4 Step เคล็ด(ไม่)ลับ แก้ปัญหารังแคกวนใจได้ยาวนานกว่าเดิม

4 Step เคล็ด(ไม่)ลับ แก้ปัญหารังแคกวนใจได้ยาวนานกว่าเดิม

อากาศหนาวแล้ว แม้จะอยากให้ประเทศไทยหนาวจนหิมะตกแค่ไหนก็คงเป็นไปได้ยาก แต่มันมักจะมีอยู่หิมะนึงที่ชอบตกจากหัวบ่อยๆเวลาอากาศหนาวเริ่มมา เป็นหิมะที่ตกโดยไม่เลือกสถานที่ แม้จะไม่อยากให้ตกเลยแต่ก็ตกบ่อยซะเหลือเกิ้นนน ใช่ค่ะน้ำกำลังพูดถึง “รังแค” นั่นเอง

รังแคเกิดได้จากหลายสาเหตุเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นความเครียด, ฮอร์โมน, ความไม่สมดุลของหนังศีรษะ, เชื้อรา และอีกเยอะแยะมากมาย และที่น้ำเป็นบ่อยๆก็คือ จากสภาพอากาศ เวลาที่อากาศแห้งหนาวเมื่อไหร่ หิมะลงทุกทีเลยจ้า แต่หนาวนี้น้ำเลิกโปรยหิมะแล้วด้วย 4 step ปราบรังแคง่ายๆ ที่น้ำลองผิดลองถูกมาหลายปี จนปีนี้ลงตัวแล้วรักสูตรนี้มากเลยอยากมาแชร์ให้เพื่อนๆทุกคนที่ต้องเผชิญปัญญาแบบน้ำได้ลองกันค่ะ

Step 1 เริ่มเคลียร์ dead cells ด้วยสครับกันก่อนเลย ล้างผมด้วยน้ำเปล่าเยอะๆจนรู้สึกว่าน้ำชะล้างฝุ่นออกไปจนหมด จากนั้นแหวกผมเป็นกลีบส้มแล้วบีบสครับลงบนหนังศีรษะ ก่อนที่จะนวดวนเบาๆจนทั่ว

ตรงนี้น้ำบอกเสมอว่านอกจากผิวหน้า ผิวกาย ที่ต้องการการผลัดผิวแล้ว ผิวหนังศีรษะของเราก็ต้องการเหมือนกันค่ะ เพราะศีรษะของเราก็เจอมลภาวะไม่ต่างกันเลย แถมมีเส้นผมอีกยิ่งทำให้ทำความสะอาดยากขึ้น บางครั้งละเลยจนเสียสมดุล ลอก เหม็นอับ และเกิดรังแคในที่สุด

ครั้งนี้น้ำเลือกใช้สครับของ L’occitane Purifying Freshness Cleansing Scrub ขนาด150 ML 1,100 บาท เป็นเนื้อเจลสครับที่ผสลานคุณค่าเกลือทะเลและสารสกัดจากสมุนไพรอีกหลากหลายชนิดที่ดีต่อหนังศีรษะ

Step 2 สระผมด้วยแชมพูยาสำหรับขจัดรังแคโดยเฉพาะ ตรงนี้สำคัญมากค่ะ ใครที่มีรังแคเยอะ แต่ไม่สามารถรักษาให้หายใน 2 สัปดาห์ด้วยแชมพูขจัดรังแคทั่วไป น้ำแนะนำให้ลองพิจารณาแชมพูยาที่มีตัวยา Selenium sulfide เนื่องจากสามารถช่วยรักษาปัญหารังแคจากหลายสาเหตุ

น้ำชอบของ Selsun มากค่ะ เป็นตัวช่วยที่ดีมากสําหรับคนที่มีปัญหารังแคกวนใจไม่หายสักที เขามีตัวยา Selenium sulfide ที่ 2.5% ซึ่งเจ้าตัวนี้เขาจะช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังพร้อมลดปริมาณเชื้อ Pityrosporum Ovale สาเหตุหลักของการเกิดรังแค และยังยั้งการผลิตเซลล์ใหม่ลดอัตราการตายและการหลุดลอกของเซลล์หนังศีรษะโดยตรง ยังช่วยบรรเทาอาการคันศีรษะอีกด้วยค่ะ

- โดยการใช้งานต้องเขย่าก่อนใช้

- เทแชมพูขยี้เน้นที่หนังศีรษะ

- ทิ้งไว้ 2-3 นาทีแล้วล้างออก

ช่วงแรกแนะนำควรใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง จนกว่ารังแคจะหมด แต่ตัวนี้น้ำมีติดบ้านไว้ตลอด และจะหยิบมาใช้ต่อเนื่องทุกสัปดาห์ เป็นเหมือนการคุมไม่ให้รังแคกลับมาค่ะ

 เพราะต่อให้เราหายเป็นแล้วแต่ไม่ใช่ว่าจะกลับมาเป็นไม่ได้อีก รังแคมีโอกาสกลับมาได้ตลอด ฉะนั้นต้องคอยควบคุมไว้ค่ะ อ่อ ตัวนี้หาซื้อได้ตามร้านขายยานะคะ ราคาก็น่ารัก 120ml @230 บาท หลังสระผมด้วยแชมพู Selsun แล้วควรใช้ครีมนวดผมตามเพื่อให้ผมนุ่มขึ้น

Step 3 สระผมเสร็จล้างน้ำสะอาดเยอะๆ เยอะจนรู้สึกว่าสะอาดจริงนะคะ แล้วปกติก่อนน้ำจะเป่าผมขอแว้บลง Skincare bodycare ก่อน เพราะผิวหลังทำความสะอาดนี่ดูดซึมสารอาหารได้ดีที่สุด แต่น้ำจะไม่ปล่อยให้ผมน้ำหยดติ๋งๆค่ะ เดี๋ยวผมจะอับเอา เพื่อให้สิ่งที่เราทำมา2 สเต็ปแรกเห็นผลปังๆ น้ำจะใช้ Hair Wrap ที่ช่วยรีดน้ำออกจากผมได้ดีห่อผมไว้ค่ะ

น้ำชอบของ Dock & Bay เขาทำจากผ้าที่ออกแบบสำหรับห่อผมโดยเฉพาะ ด้วยเนื้อผ้าเป็นการทอแบบเนื้อวาฟเฟิล โดยผ้าโปร่งนั้นจะมีน้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี เลยยิ่งทำให้แห้งไว พอประทินผิวใดๆเสร็จแกะนางออก ผมเรียกได้ว่าหมาดแบบเป่าแป๊ปเดียวแห้งเลยค่ะ ค่าตัวน้องอยู่ที่ 890 บาท

Step 4 มาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่หลายๆคนอาจจะมองข้ามว่าแค่หวีนั้นสำคัญด้วยหรอ สำหรับน้ำเองถือว่าสำคัญเลยค่ะ เพราะถ้าหนังศีรษะระหว่างวันเรามันมากๆ ก็ถือเป็นสาเหตุหนึ่งของรังแค แล้วทำให้เหนียวและทำให้สิ่งสกปรกมาเกาะติดง่าย น้ำแนะนำว่าควรเลือกใช้หวีจากขนหมูป่าค่ะ เพราะเจ้าขนหมูป่าธรรมชาติเนี่ย น้องใกล้เคียงกับมนุษย์มาก ทำให้น้ำมันธรรมชาติของผิวหนังเราโดนหลอกค่ะ แล้วก็เกาะตัวไปกับหวีได้ คือได้2 ต่อ ได้ทั้งลดความมันจากโคนผมกระจายออกไปและยังทำให้ปลายผมเงางามไม่แห้งอีกด้วยค่ะ

หวีขนหมูป่าที่น้ำชอบที่สุดคือ YAO Moving Circle Boar Brush ราคา 850 บาท น้ำชอบการออกแบบเลเยอร์เส้นแปรงมากๆ โดยขนแปรงนั้นเป็น 2 ชั้นค่ะ คือ ขนหมูป่าธรรมชาติ ไนลอน แล้วความที่ไนลอนยาวกว่าทำให้เวลาเราหวีเนี่ย เจ้าตัวไนลอนจะแทรกทะลุผมเข้าไป ถึงหนังศีรษะเหมือนได้นวดหัวเลยค่ะคุณ

เป็นไงกันบ้างคะกับ 4 Step เคล็ด(ไม่)ลับ แก้ปัญหารังแคกวนใจได้ยาวนานกว่าเดิมของน้ำ ที่ดูเหมือนจะยากแต่จริงๆไม่เลยค่ะ เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้

แต่ถ้าหากใครไม่มีเวลาหรือไม่อยากทำหลายขั้นตอน น้ำแนะนำลองเริ่มจากการใช้แชมพูยาแบบ Selsun สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ดูก่อนก็ได้ค่ะ ที่น้ำแนะนำไปหลายๆคนก็เริ่มดีขึ้นโดยเริ่มจากตัวนี้เลย แต่ถ้าหากใครที่มีปัญหามากจริงๆยาวนานเกินกว่า 1 เดือน หรือถึงขั้นหนังศีรษะเป็นแผลสดน้ำปนะนำว่าการพบแพทย์เฉพาะทางผิวหนังคือทางออกที่ดีที่สุดนะคะ

With love, I share…

#รักแหละถึงเล่า