How to สะสมคะแนน Cosmenet เก็บคะแนนให้ครบทุกวัน ต้องทำยังไงบ้าง?

navigate_beforeย้อนกลับ

0 

การใช้และปัญหาจากยาใกล้ตัว : ทำความรู้จักกับยาเม็ดคุมกำเนิด

ทำความรู้จักกับยาเม็ดคุมกำเนิด 

ยาเม็ดคุมกำเนิดประกอบด้วยฮอร์โมน 2 ชนิด คือ เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ออกฤทธิ์ร่วมกันในการคุมกำเนิด โดยผ่าน 3 กลไก คือ ควบคุมระดับฮอร์โมนของร่างกายเพื่อไม่ให้เกิดการตกไข่ เพิ่มความเหนียวข้นให้กับของเหลวบริเวณปากมดลูกเพื่อให้อสุจิเข้าไปปฏิสนธิได้ลำบาก และทำให้ผนังมดลูกบางเพื่อไม่ให้ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วสามารถฝังตัวได้

ยาคุมกำเนิด

คำเตือนของการใช้ยาคุมกำเนิด

ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม

  • อาจมีผลข้างเคียงหลังใช้ยา อย่างอาการปวดหัว คลื่นไส้ ปวดบริเวณหน้าอก น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลง มีเลือดไหลก่อนถึงรอบประจำเดือน หากอาการเหล่านี้ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องภายใน 2-3 เดือน ควรเปลี่ยนยา หรือเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่น
  • ในบางราย อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้
  • ผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไปที่สูบบุหรี่ และผู้ที่กำลังรับยาหรือการรักษาอื่นอยู่ ไม่ควรใช้ยานี้
  • การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดอย่างถูกวิธีจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ แต่ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนตัวเดียว

  • อาจมีผลข้างเคียงจากการใช้ยา อย่างผิวเป็นฝ้า กระ ซึ่งอาการจะหายไปภายใน 2-3 เดือน
  • อาจมีผลกระทบต่อประจำเดือน เช่น ประจำเดือนอาจมาผิดปกติ มาน้อยลง หรือมาบ่อยขึ้น
  • ในบางรายอาจมีเลือดไหลก่อนถึงรอบประจำเดือน
  • ไม่ควรใช้ยานี้หากกำลังป่วย คลื่นไส้อาเจียน หรือท้องร่วงอย่างรุนแรง
  • หากกำลังเข้ารับการรักษาหรือรับยาอื่นอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาคุมกำเนิด
  • การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดอย่างถูกวิธีจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ แต่ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

ทั้งนี้ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์ ต้องรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดอย่างถูกต้องอยู่เสมอ ทั้งในปริมาณและตามเวลาที่กำหนด หากลืมรับประทานยา ให้ทำตามขั้นตอนที่เภสัชกรแนะนำหรือที่พบบนฉลากการใช้ยา

ปริมาณการใช้ยาคุมกำเนิด

  • ปริมาณ 1 แผง 21 เม็ด รับประทานวันละ 1 เม็ด
  • ปริมาณ 1 แผง 28 เม็ด รับประทานวันละ 1 เม็ด

การใช้ยาคุมกำเนิด

สำหรับยาเม็ดคุมกำเนิดแบบ 1 แผง 21 เม็ด ให้รับประทานวันละ 1 เม็ด โดยเริ่มจากเม็ดแรกตามวันในสัปดาห์ที่มีสัญลักษณ์อยู่บนแผง จากนั้นรับประทานเม็ดต่อไปตามลำดับติดต่อกันทุกวัน เมื่อยาหมดแผง หยุดรับประทานยา 7 วัน (ซึ่งเป็นวันที่ประจำเดือนมา) เมื่อเข้าสู่วันที่ 8 ไม่ว่าประจำเดือนจะหมดแล้วหรือไม่ ให้เริ่มรับประทานยาแผงใหม่ต่อไปได้ทันที โดยต้องรับประทานยาทุกวันในเวลาเดียวกันเสมอ หากลืมรับประทานยาตามเวลาเดิมภายใน 24 ชั่วโมง ให้รับประทานยาเม็ดที่ลืมทันทีที่รู้ตัว แม้จะใกล้กับช่วงเวลาของยาเม็ดต่อไปก็ตาม และรับประทานยาเม็ดต่อไปตามเวลาปกติ แต่หากลืมรับประทานยานานเกินกว่า 48 ชั่วโมง ให้ข้ามไปรับประทานยาตามวันปัจจุบัน แล้วใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นช่วยในการป้องกันหากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลา 7 วันหลังกลับมารับประทานยา

ส่วนยาเม็ดคุมกำเนิดแบบ 1 แผง 28 เม็ด ให้รับประทานวันละ 1 เม็ด ติดต่อกันทุกวัน เมื่อยาหมดแผง สามารถเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ได้ทันที โดยต้องรับประทานยาทุกวันในเวลาเดียวกันเสมอ หากลืมรับประทานยาภายใน 3 หรือ 12 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับชนิดของยา) ให้รับประทานยาเม็ดที่ลืมทันทีที่รู้ตัว แม้จะใกล้กับช่วงเวลาของยาเม็ดต่อไปก็ตาม ในกรณีที่ลืมรับประทานยาหลายเม็ด ให้รับประทานเพียงเม็ดเดียว และรับประทานยาเม็ดต่อไปตามเวลาปกติ และหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลา 2 วันถัดมา หรือใช้วิธีอื่นช่วยในการคุมกำเนิดด้วย เพราะยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนตัวเดียวจะใช้ระยะเวลา 2 วันในการสร้างเมือกที่หนาป้องกันไม่ให้สเปิร์มไปผสมกับไข่ได้

ผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดด้วยการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด ควรเริ่มรับประทานยาเม็ดแรกในเวลาที่สะดวกและเหมาะสม เพราะจะต้องรับประทานยาในเวลาเดิมทุกวัน

หากมีข้อสงสัย ควรศึกษาข้อมูลบนฉลาก รวมทั้งปรึกษาแพทย์และเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มใช้ยา

ผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมกำเนิด

ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหลังการใช้ยา ดังนี้

  • มีเลือดไหลก่อนรอบประจำเดือน
  • เกิดอาการปวดหัว คลื่นไส้วิงเวียน ปวดหน้าอก อารมณ์แปรปรวน
  • ทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นได้
  • เพิ่มความเสี่ยงปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น การเกิดลิ่มเลือดอุดตัน มะเร็งเต้านม

ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนตัวเดียว อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหลังการใช้ยา ดังนี้

  • มีเลือดไหลก่อนรอบประจำเดือน ประจำเดือนมาไม่ปกติ
  • อารมณ์แปรปรวน
  • เกิดปัญหาสิวอุดตัน
  • น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
  • ปวดหัว ปวดหัวไมเกรน
  • ปวดหน้าอก หน้าอกขยายใหญ่ขึ้น
  • ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน
  • มีแรงขับทางเพศที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง
  • เกิดถุงน้ำ (ซีสต์) ที่รังไข่    

ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีจำหน่ายในประเทศไทย

ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิด 21 เม็ด ได้แก่

  • Diane® 35
  • Sucee®
  • Preme®
  • Marvelon® 21
  • Mercilon® 21
  • Gynera® 21
  • Minulet®
  • Meliane®
  • Melodia®
  • Cilest®
  • Yasmin®
 

ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิด 28เม็ด ได้แก่

  • Margaret®
  • Marnon®
  • Microgynon® 30 ED
  • Regevidon® Anna®
  • Microgest ED®
  • Triquilar® ED
  • Marvelon® 28
  • Gynera® 28
  • Mercilon® 28
  • Meliane®ED
  • YAZ®
  • Oilezz®

ปัญหาที่พบได้จากการใช้ยา

  • ลืมรับประทานยา

การจัดการกับการลืมทานยาเม็ดคุมกำเนิดนั้น จะขึ้นกับชนิด และจำนวนเม็ดที่ลืม ร่วมกับช่วงเวลาที่ลืมว่าเป็นช่วงเริ่มแผง หรือช่วงใกล้หมดแผง โดยสามารถแบ่งเป็นกรณีต่างๆ ดังนี้

  • กรณีลืมทานเม็ดยาที่ไม่มีฮอร์โมน: ให้ทิ้งเม็ดนั้นไปและทานเม็ดอื่นตามปกติ
  • กรณีลืมทานเม็ดยาที่มีฮอร์โมน 1 เม็ด: ให้ทานเม็ดที่ลืมทันทีที่นึกได้ และทานเม็ดต่อไปตามเวลาปกติ (หมายความว่าในวันนั้นจะกินยารวมเป็น 2 เม็ด) โดยไม่ต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย
  • กรณีลืมทานเม็ดยาที่มีฮอร์โมน 2 เม็ดขึ้นไป: ให้ทานเม็ดสุดท้ายที่ลืมทันทีที่นึกได้ และทานเม็ดต่อไปตามเวลาปกติ (หมายความว่าในวันนั้นจะกินยารวมเป็น 2 เม็ด) ส่วนเม็ดก่อนหน้านั้นที่ลืมทานให้ทิ้งไป และให้ใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วยจนกว่าจะกินยาฮอร์โมนครบ 7 วัน นอกจากนี้ให้พิจารณาว่า
    • ถ้าเม็ดที่ลืมเป็น 7 เม็ดแรกของแผง หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ควรใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน
    • ถ้าเม็ดที่ลืมเป็น 7 เม็ดสุดท้ายของแผง เมื่อทานแผงนั้นหมดให้เริ่มแผงใหม่เป็นเม็ดฮอร์โมนทันที โดยไม่ต้องเว้น 7 เม็ด (หรือกรณี 28 เม็ด ให้ทิ้งเม็ดที่ไม่มีฮอร์โมนไปเลย)
  • หากท้องเสีย หรืออาเจียน

ถ้าอาเจียนภายใน 2 – 3 ชั่วโมงหลังทานยา นั่นหมายถึงยายังไม่ได้ดูดซึม ให้ทานใหม่อีก 1 เม็ดทันทีที่สามารถทานได้ ถ้าทานได้ภายในวันเดียวกันเลยก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าข้ามวันไป หรือทานแล้วยังอาเจียนอยู่ จะให้ผลเหมือนลืมทานยา (ดูหัวข้อ ลืมรับประทานยา

  • ทานยาแล้วยังมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดหัว เจ็บหน้าอก แม้จะใช้ยาไป 3 แผงแล้ว

ปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรเพื่อเปลี่ยนยาเม็ดคุมกำเนิดให้เป็นยี่ห้อมีปริมาณของฮอร์โมนต่ำลง เพื่อลดอาการข้างเคียงดังกล่าว

  • ยาตัวใดที่มี่ผลต่อการออกฤทธิ์ของยาเม็ดคุมกำเนิด

ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) มีผลลดประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกำเนิด อาจทำให้เกิดเลือกออกกะปริดกะปรอย และเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นหากผู้ที่ทานยาเม็ดคุมกำเนิดอยู่ แล้วต้องทานปฏิชีวนะ ให้ใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น เช่น ใช้ถุงยางอนามัย ร่วมด้วย

สิ่งใดก็ตามล้วนมีพิษ แม้กระทั่งน้ำบริสุทธิ์ มันขึ้นอยู่กับว่าเรากินมากกินน้อย       

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1

thanks

4 ก.ย. 2562 เวลา 20:31 น.
What's new
ป้ายยา 5 อันดับครีมกันแดดหน้า ยี่ห้อไหนดี บางเบา ซึมง่าย สบายผิว จากรีวิวผู้ใช้จริงแนะนำ 5 อันดับไอเท็มจัดการฝ้าซ้ำซาก จะฝ้าแบบไหนก็เอาอยู่ รวมตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน รีวิว 5 รองพื้นผิวโกลว์ บางเบาแต่ปกปิดเนียนกริบ ติดทนตลอดวันKMA มอบโมเมนต์กลิ่นหอมแห่งความสุข ผ่านของขวัญสุดพิเศษมัดรวม 4 ปีชงปีมะเส็ง มีนักษัตร์ไหนบ้าง พร้อมสถานที่ วิธีแก้ชง 256813 ครีมลดริ้วรอย ยี่ห้อไหนดี เพื่อใบหน้าอ่อนเยาว์ผิวเฟิร์มกระชับ10 เซรั่มลดจุดด่างดำ ปี 2024 ลดเลือนฝ้า กระ พร้อมลดรอยดำจากสิวแบบเร่งด่วน!ดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 17 - 23 พ.ย. 67 (ทุกราศี) แต่งหน้ายังไงให้ติดทน? แจก 8 วิธีแต่งหน้าติดทน ไม่เป็นคราบ ฉบับโมเมพาเพลินกิจกรรม :: ชวนทดลองใช้ MELAMII ANTI-MELASMA Perfect White Serum And Spot Corrector จบลูปฝ้าซ้ำซาก จำนวน 100 รางวัล