จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงสวัสดีค่า วันนี้วันดีเลยรวม 5 วิธีแก้ปัญหาผมมันฉบับของเรามาฝากค่า เนื่องจากว่าเราเป็นผู้หญิงคนนึงที่ผมมันง่ายมากโดยเฉพาะโคนผม ตอนเช้าสระผมตกบ่ายมันอีกแล้ว! ละถ้าใครผมมันเหมือนกันคงเข้าใจว่าความรู้สึกตอนผมมันแม่งโคตรไม่สบายหัวอย่างยิ่ง มันจะหนึบๆ เหนอะๆ มาก
แต่ขอโทษค่ะ ทุกวันนี้เราเลิกผมมันแล้วค่ะด้วย 5 วิธีนี้
1.เลี่ยงการหวีผมหรือสางผมบ่อยๆ
ข้อนี้แหละที่ทำให้ผมเรายิ่งมันขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะพอผมเริ่มมันและเหนียว เราจะรู้สึกรำคาญเบาๆ มันจะมีความร้อนกรุ่นๆ ที่หนังศีรษะจึงเผลอสางผมบ่อยๆ หรือหวีผมโดยไม่รู้ตัว (หวังว่าลมจะพัดเข้าไปให้น้องหนังศีรษะสดชื่นขึ้นหน่อย) แต่กลับเป็นการกระตุ้นให้หนังศีรษะผลิตน้ำมันขึ้นมามากขึ้นซะงั้น
2.ไม่อยู่ในที่ร้อนๆหรือทำให้ศีรษะโดนความร้อนบ่อยๆ
เมื่ออยู่ในที่ร้อนๆ เหงื่อเราก็จะถูกขับออกมาทางผิวหนังรวมถึงบนหนังศีรษะด้วย ลองคิดดูสิคะทั้งเหงื่อ + น้ำมันจากหนังศีรษะรวมกัน อื้อหือ! ไม่มีคำบรรยาย แม้ข้อนี้เป็นการเลี่ยงยากสักหน่อย เพราะแค่หิวข้าวกลางวันก็ต้องเดินตากแดดไปซื้อข้าวกินแล้ว แต่ใช่ว่าจะเลี่ยงไม่ได้นะคะ เราสามารถใช้สิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า ‘ร่ม’ ช่วยบรรเทาได้ กางร่มแล้วเดินสวยๆ ด้วยอินเนอร์วิคตอเรียซีเคร็ทเลยค่ะนอกจากจะไม่หัวร้อนแล้วตัวก็ไม่ร้อนเหมือนกันน้า
แค่มือบังแดดมันคงไม่พอ~
3.ไม่กินอาหารมันๆ
ไม่กินอาหารมันๆ ถึงแม้ว่าอาหารมันจะอร่อย(มาก) แต่ถ้าเรากินอาหารมันๆ เยอะ ไขมันก็ยิ่งเข้าไปสะสมในร่างกายมาก โอกาสที่ร่างกายของเราขับไขมันออกมาก็มีสูงขึ้น ดังนั้นเราจึงลดอาหารมัน แต่เพิ่มการกินผักและผลไม้แทน โดยเฉพาะพวกส้ม สตอเบอรี่ สับปะรดพวกนี้วิตามินซีสูงช่วยให้ผิวเราสวยขึ้นได้อีกด้วย
ของโปรดทั้งนั้นกินทุกวันวนไป
4.ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่ทำให้ผมมัน
มีใครเป็นเหมือนเราบ้าง แม้โคนผมจะมันแต่ปลายผมดันแห้งเฉยเลยอาจเพราะเราทำสีผมด้วยล่ะมั้ง ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องใช้พวกเซรั่มแต่ใส่แค่ปลายผม ย้ำเลยนะว่าแค่ปลายผมจริงๆ เพื่อป้องกันผมแตกปลายเท่านั้น โดยเซรั่มที่เลือกก็อ่านจากฉลากที่เขาเคลมว่าไม่ทำให้ผมมัน แต่ถ้าผมใครไม่มีปัญหาเรื่องปลายผมแห้งก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้อะไรเพิ่มเลยก็ได้น๊า
แบบขวดสเปรย์เราไม่ใช้แล้วมันคอนโทรลไม่ได้ว่าจะใส่ตรงไหน
5.เลือกใช้แชมพูที่เหมาะกับเส้นผมและหนังศีรษะ
อย่างที่บอกไปใน ข้อ 4. ว่าเราต้องอ่านฉลากที่เขาเคลมว่าไม่ทำให้ผมมัน หลังจากการค้นฟ้าคว้าดาว เราก็ไปถูกอกถูกใจกับแชมพูลดความมันของเคลียร์ อันมีนามว่า เคลียร์ยูซุ & มิ้นท์แว๊บแรกที่เห็นแล้วเลือกเลยอย่างไม่ลังเลเพราะ เคลียร์ เขาขึ้นชื่อเรื่องแชมพูลดความมันและขจัดรังแคอยู่แล้ว บวกกับเราเป็นคนชอบกลิ่นมิ้นท์กับกลิ่นส้มมากๆ เราว่ากลิ่นส้มมันหอมแบบไม่เลี่ยน แล้วขวดนี้จะหอมรึเปล่าไปพิสูจน์กันดีกว่า
ผ่ามมม!!
หลังจากลองดมๆ มา ใช่ว่าจะสวยแต่รูปนะจ้ะ พอบีบดมแล้วห๊อมหอมมีความสดชื่นแบบหวานๆ ลองนึกดูสิกลิ่นส้มอะมันหอมในตัวเองอยู่แล้ว มามิกซ์กับกลิ่นมิ้นท์อีก อื้อหืออ สดชื่นไปถึงใจเลยทีเดียวเชียวล่ะคุณเอ๊ยยย เนื้อแชมพูก็จะเป็นสีขาวขุ่นสไตล์เคลียร์ ล้างออกง่ายและล้างสิ่งสกปรกได้ดีมาก ใช้ได้ทั้งผู้หญิงผู้ชายเลย คุ้มมากซื้อขวดเดียวใช้ได้ทั้งบ้าน (สายประหยัด อิอิ)
เอาลาาา เข้าสู่ช่วงสาระมีอยู่จริง เพราะนอกจากความหอมแล้วเรายังต้องการแชมพูที่ช่วยลดความมันและขจัดรังแคด้วย พลิกดูหลังขวดเขาบอกว่า เคลียร์ยูซุ&มิ้นท์ มีทริปเปิล แอนตี้แดนดรัฟ เทคโนโลยี ที่ช่วยขจัดรังแค มาพร้อมกับวิตามินบี 3 และกรดอะมิโน ซึ่งจะช่วยบำรุงหนังศีรษะของเรา เคลียร์เขาเคลมว่ามั่นใจ 100% เลยนะว่าแชมพูขวดนี้เอาอยู่เรื่องรังแค ไม่ให้กลับมาอีกแน่นอน ซึ่งรังแคมันเกิดจากผมมันใช่ม๊า พอผมไม่มันรังแคก็ไม่มา
สรุปสั้นๆ กับเคลียร์ยูซุ&มิ้นท์หลังจากเราลองใช้มาเกือบหมดขวด กี่วันไม่รู้จำไม่ได้ ลืมนับ ตอนแรกไม่ได้กะจะรีวิวไงแต่พอเจออะไรดีๆ มันก็อยากบอกต่อ
เอางี้ละกัน ถ้ากำลังสงสัยว่าจะตำดีมั้ยนะ
ตำ!! ถ้าอยากได้แชมพูหอมสดชื่นเย็นสบายหัว
ตำ!! ถ้าอยากได้แชมพูหอมสดชื่นเย็นสบายหัวแถมขจัดความมัน
ตำ!! ถ้าอยากได้แชมพูหอมสดชื่นเย็นสบายหัวแถมขจัดความมันแถมยังขจัดรังแค
ตำ!! ถ้าไม่อยากให้รังแคกลับมาอีก!!
สุดท้ายนี้อยากบอกว่า
“ส้มตำใช้ครก ส้ม YUZU & MINT ใช้ขจัดรังแคและความมัน”
โคนผมมันจับกันเป็นช่อมาก
ทำงานทั้งวันผมก็ยังพองสวยไม่ลีบแบน
จริงค้า เราก้อหัวมันขึ้นมากเลยช่วงนี้ตากแดดจัด ทำงานออกข้างนอกตลอด สงสัยต้องเปลี่ยนแชมพูมาใช้สูตรนี้บ้างแล้ว