เมื่อคิดถึงชายทะเลที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯที่สุด เรามักจะคิดถึง ชายหาดบางปู ร้านอาหารทะเล และนกนางนวล แต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่า มีชายทะเลที่น่าไปเยือนอีกแห่ง เพียง1 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ และอยู่ไม่ไกลจากบางปูนัก คือแทนที่จะไปทางถนนสุขุมวิท ก็มาทางพระสมุทรเจดีย์ แล้วขับไปทางวัดสาขลา สังเกตุเห็นป้าย “ท่าเรือป้ารี่” จอดฝากรถไว้แถวนั้น แล้วรอเรือหางยาวมาส่งที่หมู่บ้านแห่งนี้
บ้านขุนสมุทรจีนมีอะไร?
เสาไฟฟ้าเรียงรายที่ชายฝั่ง บ้านขุนสมุทรจีน แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ จังหวัดสมุทรปราการ ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวที่มีเสาไฟฟ้าจำนวนมาก สัญลักษณ์แห่ง “ความเจริญเข้าถึง” ตั้งเรียงรายอยู่ในทะเลห่างจากชายฝั่งออกไปราวสองร้อยถึงสามร้อยเมตร โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่น้ำลด จะเกิดความงามแปลกตาเกินจินตนาการบนผืนทรายโดยรอบ เมื่อธรรมชาติกับสิ่งแปลกปลอมได้กลายมาเป็นหนึ่งเดียวกัน
วิวเสาไฟฟ้าแห่งท้องทะเลเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อแผ่นดินถูกกัดเซาะจนหายไป จากชุมชนขนาดใหญ่ที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่กว่า 300 ครัวเรือน สาเหตุหนึ่งเกิดจากการทำลายป่าโกงกางเพื่อทำเป็นบ่อกุ้งนั่นเอง จึงต้องย้ายถอยหนีทะเลเข้าไปในแผ่นดินเรื่อยๆ และบางครอบครัวต้องย้ายกันถึง 5 ครั้ง แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ยังยืนหยัดอยู่ ไม่ย้ายหนีไปไหน เพียงยกพื้นขึ้นมาแล้วอยู่กันที่เดิม คือ “วัด”
สถานปฏิบัติธรรมริมทะเล เรามองเห็นวิวท้องทะเลที่สวยงามได้จากบริเวณวัดขุนสมุทรธาราวาส หรือวัดขุนสมุทรจีน ที่ร่มรื่นไปด้วยลานร่มไม้ และศาลาริมทะเล รวมถึงโบสถ์เก่าแก่ที่จะอยู่ใต้น้ำบางส่วนเวลาน้ำขึ้น แต่จะผุดขึ้นมายามน้ำลด นอกจากนี้ยังมีสถานปฏิบัติธรรมริมทะเลที่สงบ ร่มเย็น ในอาคารคล้ายรีสอร์ทหลังเล็กๆ แถมยังเรียกได้ว่าปลีกวิเวกราวกับวัดป่า เพราะจากที่ตั้งบ้านเรือนกว่าจะขี่จักรยานหรือมอเตอร์ไซค์มาถึง ต้องผ่านป่าโกงกางขนาดใหญ่ บนสะพานปูนที่สร้างขึ้นมาเป็นถนนเชื่อมระหว่างวัดและหมู่บ้าน ในทิวทัศน์ของทะเลกว้างและป่าริมทะเลอันร่มรื่น
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าโกงกาง จากหมู่บ้านถ้าไม่ขี่จักรยานก็สามารถเดินเล่นได้ พอเหนื่อย แต่ต้องซันบล๊อคอย่างดีเลยเชียว เพราะระยะทางไม่ใช่ใกล้ๆ ทำเอาหลายคนผิวไหม้กันมาแล้ว แต่ระหว่างทางเดินในป่าโกงกาง จะร่มรื่นไม่ค่อยโดนแดด เดินเพลินกันไปเลย ขากลับถึงที่พักอาจกินข้าวได้หลายจาน นอนเพลียหลับสบายให้ลมโกรกในกระท่อม
โฮมสเตย์กับบ่อกุ้ง บ่อหอย เมื่อข้ามเรือมาถึงหมู่บ้าน แล้วเดินต่อหรือเช่าจักรยานขี่เที่ยวเล่น เราอาจใช้เวลาเพียงวันเดียวแล้วรอน้ำขึ้นจึงกลับออกไป หรือจะใช้เวลาอีกสักคืนสัมผัสกับบรรยากาศของชนบทของแท้ นอนกระท่อมริมบ่อกุ้ง บ่อหอย กินอาหารทะเล ปู ปลา กุ้ง หอย จัดมาสดๆ ในราคาที่ถูกมาก คนละประมาณ 500 บาทเท่านั้น รวมอาหารทุกมื้อ และมีอยู่หลายโฮมสเตย์ให้เลือก บางแห่งดีไซน์สวย หลังใหญ่ แต่เดินมาเข้าห้องน้ำไกลหน่อย บางแห่งไม่ใหญ่มาก อยู่ไกลออกมานิดนึง แต่มีห้องน้ำส่วนตัว เลือกกันตามสะดวกเลย
ถึงจะใกล้กรุงเทพฯที่สุด แต่ก็บ้านๆที่สุด และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนชอบเที่ยวแบบชิลๆกึ่งลำบากลำบน อีกได้เรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม เพื่อจะได้เอากลับมาเตือนคนแถวบ้านว่า ถ้าเราไม่ดูแลธรรมชาติให้ดี เรานี่แหละจะเป็นผู้แพ้ และอาจไม่มีแผ่นดินอยู่ในที่สุด สวย-หล่ออย่างฉลาดปราศจากมลพิษ ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมกันด้วยนะคะ หนุ่ม-สาว
Cosme*net
Travel Guide
ขึ้นรถลงเรือ จากกรุงเทพฯสู่อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ แล้วขับเลยไปยังวัดสาขลา สังเกตุท่าเรือป่ารี่ ฝั่งขวามือ แวะจอดฝากรถ คันละ 100 บาท ถ้าค้างคืน เสร็จแล้วรอเรือหางยาวรับจ้างให้ไปส่งที่ “บ้านขุนสมุทรจีน” ค่าเรือคนแรก 80 บาท คนต่อไปคนละ 10 บาท
เดินทางไกล และลุยแดด ทริปนี้ไม่มีสบาย เพราะบ้านขุนสมุทรจีนนี่บ้านนอกมาก ไม่มีรถยนต์วิ่งบนเกาะ มีเพียงจักรยานให้ขี่ตากแดดชมวิว แต่รับรองว่าฟินสุดๆ ฉะนั้น ขอแนะนำว่า นอกจากครึมกันแดดแล้ว ควรมีหมวกปีกกว้าง รองเท้าผ้าใบ เพื่อความคล่องตัว อย่าได้เอาแค่สวยแฟชั่นพร้อพเต็ม ไว้แอ๊บเช็คอินลงFacebook โดยเด็ดขาด กระโปรงสวยๆก็เก็บเอาไว้ทริปอื่นได้เลย มิฉะนั้นเวลาลงเรือคงไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่
Shopping ก็มีให้แวะขากลับ
แค่หนึ่งคืนก็อิ่มเอม กับบรรยากาศที่หาได้ใกล้กรุงเทพฯเพียงชั่วโมงเดียว กับอาหารทะเลสดๆ ในราคาถูกมาก ขากลับอย่าเพิ่งเลี้ยวรถกลับทางเก่า ให้ขับเลยไปทางวัดสาขลา เพื่อช้อปปิ้งริมคลอง หาอาหารทะเลทั้งสดและแห้งกลับไปบ้าน มีขนมไทยๆอร่อยๆหากินยากขายด้วย รวมถึงอาหารบ้านๆที่หากินไม่ได้ในกรุงเทพฯ