- นิทรรศการ: สวีเดน, สหราชอาณาจักร, เกาหลี, อัมสเตอดัม, ญี่ปุ่น, เยอรมัน, เม็กซิโก, สเปน, สวิตเซอร์แลนด์, เบลเยี่ยม, บราซิล และล่าสุดที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre) อันโด่งดังในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
- คอลเลคชั่นสาธารณะ: กุกเกนไฮม์ (Guggenheim) กรุงนิวยอร์ก,วิทนี่ย์ (Whitney) กรุงนิวยอร์ก, พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย (Museum of Contemporary Art) นครลอสแองเจลิส, พิพิธภัณฑ์ศิลปะโซเกทสึ (Sogetsu Art Museum) ประเทศญี่ปุ่น, พิพิธภัณฑ์สเตดไลจ์ค (Stedelijk Museum) กรุงอัมสเตอดัม และพิพิธภัณฑ์ลุดวิก (Ludwig Museum) ประเทศเยอรมัน
ข้อมูลและตัวเลขที่น่าสนใจ
• กลางทศวรรษ 1980: ชาร์ฟสร้างสรรค์ปกอัลบั้มให้กับ The B-52's
วงร็อคชื่อดังของอเมริกา
• 1978: ขณะศึกษาที่ School of Visual Arts ในกรุงนิวยอร์ค ชาร์ฟเริ่มต้นมิตรภาพที่ยั่งยืนชั่วชีวิตกับคีธ แฮริ่ง ซึ่งพบกันในชั้นเรียน
ประติมากรรม ทั้งคู่ใช้ชีวิต วาดรูป และแสดงผลงานเคียงข้างกัน นับแต่นั้นเป็นต้นมา แฮริ่งกลายเป็นหนึ่งในศิลปินป็อปอาร์ตชื่อก้องแห่งยุค
• 1995: ชาร์ฟออกแบบห้องที่ Tunnel ไนท์คลับชื่อดังของนิวยอร์ก
• 1997: นิทรรศการ Keith Haring: A Retrospective จัดแสดงที่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะอเมริกันวิทนี่ย์ (Whitney Museum American Art) ในกรุงนิวยอร์ค บอกเล่าความสัมพันธ์ระหว่างแฮริ่ง, บาสเคียต และชาร์ฟ นิทรรศการของศิลปินทั้งสามจัดแสดงพร้อมกันทั้งที่ Elysium Arts และ Malca Fine Arts ในกรุงนิวยอร์ค
• ชาร์ฟหลงใหลในวัฒนธรรมโทรทัศน์ของอเมริกาและภาพยนตร์การ์ตูน อาทิ The Flintstones และ The Jetsons และแสดงความหลงใหลของเขาออกมา ด้วยการสร้างสรรค์หนังสือชื่อ Book of Everything ซึ่งอัดแน่นด้วยภาพลายเส้น ซึ่งได้แรงดลใจจากตัวการ์ตูนเหล่านี้
• 2002: ชาร์ฟสร้างหนังการ์ตูนตอนเดียวจบชื่อ The Groovenians นอกจากสร้างงานศิลป์ในรูปของสื่อแบบโบราณมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพเขียน
ภาพพิมพ์ ภาพลายเส้น และประติมากรรมแล้ว ชาร์ฟยังออกแบบหอไลฟ์การ์ด, ไฟแช็ค Zippo, นาฬิกาข้อมือ, โทรศัพท์มือถือ, พรม และม้าหมุนคาร์นิวัลอีกด้วย
• 2012: ชาร์ฟออกแบบโครงกระดูกที่มีใบหน้าเหมือน “Squirt” ให้กับโปรแกรม Meet Mr. Bones ของคีลส์