จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงฉายแสงฆ่าเชื้อสิว ด้วย แสงสีน้ำเงิน / แสงสีฟ้า
แสงสีน้ำเงิน / แสงสีฟ้า LED Blue Light แสงสีน้ำเงิน 450-485 นาโนเมตร มีคุณสมบัติในการรักษาสิวอักเสบ สิวติดสารสเตียรอยด์ สิวแพ้ต่างๆ และช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium Acne (C.Acne) สาเหตุของการเกิดสิว รวมไปถึงช่วยลดความมันบนใบหน้า ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวอุดตันอีกด้วย
องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (USFDA) ที่ให้ใช้แสงสีน้ำเงิน / แสงสีฟ้า ในการรักษาสิวได้ โดยฉายออกมาไม่มีส่วนผสมของรังสียูวี จึงไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ด้วยคลื่นเฉพาะนี้จะฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว
ฉายแสงฆ่าเชื้อสิว ด้วย แสงสีแดง
แสงสีแดง LED Red Light 625-700 นาโนเมตร มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นเซลล์ จึงช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน อิ่มฟู และลดการอักเสบของผิวที่เกิดจากสิว พร้อมช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นอีกด้วยครับ
สีแดงนี้ดูดซับสารละลายได้น้อยกว่าแสงสีฟ้าแต่ลงได้ลึกกว่า จะกระตุ้น Porphyrin เข้าไปทำลายเชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium Acne (P. Acne) เมื่อ Cutibacterium Acne (P. Acne) ถูกทำลายไปการเกิดสิวจึงลดลง เพราะมีความยาวคลื่นที่มากกว่าแสงสีฟ้า สามารถลงลึกได้ถึงต่อมไขมัน ช่วยลดความมันได้ดีเลยครับ
LED Red แสงสีแดง จะไม่ทำให้ผิวเกิดอันตรายเช่นกันครับ หลายๆคนอาจจะกังวลว่าอาจจะเกิดฝ้าได้ในอนาคตหรือไม่ หากฉายแสงตัวนี้บ่อยๆ ขอตอบเลยครับ ไม่ทำให้ผิวเกิดฝ้าได้อย่างแน่นอนครับผม
ฉายแสง ฆ่าเชื้อ ลดสิว ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
ฉายแสง ฆ่าเชื้อ ลดสิว ผลการรักษาขึ้นอยู่กับระยะเวลา ความสม่ำเสมอในการรักษา และปัญหาผิวที่เกิดขึ้นของแต่ละบุคคล ควรทำต่อเนื่องกัน 4-8 สัปดาห์ขึ้นไป ตามโปรแกรมรักษาสิว โดยส่วนใหญ่แล้วจะเห็นผลลัพธ์ดีขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเข้ารับการรักษาต่อเนื่อง เช่น ในกรณีสิวอักเสบ พบว่าสิวอักเสบค่อยๆ ยุบตัวและแห้งลง ผิวหน้ามีความมันน้อยลง รอยสิวดูจางลง อย่างเห็นได้ชัดครับ
ขอบคุณข้อมูลความรู้ดีๆ จาก หมอเอ็ม นพ.มนตรี อุดมประเสริฐกุล ครับ
https://www.mvitaclinic.com/ฉายแสง-ฆ่าเชื้อสิว
ไม่พลาด !! ความรู้เรื่องสิว ติดตามกันไว้ได้ครับ