ทำเลสิคไม่น่ากลัวอย่างที่คิด…..
สวัสดีค่ะวันนี้ได้โอกาสอันดีหลังจากที่ผ่านการทำเลสิคมาเกิน 1 สัปดาห์แล้ว กลับไปพบคุณหมอและได้รับการยืนยันว่าสายตากลับมาเป็นศูนย์ (สายตาปกติ) แล้ว
จากที่เพื่อน ๆ และคนรู้จักหลาย ๆ คนทักมาถาม ภาจะนำมาเล่าโดยแบ่งเป็นParagraph
ดังนี้ค่ะ
เผื่อยาวก็เลื่อนไปอ่านที่ต้องการได้ค่ะ
1.เกริ่นถึงปัญหา
2.การเตรียมความพร้อม
3.ขั้นตอนและความรู้สึกตอนทำเลสิค
4..ความรู้สึกหลังทำ และวิธีการดูแลตัวเอง
1.ภามีปัญหาสายตาสั้นมาตั้งแต่ประถม
ถ้าจะไม่ผิดน่าจะตั้งแต่ป.1
แต่ตอนเด็กๆก็ยังไม่อยากใส่แว่นเพราะอายเพื่อน เพื่อนคนอื่นเขาไม่ใส่กัน
ก็จะใช้วิธีวิ่งไปอ่านกระดานแล้ววิ่งกลับไปเขียนที่โต๊ะ ลำบากมาก
จากนั้นจึงตัดสินใจให้แม่พาไปตัดแว่นตอนประมาณป.3
และพบว่าสายตาสั้นประมาณ 300-400 แล้ว แว่นหนามาก 555 ก็ใส่แว่นมาเรื่อย
ๆ แต่ไม่ได้ใส่ตลอด ก็จะชอบถอดแล้วถือไว้วางแว่นลืมไว้ที่นู่นที่นี่
จนแว่นหายต้องเดินหากับเพื่อนทั่วโรงเรียนให้วุ่นวาย555 จนกระทั่งขึ้นม.3
เพื่อนเริ่มใส่คอนแทคเลนส์กัน ก็เลยไปใส่คอนแทคเลนส์บ้าง ใส่ตั้งแต่ม.3 จนปัจจุบัน
ก็ใส่มาเกือบสิบปี มีปัญหาเกี่ยวกับตาอยู่ตลอด ยิ่งตอนช่วงมหาลัย ทำกิจกรรมดึก
ทำรายงาน หนักเรียนหนัก ก็จะมีช่วงที่มีปัญหาเกี่ยวกับตาอยู่ตลอด ตาแดงบ้าง
เจ็บตาบ้าง ตุ่มไขมันขึ้นบนเปลือกตาจนต้องไปดูดออกบ้าง จนเพื่อนที่สนิทเห็นแล้วทนไม่ไหวต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับโทษของคอนแทคเลนส์มาให้อ่าน
หารีวิวทำเลสิคมาให้อ่าน ก็ยังไม่วายใช้คอนแทคเลนซ์อย่างหนักหน่วงมาตลอด
ใส่ตั้งแต่ตอนตื่น บางทียิงยาวไปถึงตีหนึ่งตีสอง (ที่จริงไม่ควรเกิน8ชั่วโมงต่อวัน)
ขี้ลืมอีกต่างหาก ต้องมีคนใกล้ตัวคอยเตือนให้ถอดคอนแทคเลนส์ก่อนนอนตลอด
ตอนเรียนว่าใช้เยอะแล้ว ตอนทำงานยิ่งหนักไปอีก ใช้สายตาเยอะมากขึ้น ต้องอยู่หน้าจอคอมเป็นเวลานานๆ
เตรียมการสอนจนดึกบ้าง แถมชอบนอนเอียงอ่านหนังสืออีก ทีนี้ไปกันใหญ่เลยจากที่ค่าสายตาสั้นประมาณ
750 ทำงานไปได้สักปีกว่ารู้ว่าเริ่มมองไม่ค่อยชัดขึ้นไปอีก แถมตาแห้งมาก
ตาสู้แสงไม่ค่อยได้ บางวันนั่งทำงานไม่ได้รู้สึกง่วงนะ แต่หัวหน้าก็จะถามตลอดว่าง่วงหรอ
ตาปรือมาก5555 ก็มาเริ่มสังเกตุละว่าตาคงล้ากับการใส่คอนแทคเลน์และการใช้ตาอย่างหนักหน่วงละ
จึงเริ่มกลับมาหาข้อมูลจากรีวิวต่าง ๆ
เกี่ยวกับการแก้ไขค่าสายตาหรือการทำเลสิคนั่นเอง
ไปสอบถามมาหลายที่อ่านรีวิวมาก็หลายรีวิว ราคาส่วนมากค่อนข้างสูง มีตั้งแต่50,000-100,000
บาท
ราคาแรงมากก เอามือทาบอก555 จนกระทั่งไปเจอรีวิวของผู้หญิงคนนึงรีวิวในเฟส
ได้อย่างละเอียด อ่านแล้วรู้สึกไม่น่ากลัวเลย แถมราคาอยู่ในเรทที่รับได้
ก็ตัดสินใจโทรไปจองเลยตั้งแต่วันที่ได้อ่าน ขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ
วันนี้จึงมารีวิวต่อ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังตัดสินใจทำเลสิคนะคะ
2.หลังจากที่อ่านรีวิวมามากมายก็ได้ข้อสรุปแล้วว่าจะเข้าทำการรักษาที่
โรงพยาบาลแห่งนึง ภาโทรไปติดต่อจองล่วงหน้าเกือบเดือน
พี่เจ้าหน้าที่แนะนำขั้นตอนการเตรียมความพร้อมก่อนทำเลสิค
- งดใส่คอนแทคเลนส์
5-7 วัน
- งดแต่งหน้าวันที่ไปทำการตรวจและทำการรักษา
-งดการใช้น้ำหอมหรือเครื่องหอม
-ใส่เสื้อที่เป็นกระดุมเพื่อสะดวกต่อการเปลี่ยนหลังจากทำเลสิค
เมื่อถึงวันนัดภาไปถึงประมาณ9
โมง
มีคนมารอทำเลสิคน่าจะเกือบสิบคน พอไปถึงก็ทำการกอกประวัติที่ชั้น1
(สำหรับผู้ป่วยใหม่)จากนั้นเจ้าหน้าที่พาขึ้นไปที่ศูนย์เลสิคชั้น4 นั่งรอไม่นานพยาบาลก็เรียกเข้าไปกรอกประวัติเกี่ยวกับสายตา
การแพ้ยาและโรคประจำตัวต่าง ๆ จากนั้นรออีกประมาณ10นาที
ก็ไปตรวจความดันตา เป็นเครื่องที่มีลมเป่ามาที่ลูกตาเหมือนเวลาตรวจตาทั่วไป
จากนั้นตรวจวัดสายพา เป็นเครื่องให้มองเข้าที่จุดสีเขียวมีฉากเป็นทุ่งลาเวนเดอร์555
จากนั้นก็ไปพบคุณหมอตรวจสายตาด้วยเครื่องคล้ายๆ แบบเดิมไม่มีลม
แต่มีแสงจ้า น้ำตาจะไหล คุณหมอดึงเปลือกตาเราขึ้น
ของภาตาข้างซ้ายสู้แสงได้ดีกว่าตาข้างขวา คุณหมอแจ้งว่าความดันตาปกติ ตาไม่แห้งมาก
แต่มีปัญหาตาเล็ก ถ้าตอนแยกชั้นกระจกตาแล้วไม่ถนัด
อาจจะต้องกรีดหางตาเพื่อจะได้ทำสะดวกมากขึ้น (คุณหมอบอกกรีดหางตาไม่น่ากลัว..แต่ภากลัว555)
จากนั้นไปตรวจวัดสายตาดัวยการอ่านเลขและตัวหนังสือภาษาอังกฤษทั่วไป
เหมือนตอนตัดแว่น ตรวจอยู่หลายรอบมกจนชัดแบบสามารถอ่านตัวอักษรเล็กๆได้ทุกตัว
เสร็จแล้วไปตรวจดูความหนาของกระจกตา
อันนี้ลุ้นมากเพราะถ้ากระจกตาหนาไม่พอก็จะมาสามารถทำเลสิคได้
ตอนแรกภากลัวมากเพราะคิดว่าตัวเองใส่คอนแทคเลนส์มานานจะทำให้กระจกตาบาง
แต่คุณหมอบอกว่าไม่เกี่ยวกับการใส่คอนแทค แต่เป็นสิ่งที่มีมาแต่กำเนิด
เครื่องตรวจเป็นแสงสีฟ้าหมุนๆเพื่อแสกนความหนาของกระจกตา
และผลที่ออกมาคือหนาพอที่จะสามารถทำเลสิคได้ เย้555 จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็หยอดยาขยายม่านตา
ให้อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการทำเลสิค การดูแลตัวเองหลังทำเลสิค
และเซ็นยินยอมรับการรักษา สอนเช็ดทำความสะอาดดวงตาหลังจากทำเลสิค จากนั้นให้ไปทานอาหารกลางวัน
และกลับมารอทำเลสิคในช่วงบ่าย
3.ทานข้าวเสร็จเตรียมพร้อมทำเลสิคแบบเต็มที่
ที่นี่ดีมากตรงสามารถตรวจตอนเช้าแล้วทำตอนบ่ายได้เลย
ไม่ต้องแบ่งเป็นหลายวันเหมือนที่อื่น นั่งรอสักพักคุณหมอมาอธิบายรายละเอียดขั้นตอนการทำ
และข้อสงสัย อธิบายละเอียดมากและนุ่มนวลมาก จนนึกคำถามที่จะถามไม่ออก
มีแต่ความสบายใจที่ได้เพิ่มมากขึ้น เลิฟฟเลย555 ฟังหมอเสร็จเจ้าหน้าที่ก็พาไปชำระเงินทั้งหมด
ประมาณ 38,000 บวกค่าอื่น ๆอีกนิดหน่อย ก็ประมาณ39,000 บาท
คือเตรียมเงินไปสี่หมื่นก็ได้ตาใสใสกลับบ้านเลย เป็นราคาที่ถูกมากกกกเท่าที่หามา
รีบกำเงินจ่ายเลย555 จากนั้นก็มารับยาและอุปกรณ์ดูแลดวงตา ประกอบด้วย ฝาครอบตา เทปกาว สำลี
น้ำตาเทียม ยาหยอดฆ่าเชื้อ วิตามินบำรุง ยาแก้ปวด และยานอนหลับแบบอ่อนๆ พร้อมใบนัดหลังทำ1สัปดาห์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เรียกคนไข้แต่ละคนเข้าไป
ภาได้ทำประมาณบ่ายสาม ตื่นเต้นมาก เจ้าหน้าที่เรียกเข้าไปให้ล้างหน้า
และเปลี่ยนเป็นชุดสีเขียวปลอดเชื้อ จากนั้นเจ้าหน้าที่หยอดยาชาให้
ภาเห็นคนข้างๆน้ำตาไหลบอกแสบมาก แต่ของภาไม่แสบเลยก็เลยรีบถามเจ้าหน้าที่ว่ายาชามันจะออกฤทธิ์ชัวมั้ยคะ
พี่เขาบอกชาแน่นอน ถ้าตอนทำอยู่ไม่ชาให้ออกมาบอกพี่ อ้าวววววววววววว 55555 รอยาชาออกฤทธิ์ (จะรู้สึกหนักๆตาเหมือนตาปรือ)
เดินเข้าไปในห้องทำเลสิค นอนลงบนเตียง อากาศเย็นมากกกก
จากนั้นเครื่องก็ปิดลงมาบนลูกตาทีละข้าง คุณหมอบอกให้ทำตาโตที่สุดเท่าที่จะทำได้
และมองไปที่แสงสีเขียว จากนั้นคุณหมอก็กรีดเปิดกระจกตา
คือภาเห็นเลยว่าคุณหมอคีบมาไวข้างๆ555 จากนั้นคุณหมอบอกจะยิงเลเซอร์แล้วนะครับ นับ…..
โอ้โหความรู้สึกเหมือนจะหยุดหายใจ คือไม่กล้าหายใจ
กลัวตาขยับตอนกำลังยิงแล้วผิดพลาด (แต่เลเซอร์จะขยับตาลูกตาไม่ต้องกลัว
แค่อย่าตกใจจนบีบตา) จากนั้นเลเซอร์ยิงมาบนลูกตา ได้ยิงเหมือนเสียงช๊อตยุง
และมีกลิ่นไหม้เบาๆ กำลังคิดว่าจะสวดมนต์บทอะไรดี ขึ้นนะโม
คุณหมอก็บอกว่าเสร็จแล้วหนึ่งข้าง ต่ออีกข้างเลยนะ ทำแบบเดิมเหมือนกันสองข้าง
สรุปยังไม่ทันสวดมนต์ก็เสร็จแล้วอะ เร็วมาก ของภาสายตาสั้นเยอะสั้นข้างนึง
900 และอีกข้าง 1000 นึงมีเอียงอีกตังหาก (ค่าสายตาขึ้นมาเยอะมากจาก750 จากการใส่คอนแทคเลนส์และใช้สายตาหนัก)
ของภาประมาณข้างละเกือบนาที
ถ้าใครสายตาสั้นน้อยก็จะใช้เวลาน้อยลงไปอีก
4.ความรู้สึกตอนทำคือไม่เจ็บเลย อาจจะตกใจจนสะดุ้งบ้างนิดหน่อย
ยิงเลเซอร์เสร็จพยาบาลก็มาปิดที่ครอบตาให้ คือระหว่างที่กำลังครอบตา
คือเริ่มเห็นอะไรดีขึ้นกว่าตอนก่อนทำแล้วอ่ะ
จากนั้นเข้าหน้าที่เข็นรถเข็นมารับกลับบ้านอย่างปลอดภัย
กลับมาบ้านมีอาการปวดตานิดหน่อย ก็รีบกินข้าวกินยานอนหลับ และยาแก้ปวด
ของภาโชคดีมากไม่มีอาการแสบตาเหมือนมีทรายหรือกรวดอยู่ในตาแบบคนอื่น คือนอนหลับสบายๆไปเลย
นอนตั้งแต่หกโมงตื่นมาอีกทีตอนเช้า แกะที่ครอบตาออกมาคือเริ่มชัดแล้ว
แต่เหมือนมีฟ้าลอยๆนิดหน่อย ก็รีบอาบน้ำไปพบคุณหมอตรวจความเรียบร้อย
หมอแจ้งว่าค่าสายตากลับมาเป็นศูนย์เลยนะ ไม่ขาดไม่เกิน
(บางคนไม่สามารถทำให้เป็นศูนย์ได้ในครั้งเดียว คุณหมอยินดีแก้ไขให้เพิ่ม
หาดกระจกตายังไม่บางเกินไป) ตรวจแล้วไม่มีอะไรผิดปกติก็กลับบ้านได้
ต้องดูแลสายตาอย่างดีเป็นเวลา1 สัปดาห์ ห้ามแต่งหน้า ห้ามสระผมเอง ห้ามทาครีม
ห้ามโดนน้ำ ห้ามกระเทือน ห้ามใช้สายตามาก และต้องใส่แว่นกันแดดต้องเช็ดตาด้วยน้ำเกลือ หยอดยาฆ่าเชื้อ และน้ำตาเทียม
ในช่วง2-3วันแรกสายตาชัดกว่าตอนใส่คอนแทคเลนมาก แต่ยังมีมองใกล้ไม่โฟกัส
และจะมีตาเบลอบ้างบางช่วง ปวดหัวบ้างเมื่อใช้สายตา ก็นอนพักหรือหลับตาจะดีขึ้น
จากนั้นครบ1 สัปดาห์ไปพบคุณหมอ แจ้งว่าตาปกติดีไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่งดว่ายน้ำและดำน้ำลึก
จนวันนี้รู้สึกตัดสินใจถูกมากที่เข้าทำเลสิค คุ้มมากสี่หมื่นน กลับการมองเห็นที่ดีขึ้น
มั่นใจมากขึ้น รู้สึกโลกสดใสเลย เลสิคไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย(ตอนกลางคืนจะกลัวผีหน่อยเพราะเห็นชัดมากกว่าเดิม55555 )
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่อ่านนะคะ โลกที่สดใสรอเราอยู่น้าอิอิ^^