เช็กดวงปี 2568 ทั้ง 12 ราศี เจาะลึกทุกไตรมาส ทั้งเรื่องการงาน การเงิน สุขภาพ และความรัก

navigate_beforeย้อนกลับ

pic400
0 

5 ทริคลดความเสี่ยง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกาย



เนื่องด้วยในปัจจุบัน มีโรคภัยต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย การใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเรา เรียกว่า มีความเสี่ยงสูง ที่จะทำเกิดโรคต่างๆ ขึ้นกับร่างกาย  ทั้งๆ ที่เราเอง  อาจจะระวังตัวแล้วก็ตาม แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกับเชื่อโรคเหล่านั้นในอากาศ หรือ จากสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว  แน่นอนว่า การใช้ชีวิตให้ปลอดภัย และมีความสุข  เป็นปกติสุข  ในสถานการณ์เช่นนี้ นับวันยิ่งเป็นเรื่องที่ยาก เราเองก็เป็นหนึ่งคน  ที่ทุก ๆ วันนี้ จะใช้ชีวิต ปฏิบัติตัว สร้างภูมิคุ้มกัน  ทำร่างกายให้ไม่เกิดความเสี่ยง  ที่จะนำไปสู่ภาวะอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้โดยง่าย เพราะเราไม่รู้ว่า การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น อาจจะนำไปสู่การวิตกกังวลกับโรคร้ายแรงต่างๆ หรือไม่ ?


แต่ละคน ก็จะมีวิธีป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ แตกต่างกันไป  ด้วยการดูแลรักษาร่างกายของเราให้อยู่ในภาวะความสมดุลที่เป็นปกติมากที่สุด ยิ่งช่วงอากาศหนาว อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ภูมิคุ้มกันของร่างกาย ก็อาจจะมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเป็นอาการไอ หรือเสี่ยงต่อการเป็นไข้หวัดได้โดยง่าย วันนี้เราเลยอยากจะมาแชร์ 5 ทริคลดความเสี่ยง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ซึ่งเพื่อนๆ เอง  ก็สามารถนำเอาวิธีต่างๆ เหล่านี้  ไปประยุกต์ใช้กันได้ตามความเหมาะสม


ทุกวันนี้การดำเนินชีวิตของคนเราเปลี่ยนไป เพราะมีการแข่งขันที่สูงมากขึ้นในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ทั้งเรื่องของเวลา การทำงาน รวมถึงเวลาระหว่างวัน  ในการใช้ชีวิต เพื่อการเอาตัวรอด และมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยไม่ได้คำนึงถึงสุขภาพของตัวเราเองเป็นหลัก ทำให้ค่าเฉลี่ยของคนไทยเรา  มีอัตราช่วงอายุที่สั้นมากขึ้น ทำให้เกิดความเสี่ยงกับความตายที่สูงขึ้นตามไปด้วย สิ่งแรกที่เราจะทำให้คุณเห็นภาพได้มากขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น


ทุกวันนี้ ตัวเราเองใส่ใจเรื่องของอาหารการกินมากน้อยเพียงใด ?

คนส่วนใหญ่ จะพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ด้วยเวลาที่เร่งรีบ ด้วยเวลาที่จำกัด ทำให้ต้องหาซื้ออาหารสำเร็จรูปต่างๆ มาทานซึ่งก็ง่ายและให้รสชาติความอร่อยเหมือนกัน ได้คุณค่าน้อยกว่า แต่มันสะดวก และประหยัดเวลากว่า ถูกต้องหรือไม่ ? 




วันนี้คุณออกกำลังกายเพียงพอกับความต้องการของร่างกายมากพอหรือยัง ?

ทุกคนก็จะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า...แค่เวลาพักผ่อนก็ไม่พอแล้ว กว่าจะถึงบ้านก็ค่ำ เอาเวลาที่ไหนไปออกกำลังกาย อย่างมากก็สัปดาห์ละครั้งก็หรูแล้ว…
ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เราปฏิบัติตัวกันแบบผิดๆ มาโดยตลอด แต่เราจะไม่นำมาเป็นบรรทัดฐาน  เราเลยสรุป 5 ทริคใกล้ตัวเบื้องต้น หากเพื่อนๆ สามารถใส่ใจนำเอา 5 ทริคที่เรามาแชร์ในวันนี้ ไปประยุกต์ใช้ได้เป็นประจำทุกวัน รับรองว่า เพื่อนๆ จะมีความเสี่ยงน้อย ถึงน้อยที่สุด และทำให้ร่างกายของเรามีภูมิคุ้มกันที่ดีเพิ่มขึ้นนั่นเอง

เรามาดู ทริคแรกกันก่อน นั่นคือ เรื่องของอาหารการกิน
คนเรา จำเป็นต้องกินอาหารเพื่อดำรงชีวิต แต่หากจะกินอาหารให้อร่อยและได้สุขภาพแถมยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกายของเราด้วยนั้น ก็ต้องเลือกทานอาหารที่พอดี ไม่หวานเกินไป ไม่มันเกินไป และไม่มีส่วนประกอบของแป้งมากเกินไป เพราะมันคือ 3 สิ่งสำคัญ ที่ทำให้เกิดการสะสมโรคภัยต่างๆ ในระยะยาว อย่างช่วงนี้ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ โรคภัยต่างๆ ก็มาก การทานอาหารในช่วงเช้า จึงเป็นสิ่งที่สำคัญและควรใส่ใจ ควรจะเลือกเป็นอาหารประเภทซุปหรือโจ๊กร้อนๆ สักถ้วย จะเห็นว่ามื้อเช้าเป็นมื้ออาหารที่สำคัญมากที่สุด แต่เมนูที่เราแนะนำไป นอกจากจะเป็นเมนูอาหารที่ทำได้ง่าย ๆ แล้ว ยังได้คุณค่าทางโภชนาการสูงด้วย เราเองอาจจะเพิ่มเติมพวก หอมหัวใหญ่ ขึ้นฉ่าย มะเขือเทศ มันฝรั่งหรือ อื่นๆ ตามที่เราชอบ และอาจเน้นพวกสมุนไพรไทย เช่น ขิง หรือพริกไทยป่น เพราะมีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ลดอาการไอ ป้องกันหวัดได้ดี ทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรงด้วย


ส่วนเมนูอาหารมื้ออื่นๆ ที่อยากจะแนะนำเพิ่มเติม ก็อยู่ในกลุ่มของอาหารไทยที่เน้นสมุนไพร  มีรสจัดจ้านบ้างอย่างน้อย 1 เมนูในแต่ละมื้ออาหาร เพราะรสเผ็ด หรือรสจัดจ้านจะช่วยทำให้จมูกโล่ หายจากอาการคัดจมูก เมนูอาหารไทยเหล่านี้ จะมีส่วนประกอบของ พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า หรือพริกแห้ง ในกลุ่มของเมนูต้มยำ หรือสมุนไพรไทยอื่นๆ เช่น แกงเลียง ลาบหมู ผัดพริกแกงป่า ฯลฯ ที่มีส่วนประกอบของพริกแกงสมุนไพรก็ถือว่าใช้ได้ อยากเน้นย้ำว่า อาหารไทยส่วนใหญ่มีสมุนไพรช่วยบรรเทาอาการต่างๆ จากไวรัสและไข้หวัดได้ดี


และตบท้ายด้วยเมนูผลไม้ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง หรือให้คุณค่าวิตามินต่างๆ ครบถ้วน

ส่วนในแบบของเรา มื้อเช้า จะทานพวก อาหารเบาๆ แต่คุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น ข้าวต้มทรงเครื่อง โจ๊กหมูใส่ไข่ หรือ ซุปไก่ร้อนๆ  เป็นต้น

ปล. อย่าเน้นหวาน เน้นเค็ม เน้นมันมากจนเกินไป เวลาทานก็ให้คำนึงถึงสุขภาพระยะยาวด้วยนะจ๊ะ



ทริคที่สอง เป็นเรื่องของเครื่องดื่ม หรือวิตามินบำรุงร่างกาย

มาดูกันต่อที่ โซนของการดูแลสุขภาพ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายด้วยเครื่องดื่มหรือวิตามินบำรุงร่างกายกัน ข้อนี้จริงๆ เปิดกว้างมาก เพราะปัจจุบัน ตัวเลือกของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมีให้เลือกมากมาย เราจะขอหยิบยกการดูแลสุขภาพในแบบของเรากันดีกว่า เริ่มจากง่ายที่สุด  ก็จะเป็นการดูแลตัวเองด้วยการดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องทั่วไป ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน หรือบางครั้ง ก็จะหาตัวช่วยเพิ่มเติม  หากวันไหนเราทำงานหนัก เกิดความเครียด พักผ่อนน้อย ก็จะเสริมด้วยวิตามินซี หรือวิตามินรวมต่างๆ หรือไม่ก็พวก ในกลุ่มของเบอร์รี่สกัดแบบเม็ด เช่น Vistra Imuforte,  หรือวิตามินซีแบบสกัดเข้มข้น Blackmores ทานวันละ 1 เม็ด เป็นอย่างน้อย ถ้ารู้สึกว่าตัวเองว่าเริ่มมีอาการไข้หวัดหรือเสี่ยงที่จะเจ็บป่วย ก็อาจจะทานเครื่องดื่มที่มีวิตามินซีแบบเข้มข้นผสมน้ำ หรือจะเลือกซื้อเครื่องดื่มแบบสำเร็จเลยก็ได้



ปล.แนะนำให้ดูตัวเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลน้อยที่สุด ก็จะดีต่อสุขภาพ


ทริคที่สาม เป็นเรื่องของการออกกำลังกาย

มาถึงทริคในส่วนการดูแลสุขภาพของเรา  ด้วยการออกกำลังกาย ซึ่งก็จะมีหลากหลายรูปแบบกันไป ที่นิยมทำกันก็จะอยู่ในรูปแบบของการเล่นโยคะ วิ่งออกกำลังกายเบาๆ หรือถ้าเอาแบบสะดวกสบายก็เข้าฟิตเนส แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน การเข้าฟิตเนสอาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับเพื่อนๆ หลายๆ คน เราก็จะแนะนำเป็นการเล่นโยคะ ออกกำลังกายด้วยท่าทาง กายบริหารต่างๆ เพื่อให้ร่างกายได้ออกแรงและมีเหงื่อ ให้เราได้รู้สึกเหนื่อยบ้าง


ออกกำลังกายแค่ไหนถึงจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ?

สำหรับคนทั่วไป ควรออกกำลังกายอย่างเหมาะสม โดยออกกำลังกายหนักปานกลาง 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือ 30 นาที ต่อวัน ทั้งหมด 5 วัน ทั้งนี้สามารถทำครั้งละ 10 นาที แล้วพัก และทำต่อในรอบที่ 2 และ 3 อย่างละ 10 นาที รวม 30 นาทีก็ได้ เพื่อให้ร่างกายได้มีการเคลื่อนไหว หรือยึดเหยีดกล้ามเนื้อ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกายของเรา

และในระหว่างหรือหลังจากการออกำลังกาย หลายๆ คน มักจะมีเครื่องดื่มสำหรับช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของกล้ามเนื้อ ด้วยการดื่มเวย์โปรตีน หรือเครื่องดื่มที่คืนความสดชื่นให้ร่างกาย ซึ่งเราเองก็จะดื่มเวย์โปรตีนบ้าง ? สปอนเซอร์บ้าง ? และหลังจากหายเหนื่อย อาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อยแล้ว ก็จะชง Cele Foos คู่กับ Cele Neu ซองสีฟ้า ดื่มเป็นประจำ เพราะ  Cele Foos และ  Cele Neu มีคุณสมบัติหลักในการช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ในร่างกายได้เป็นอย่างไร ช่วยลดความเสี่ยง และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกาย



Cele Foos ตัวนี้ ช่วยในเรื่องซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกาย เพิ่มออกซิเจนในเลือด ล้างพิษในตับ ลำไส้ ลดคลอเลสเตอรอล กำจัดไขมันที่เกาะภายในเส้นเลือด อุดมไปด้วยสารสกัดเข้มข้นจากธรรมชาติกว่า 24 ชนิด เช่น Seabuckthron Extract ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน ไลโคปีน และแร่ธาตุต่างๆ ช่วยให้เซลล์ได้รับการฟื้นฟู ลดการแก่ก่อนวัยของเซลล์ผิว ทำให้ผิวอ่อนเยาว์ เปล่งปลั่งกระจ่างใส แถมยังช่วยให้เราเจริญอาหารได้ดีขึ้นด้วย  (เราทานตัวนี้เป็นประจำคู่กับมื้ออาหารและก่อนนอน อาการภูมิแพ้หรือคัดจมูก ชอบเจ็บป่วยเป็นหวัดบ่อยๆ ก็ลดน้อยลงไปได้เยอะมาก)



Cele Neu ช่วยชะล้างสารพิษในตับและไต กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบของผิวหนัง ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ฟื้นฟูต่อมไทรอยด์ ลดอาการภูมแพ้ เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังสมอง กระตุ้นความจำ ลดเลือนริ้วรอย ชะลอความแก่ ฟื้นฟูผิวให้เนียนใส สามารถชงดื่มคู่กันได้ (เราทานตัวนี้เป็นประจำคู่กับมื้ออาหาร)


ปล.อย่าหักโหมมากจนเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายเกิดการอ่อนล้า กลายเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะการเจ็บป่วยได้ และการออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยลดภาวะการเกิดภูมิแพ้ของร่างกายได้ดีที่สุด



ทริคที่สี่ เป็นเรื่องของการนอนหลับพักผ่อน ฟื้นฟูร่างกาย
สำหรับส่วนนี้ จะเป็นทริคที่สำคัญสำหรับ ทุกคนทุกเพศทุกวัย รวมถึงวัยทำงานที่มีความเครียดสะสม คนที่ทำงานหนักและมีเวลาพักผ่อนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนหลับยาก อาจจะหาพวกเครื่องดื่มสมุนไพรบำรุงสุขภาพอย่าง P80, NiceDream หรืออื่นๆ แต่สำหรับเราเอง

เราทาน 2 ตัวนี้เป็นประจำ  ส่วนคนที่นอนหลับยาก อาจจะต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบ้าง เพราะรู้หรือไม่ ? การที่เราสามารถนอนหลับได้สนิทก่อนเวลา 22.00 ร่างกายจะทำการฟื้นฟูและซ่อมแซมจุดต่างๆ ของร่างกายได้ดีกว่า  คนที่นอนหลับสนิทหลัง 22.00 ไปแล้ว โดยสถิติก็จะมีร่างกายที่เจ็บป่วย ด้วยโรคต่างๆ น้อยลงได้ดีกว่าคนทั่วไปอีกด้วย



ทริคที่ห้า เป็นเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ที่ไม่ดีของแต่ละบุคคล

ทริคสุดท้าย เป็นเรื่องของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ ที่มีความเสี่ยงทำให้ร่างกายเกิดการต่อต้าน หรือลดภูมิคุ้มกันที่ดีกับร่างกาย ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น เหมือนคุณตั้งใจทานอาหารคลีนเพื่อสุขภาพที่ดี และลดความอ้วนไปในตัว แต่คุณมาหักดิบเอาวันสุดท้าย เช่น คุณตั้งใจกินอาหารคลีน 5 วันต่อสัปดาห์ ดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย ทานอาหารที่ดี เลือกดื่มเครื่องดื่ม ทีมีประโยชน์กับร่างกาย แต่อีกสองวันสุดท้าย คุณปาร์ตี้หนักๆ จัดเบียร์ไป 1 ลัง แล้วจะมีประโยชน์อะไร ? กับสิ่งที่คุณทำดีกับร่างกายของคุณมาก่อนหน้านี้ !!!! ทริคในข้อนี้ ทุกคนอาจจะมองว่า มันไม่ง่ายนะ แต่มันก็ไม่ยากเกินที่คนเราจะทำได้ ถ้าเรามีเป้าหมาย เพื่อจะลดความเสี่ยงและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายให้ดี ก็จำเป็นต้องทำ และทำด้วยความต่อเนื่องและมากพอ


นี่เป็นเพียง 5 ทริคลดความเสี่ยง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ที่คุณเอง สามารถนำไปประยุกต์และปรับใช้ได้ในทุกวาระ ทุกโอกาส ไม่ว่าจะเริ่มทำหลังจากนี้เลย หรือค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตในบางข้อของคุณ เราหวังว่า ทั้ง 5 ทริคที่เราหยิบมาพูดคุยและนำเสนอไปในวันนี้ น่าจะพอทำให้หลายๆ คนเริ่มตระหนักและใส่ใจถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้น


2 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
ขอบคุณค่ะ
17 ม.ค. 2564 เวลา 12:26 น.
ความคิดเห็นที่ 2
ขอบคุณที่มาแชร์กันค่ะ
17 ม.ค. 2564 เวลา 12:29 น.
What's new
ป้ายยา 5 อันดับครีมกันแดดหน้า ยี่ห้อไหนดี บางเบา ซึมง่าย สบายผิว จากรีวิวผู้ใช้จริงแนะนำ 5 อันดับไอเท็มจัดการฝ้าซ้ำซาก จะฝ้าแบบไหนก็เอาอยู่ รวมตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน รีวิว 5 รองพื้นผิวโกลว์ บางเบาแต่ปกปิดเนียนกริบ ติดทนตลอดวันETUDE ส่งท้ายปีกับคอลเลคชั่นใหม่ Dear My Bestie ด้วยความน่ารักแบบเกินต้าน!Sea Moss Gel คืออะไร? ส่อง 5 คุณประโยชน์ของ Sea Moss ที่สายเฮลตี้ต้องรู้อัปเดต 14 เรตินอลตัวปัง 2025 ยี่ห้อไหนใช้ดีหน้าใส ขนมาหมด!บอกต่อ! 11 ยาสีฟันสมุนไพร ยี่ห้อไหนดี แก้ปวดฟัน ลดอาการเหงือกบวมอักเสบดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 22 - 28 ธ.ค. 67 (ทุกราศี) เท้าแตก ทําไงดี? 5 สูตรสครับแก้เท้าแตก ให้ผิวเนียนนุ่ม ไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์Cosmenet* ส่งท้ายปีกับไอเทม Redeem แบบจุใจตลอดเดือนธันวาคม 2024!