จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงร้านขายส่งใหญ่ๆ หลายๆ เจ้า จำเป็นจะต้องมีแคตตาล็อคอยู่ 4-5 เล่ม ยิ่งขายหลายแบรนด์ก็มีแคตตาล็อกเยอะ บางทีแบรนด์โทรมาบอก อันนั้นหมด อันนี้หมด เงื่อนไขเยอะขึ้น ยิ่งถ้าเรามีตัวแทนมาก เซลล์วิ่งเยอะ การอัพเดทข้อมูลหรือจัดส่งแคตตาล็อคใหม่ๆ จากบริษัทต้นทางก็ช้า การปิดการขายก็ยากขึ้น ทำให้ต้องมองหาตัวช่วยที่ทันสมัยให้กับกลุ่มตัวแทน หรือร้านขายปลีก ขายส่งมากขึ้น และกลุ่มสินค้าสกินแคร์ เครื่องสำอาง เอง ก็มีสินค้าย่อยมากกว่า 1,000 SKU ทำให้การอัพเดทจำเป็นต้องใช้แอพหรือระบบจัดการหลังบ้านที่ดีเข้ามาช่วย
ซึ่งจากประสบการณ์ที่ใช้มาแล้ว รู้สึกว่าตอบโจทย์จริงๆ หลังจากที่บริษัทเริ่มเอาแอพตัวนี้เข้ามาแทนการวิ่งขายของแบบเดิมๆ ซึ่งล่าสุดบริษัททำแอพขึ้นมา 1 ตัว จากการพัฒนาของ GulfNet เป็นแอพที่ช่วยทำให้เราที่เป็นเซลล์วิ่งขายของกับคู่ค้าง่ายขึ้น ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น ปิดการขายได้เร็วขึ้น เพราะทีมเซลล์ลงตลาดไปหาคู่ค้า พกไปแค่ไอแพดเครื่องเดียวก็ขายของได้แล้ว สินค้าใหม่ ตัวไหนที่กำลังจะเข้ามา ลูกค้าก็สามารถเห็นตัวอย่าง และสั่งได้เลยทันทีผ่านเซลล์ของเรา หรือถ้าลูกค้าเจ้าไหน ที่มีออเดอร์หรือเป็นลูกค้ารายใหญ่ๆ ค้าขายกับบริษัทมานาน บริษัทจะกำหนดสิทธิ์การสั่งซื้อผ่านแอพได้เลย ซึ่งง่ายมาก เพราะออเดอร์ที่กดสั่งเข้าไปในแอพ จะถูกส่งไปที่อีเมล์บริษัทโดยตรง ทำให้ความผิดพลาดเรื่องออเดอร์ตกหล่นเหมือนเมื่อก่อนไม่มีอีกเลย
ตอนนี้เซลล์อย่างเราก็ไม่ต้องประชุมกันให้ปวดหัวทุกอาทิตย์ ไม่ต้องรอรีเช็คเรื่องยอดออเดอร์ที่ตกหล่น ไม่ต้องขายของเดิมๆ ที่ลูกค้าอาจจะต้องการอัพเดทรายการสินค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม ไม่ต้องมารอแคตตาล็อคสินค้าใหม่กันแบบข้ามเดือน เรียกว่า ทันกระแส ตามยอดขายกันได้ง่ายขึ้น สำหรับเซลล์คนไหนที่มีปัญหาการขายแบบเรา ลองแนะนำให้ผู้บริหาร หรือผู้จัดการฝ่ายขายเค้าเปลี่ยนวิธี เปลี่ยนระบบบริหารจัดการ แบบเดิมๆ ทำให้การขายของระหว่างเรากับลูกค้าแบบ B2B ง่ายขึ้น ต้นทุน ค่าเสียเวลาต่างๆ ก็ลดลง มีเวลาไปหาลูกค้าหน้าใหม่ๆ เจ้าใหม่ๆ มากขึ้นแน่นอนจ้า แค่เปลี่ยนไอเดีย มุมมองความคิด ยอดขายและธุรกิจก็เปลี่ยนแล้ว
1 / 2