จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงโอเมก้า 3 6 9 เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ร่างกายสร้างเองไม่ได้ แต่ขาดไม่ได้แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าดีแบบไหน อย่างไรบ้าง โอเมก้ามีหลายประเภท ส่วนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเห็นจะเป็น โอเมก้า 3 โอเมก้า 6 โดยโอเมก้า 3 6 9 มีความแตกต่างกันดังนี้
โอเมก้า 3 คือกลุ่มของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวชนิดหนึ่ง เป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกายอย่างมาก ร่างกายของคนเราขาดโอเมก้า 3 ไม่ได้ แต่กลับไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ฉะนั้นจึงต้องได้รับจากการทานอาหารที่มีปริมาณโอเมก้า 3 แทน
อาหารที่พบว่ามีปริมาณโอเมก้า 3 เยอะ ได้แก่ อาหารจำพวกปลาและอาหารทะเล โดยเฉพาะจำพวกปลาน้ำเย็น เช่น แซมอน แมคเคอเรล ทูน่า และซาร์ดีน เป็นแหล่งของโอเมก้า 3 ชั้นดี
โอเมก้า 6 เป็นกรดไขมันแบบไม่อิ่มตัว ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้เช่นเดียวกันกับ โอเมก้า 3 แต่เราสามารถได้รับจากการรับประทานอาหาร กรดไขมันโอเมก้า 6 ที่สำคัญมีอยู่ 2 ประเภท คือ กรดไขมันไลโนเลอิก และกรดไขมันอะราคิโดนิก พบมากในในน้ำมันพืชต่างๆ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง ดอกทานตะวัน ข้าวโพด เป็นต้น
ความสำคัญของโอเมก้า 6 คือเป็นตัวถ่วงสมดุลของโอเมก้า 3 อีกทีหนึ่ง ดังนั้นหากร่างกายได้รับทั้งโอเมก้า 3 และ 6 พร้อมกันก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิ์ภาในการทำงานได้ดีขึ้น
โอเมก้า 9 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวหรือที่เรียกว่า “มูฟ่า (MUFAs)” พบใน น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันคาโนลา น้ำมันถั่วลิสง อะโวคาโด เนยถั่ว อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดงา วอลนัท ดีต่อสุขภาพผิว และหัวใจ
อย่างไรก็ตาม กรดไขมันโอเมก้า 9 ไม่ถือว่าเป็นกรดไขมันจำเป็น (Essential fatter acid) เนื่องจากว่าร่างกายของคนเราสามารถสร้างกรดไขมันชนิดนี้ได้เองจากไขมันไม่อิ่มตัวโอเมก้า 3 และ/หรือ โอเมก้า 6 (ซึ่งถ้าร่างกายขาดโอเมก้า 3 และ 6 ล่ะก็ เจ้าโอเมก้า 9 จะกลายเป็นกรดไขมันจำเป็นขึ้นมาทันที เพราะว่าร่างกายของเราไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้เนื่องจากขาดวัตถุดิบนั่นเอง)
ดังนั้นจึงแนะนำให้ทานอาหารที่อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 และ โอเมก้า 6 และ 9 อย่างสมดุล และควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วยนะคะ
แหล่งที่มา honestdocs.co
thx ka