อัปเดต 14 เรตินอลตัวปัง 2025 ยี่ห้อไหนใช้ดีหน้าใส ขนมาหมด!

navigate_beforeย้อนกลับ

0 

“ปวดหลัง” ออฟฟิศซินโดรมอันตรายกว่าที่คิด

มนุษย์เงินเดือนหรือหนุ่มๆ สาวๆ ออฟฟิศทั้งหลาย เชื่อเลยว่าต้องมีอาการออฟฟิศซินโดรมกันเป็นแถวๆ อย่างแน่นอน เพราะส่วนหนึ่งของอาการปวดหลังนั้นเกิดมาจากการที่เราทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันซ้ำๆ อย่างการนั่งหน้าคอม จ้องคอมเป็นเวลานานๆ โดยที่ท่านั่งนั้นไม่ถูกต้อง นอกเหนือจากการนั่งทำงานในออฟฟิศแล้ว กิจกรรมอื่นๆ อย่างการยกของหนักเกินไป การเล่นกีฬา หรือการที่ร่างกายถูกกระแทกก็อาจส่งผลให้เกิดโรคปวดหลังได้ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่แค่กับผู้สูงอายุเท่านั้นแต่อาการปวดหลังนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย

 

ต้นเหตุของโรคปวดหลัง

สาเหตุหลักๆ ที่เป็นที่มาของอาการปวดหลังนั้นมาจากหลายปัจจัย แต่สิ่งสำคัญคือกิริยาท่าทางการใช้ร่างกายที่ผิดท่าทางจนทำให้เกิดอาการเคล็ดขัดยอก การตึง จนเกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ปัญหาหมองรองกระดูก และเส้นประสาทต่างๆ หรือบางครั้งอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ต่อเนื่องมาจากโรคหรือภาวะที่ร่างกายผิดปกติไป เช่น อาการปวดประจำเดือน เป็นต้น

 

อาการของโรคปวดหลัง

คนที่ปวดหลังบางครั้งอาจจะมีอาการเกิดที่บริเวณจุดที่ปวดเพียงอย่างเดียว แต่บางครั้งอาการปวดหลังอาจจะลามไปที่อวัยวะบริเวณอื่นได้ เช่น ปวดหลังร้าวลงมาที่สะโพก หรือปวดหลังลามลงมาถึงขา โดยสาเหตุที่ปวดต่อกันไปเป็นทอดๆ นั้นเป็นเพราะเส้นประสาทนั้นมีการเชื่อมต่อกันอยู่ทั้งร่างกาย โดยในผู้ป่วยบางคนอาจจะปวดหลังในลักษณะที่เหมือนมีเข็มเล็กๆ แทง หรือบางครั้งอาจจะเป็นอาการปวดหน่วงๆ ตามอวัยวะต่างๆ ก็เป็นได้

 

อาการปวดหลังที่นานเกิน 4 สัปดาห์มักเกิดจาก

กลุ่มอาการปวดหลังที่นานเกินหนึ่งเดือนขึ้นไป มักจะไม่ใช่การปวดหลังธรรมดา โดยสาเหตุอาจเกิดจาก หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน, กระดูกสันหลังคด, กล้ามเนื้อเกิดพังผืดหรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ออฟฟิศซินโดรม มีการหดตัวของเนื้อเยื่อ ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดีพอทำให้ปมกล้ามเนื้อใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นอาการปวดหลังเรื้อรัง

 

วิธีการรักษาโรคปวดหลัง

ทางเลือกในการรักษาโรคปวดหลังนั้นหลักๆ มีอยู่ 2 วิธีคือการรักษาอาการปวดหลังแบบการผ่าตัดและไม่ผ่าตัด โดยการรักษาแบบผ่าตัดนั้นจะใช้กับผู้ป่วยที่อาการหนัก อาทิ ควบคุมร่างกายไม่ได้ แขนขาอ่อนแรง ปวดหลังถึงขนาดที่เดินไม่ได้เลย เป็นต้น และการรักษาแบบไม่ผ่าตัดได้แก่ การกินยาตามแพทย์สั่ง การทำกายภาพบำบัด การฉีดยาสเตียรอยด์ เป็นต้น

 

เชื่อว่าทุกๆ คนคงต้องเคยประสบพบเจอกับปัญหาปวดหลังกันมาบ้างแล้ว แต่หากใครที่คิดว่าอาการปวดหลังที่เป็นอยู่นั้นแลดูผิดปกติ ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกเหมือนเดิมแล้วล่ะก็ อยากแนะนำให้ลองปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้การวินิจฉัยและการรักษานั้นเป็นไปได้อย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันอาการของโรคปวดหลังก่อนที่จะส่งผลถึงขั้นร้ายแรง เพราะสามารถลามไปที่เส้นประสาท ไขสันหลัง กระดูก และส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันต่อไปในอนาคตได้อีกด้วย

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1

ทำงานออฟฟิต เป็นแบบนี้เลยค่ะ นั่งนานปวดหลังมาก ต้องลุกขึ้นเดินไปมา

20 ก.ย. 2561 เวลา 15:03 น.
What's new
ป้ายยา 5 อันดับครีมกันแดดหน้า ยี่ห้อไหนดี บางเบา ซึมง่าย สบายผิว จากรีวิวผู้ใช้จริงแนะนำ 5 อันดับไอเท็มจัดการฝ้าซ้ำซาก จะฝ้าแบบไหนก็เอาอยู่ รวมตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน รีวิว 5 รองพื้นผิวโกลว์ บางเบาแต่ปกปิดเนียนกริบ ติดทนตลอดวันETUDE ส่งท้ายปีกับคอลเลคชั่นใหม่ Dear My Bestie ด้วยความน่ารักแบบเกินต้าน!Sea Moss Gel คืออะไร? ส่อง 5 คุณประโยชน์ของ Sea Moss ที่สายเฮลตี้ต้องรู้อัปเดต 14 เรตินอลตัวปัง 2025 ยี่ห้อไหนใช้ดีหน้าใส ขนมาหมด!บอกต่อ! 11 ยาสีฟันสมุนไพร ยี่ห้อไหนดี แก้ปวดฟัน ลดอาการเหงือกบวมอักเสบดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 22 - 28 ธ.ค. 67 (ทุกราศี) เท้าแตก ทําไงดี? 5 สูตรสครับแก้เท้าแตก ให้ผิวเนียนนุ่ม ไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์Cosmenet* ส่งท้ายปีกับไอเทม Redeem แบบจุใจตลอดเดือนธันวาคม 2024!