จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลง“เพราะสิ่งที่ทำให้ร่างกายเสื่อมลงเร็วมีมากมาย อาทิ บุหรี่ ฝุ่นควัน มลภาวะทางอากาศ และ แสงแดด
ที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระมาทำลายเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกายเพิ่มขึ้นพฤติกรรมแย่จึงส่งผลต่อผิวสวย
อย่างคาดไม่ถึงทีเดียว”
พฤติกรรมแย่ๆที่ส่งผลต่อผิว
เชื่อไหมคะว่าพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลต่อผิวอย่างมากทีเดียว
1. ไม่ทากันแดด และไม่ใช้แว่นกันแดด
2. พักผ่อนน้อย นอนดึก นอนคว่ำหน้า ทำให้ช่วงเวลาการซ่อมแซมผิวมีน้อยและเกิดรอยยับระหว่างนอน
3. ไม่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวและกิจกรรมในชีวิตประจำวัน บางครั้งนอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้วยังซ้ำเติมผิวให้เสียเร็วขึ้นไปอีกด้วย
4. ไม่ใส่ใจเลือกรับประทานอาหาร ขาดผักสดและผลไม้ที่มีวิตามินช่วยซ่อมแซมผิวได้ไม่แพ้ครีมแพงๆเลย
5. ไม่ค่อยดื่มน้ำ ระบบต่างๆในร่างกายรวน ผิวเหี่ยวแห้ง
6. ไม่ออกกำลังกาย ติดเทคโนโลยี่อยู่แต่หน้าจอมือถือ โดนรังสี หน้าหมอง ผิวขาดออกซิเจน
7. ไม่ปล่อยวางความเครียด ขาดความรื่นรมย์ในชีวิต ไม่มีความสุข
8. ไม่สนใจผลเสียใดๆต้องการสวยใสแบบไร้ที่ติ เชื่อโฆษณาเกินจริง อาจได้อย่างเสียหลายอย่างในระยะยาวได้
9. ปล่อยปละละเลยปัญหาผิว ดูแลผิวตามอารมณ์ ชอบเช็ดหน้าแรง ใช้กระดาษทิชชู่เช็ดหน้า ทิ้งสารตกค้างไว้หนักกว่าเก่า
10. ขัดถูล้างเกินจำเป็น ใช้น้ำอุ่น อยู่ห้องแอร์ตลอด
จากผลสำรวจพบว่าผู้หญิงกว่าร้อยละ 70 จะทำพฤติกรรมแย่ๆ ที่ทำให้ดูแก่ก่อนวัยอย่างน้อยวันละ 1 อย่าง ได้แก่ สูบบุหรี่ ดื่มน้ำน้อย อยู่ในห้องแอร์นานๆ เผชิญฝุ่น ควัน มลภาวะ ส่งผลให้ผิวดูหมองคล้ำไม่สดใส รังสียูวีจากแดด ส่งผลให้เกิดจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวคล้ำเสีย ทำงานหนัก เครียด พักผ่อนน้อย ไม่ออกกำลัง ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนล้า เหน็ดเหนื่อย และพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่สมดุล ดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลให้ สูญเสียสมดุลผิว ทำให้ผิวมันหรือแห้งเกินไป
ควรหลีกเลี่ยงการรบกวนผิวหน้ารุนแรง ให้ล้างหน้าเบาๆ ใช้เพียงปลายนิ้วลูบไล้เพียงเบาๆ ก็พอ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยขัดถู ใช้คำว่า “ซับหน้า” จะถูกต้องกว่า “เช็ดหน้า” ใช้ผ้านุ่มๆ ซับเบาๆ ไม่ต้องออกแรงเช็ดถู
ลักษณะผิวผสมคือบริเวณ T–ZONE คือหน้าผากและจมูกมัน ส่วน U–ZONE คือ แก้มและคางเป็นผิวธรรมดาหรือผิวแห้งนั้น บริเวณที่ผิวแห้งก็คือบริเวณนั้นต่อมไขมันสร้างไขมันได้น้อย และขนาดของต่อมก็เล็กด้วย จึงมักไม่มีปัญหาเรื่องรูขุมขนใหญ่ในบริเวณนี้
จึงควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น ในบริเวณนี้ โดยควรอยู่ในรูปของครีมมากกว่าโลชั่น (ครีมจะมีส่วนประกอบของน้ำมันมากกว่า) รวมทั้งครีมกันแดดด้วย
ส่วน T–ZONE ที่ผิวมัน รูขุมขนใหญ่ ต่อมไขมันสร้างมากแล้วขับไขมันออกมาฉาบเคลือบผิวมากเกินพอดีจนเยิ้ม นับเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ธรรมชาติมากอยู่แล้ว จึงไม่ควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ลงไปบริเวณนี้อีก กันแดดก็อาจจะอยู่ในรูปของน้ำใส เจลหรือโลชั่น
การทำทรีทเมนท์
มีวัตถุประสงค์ช่วยให้เซลล์ผิวเก่าที่หยาบกร้านหลุดลอกออกไป ทำให้มีการผลิตเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทน ทำให้ผิวพรรณดูสดใสเต่งตึง ริ้วรอยเหี่ยวย่นเล็กๆ น้อยลง รอยด่างดำและริ้วรอยจากสิว, ฝ้า, กระจะจางลง ทำให้ผิวหน้าดูขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ มีน้ำมีนวลและเนียนใส
ผลข้างเคียง ถ้าผิวไวอาจเกิดอาการ แสบ แดง ลอก ได้หลังทำ ดังนั้น จึงควรทดสอบโลชั่นที่ท้องแขนก่อนลงน้ำยาบนใบหน้า และเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะครบเวลาที่กำหนด ถ้าหากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนครบเวลา สามารถล้างออกก่อนได้
ทรีทเมนท์เมื่อจับคู่กับการบริการใดก็ตามควรทำเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนผิวหน้าหลังทำทรีทเมนท์ และไม่ควรทำวันเดียวกับการขัดหน้า หรือควรเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
ดังนั้นสาวๆ จึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ และปรับพฤติกรรมเสียใหม่ ตัวเลขอายุกับความเสื่อมโทรมของร่างกายไม่จำเป็นต้องไปในทิศทางเดียวกันนะคะ พฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมต่างหากเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนอายุเท่ากันแก่ไม่เท่ากัน
สุดท้ายนี้หากอยากแก่ช้าลง ต้องหาทางทำให้อัตราความเสื่อมโทรมลดลง และหาตัวช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้มากที่สุด ดีออก ที่ใครก็ชมว่าหน้าเด็กน่ะ จริงไหมคะ
เพราะปัญหาผิวไม่ใช่เรื่องผิวเผิน
ปรึกษาปัญหาผิวหน้าและการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กับผู้เชี่ยวชาญเพื่อผิวที่ดีกว่า ฟรี!
Line : @p.th
IG : @p.skincare_official
1 / 2