairหลังจากเช็ดผมแห้งเราก็ตามด้วยเซรั่มในทุกครั้งที่สระ
โดยหยดลงไปกลางหัวเลยค่ะ หลังจากผ่านไปอาทิตย์หนึ่งเริ่มสระบ่อยไม่ไหว
เราก็สระวันเว้นวันแทน แต่ทีนี้คือสระสองรอบในครั้งเดียว
คือใช้แชมพูสมุนไพรแล้วล้างออก แล้วสระอีกครั้งด้วยEucerin (ฉลาดมั้ยละ
555)เพราะขี้เกียจมานั่งเช็ดผมเป่าผมทุกวัน อ่อ
ส่วนเรื่องหมักผมด้วยขิงบด วันไหนจะหมัก เราก็หมักทิ้งไว้ก่อนสระเลยค่ะ
แล้วก็ตามด้วยแชมพูสำหรับผมบาง จริงๆ เราไม่ชอบกลิ่นขิงเลย แต่ก็ต้องทนค่ะ
ส่วนตัวแชมพูที่ใช้ของEucerinก็ความรู้สึกเหมือนแชมพูทั่วไป
แต่เราถูกใจตรงที่Thinning Hair Treatmentของมันค่ะ
เพราะเนื้อมันบางเบา แล้วก็ไม่เหนอะหน่ะ หยดแล้วตบๆ ก็ออกนอกบ้านได้เลย
หลังจากผ่านไปสองเดือนจากการทำซ้ำๆ ข้างต้น
ทั้งออกกำลังกาย เลี่ยงของมัน ของเค็ม และผงชูรส หมักขิงหมักมะกรูด
และแชมพูลดผมบาง ผลลัพที่เห็นก็แบบนี้ค่ะ
คือมันไม่ได้ขึ้นจนหนา
และเห็นได้ถึงความแตกต่างจากหน้ามือเป็นหลังมือขนาดนั้นนะคะ แต่ว่า
มันก็เพิ่มความหนาแน่น จากของเดิมขึ้นมาระดับหนึ่ง เพราะก่อนที่จะมาดูแล
และบำรุงมัน ตรงกลางหัวจะเห็นเป็นเส้นแบ่งกว้างๆ ขัดเจน แต่อันนี้ดีขึ้น
และหนาขึ้น คืออย่างน้อยๆ ก็มั่นใจกับการแสกกลางมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
ส่วนเรื่องผมร่วงก็ยังร่วงอยู่นะคะ แต่ว่าไม่ได้หลุดง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้วสำหรับตอนนี้ก็ขอจบการรีวิวยาวๆเพียงเท่านี้
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจบค๊า บ๊าบบาย