คือว่ามันคงร้อนจนดั๊นสติแตกไปแล้วแน่เลยค่ะเพื่อน ๆ คือดั๊นได้แอบนัดผู้ชายที่แชทออนไลน์ไม่กล้าเจอหน้ามาครบปี แต่เชื่อว่าตัวเองอินเลิฟขั้นโคม่าไปเรียบร้อยแล้ว ก็เลยแอบนัดหมายกันที่หัวลำโพง เพื่อรอนแรมบนรถไฟไปสิงคโปร์ แบบลางานประมาณราวกับว่าจะหนีตามผู้ชาย คืองี้ คนมันต้องเตรียมตัวกันสักเล็กน้อย ให้ดูดี สวยตั้งแต่ไรผมจรดปลายเท้ากันให้ได้ ก็ไม่ค่อยจะเห่อสักเท่าไหร่นะคะว่าไหม นี่ก็สร้างภาพกันสักนิด จองตั๋วรถไฟขบวนหรูติดอันดับโลกเพื่อไปเที่ยวกับผู้ชายค่ะ ก็เหล่าเพื่อนชายล้วนแล้วแต่ขับไล่ไสส่งค่ะ บอกว่า ขบวนสุดท้ายของแกแล้ว ไปเถอะ อย่าคิดมาก เดี๋ยวพวกชั้นขับรถไปส่งที่หัวลำโพง
Oriental Express กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ รถไฟในฝัน กับผู้ชายในฝัน ฉลองครบรอบที่ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอผ่านเฟสบุ้คมาหนึ่งปีเต็ม โอ้ คุณพระ แล้วมันก็เกิดขึ้นจนได้...
แล้วเราก็ได้พบกันที่หัวลำโพง...
รถไฟหรูขบวนเขียวจอดรออยู่เบื้องหน้าแค่ไม่กี่ก้าว แล้วผู้ชายของดั๊นก็ปรากฎกายในชุดเสื้อโปโลสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำเงิน รองเท้าหนัง สภาพดีมาก ..ดูราวกับภาพตอนจบของหนังรักดี ๆ สักเรื่องที่มีพระเอกเป็นผู้ดี๊ผู้ดี และจะดีกว่านี้อีกถ้าไม่มีเสียงเม้ามอยของอิพวกคุณเพื่อนดังเบา ๆ อยู่ข้างหลัง ไหนพวกนี้บอกจะมาส่งแล้วรีบกลับไปฉลองให้ไงล่ะ ดั๊นหันกลับไปค้อนแล้วโบกมือไล่ ก่อนจะสะบัดก้นจนกระโปรงปลิว รีบเดินฉับ ๆ เข้าไปหาผู้ชาย
ใช่เหรอ? ดั๊นหยุดกึ้กลงตรงหน้าผู้ชายคนหนึ่งที่..ที่..ไม่เหมือนในภาพแห่งความทรงจำตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา
ไม่ใช่ไม่หล่อนะคะ แต่...นี่มัน โอ้แม่เจ้า...ความมั่นใจในเมคอัพกับชุดสวยหรูหมดไปในทันที พอหันกลับไปมองพวกเพื่อนผู้ชาย ที่ยัง...มันยังอยู่กันครบตรงนั้น ...และยกนิ้วให้ดั๊นกันอย่างพร้อมเพรียง หน้าตาทุกคนประมาณ “แกทำได้ไงเนี่ย..”
คล้ายกับละเมอนิด ๆ ตอนที่พนักงานออกมาต้อนรับและเชิญสองหนุ่มสาวขึ้นไปบนโบกี้ เดินนำไปยังห้องพักไทป์ สเตทเคบิน ห้องนี้จะเป็นสองเตียงแยกกันค่ะ ย้ำค่ะว่าแยกกัน คือสัญญากับตัวเองไว้เลยค่ะว่าจะอยู่ในที่ในทางของตัวเอง รักนวลสงวนตัวอย่างหญิงไทยวัยสามสิบกว่า แม้อิพวกเพื่อนผู้ชายจะไม่เห็นด้วยค่ะ เพราะเพื่อน ๆ ย้ำมาตลอดทางจากสุขุมวิท 60 มาถึงหัวลำโพง ว่า “แกไม่ใช่สามสิบกว่า แกจะสี่สิบแล้ว อย่าเยอะ ขอร้อง โอกาสมีอยู่แค่สามคืนบนรถไฟ จัดไป อย่าให้เสีย”
ตอนนี้เตียงนอนของสองเรายังคงมีสภาพเป็นเลาจ์อยู่ค่ะ คือมีโซฟาสองตัว นั่งเผชิญหน้ากันริมหน้าต่าง ดั๊นแอบเหลือบมองผู้ชาย ที่กำลังยิ้มให้พนักงานซึ่งเป็นคนไทย พร้อมเอ่ยขอบคุณ เสียงเพราะนุ่ม ทุ้ม ลึก มาดดี สง่า หน้าตาเกินเอื้อม แล้วผู้ชายเนิร์ด ๆ ที่คุยกับดั๊นมาเป็นปีนั่นใครกันฮึ...เฮ่อ โกรธไม่ลงค่ะ
ห้อง 3 แบบ 3 ราคา บนอีสเทิร์น โอเรียนเตล เอ็กซ์เพรส
รถไฟขบวนหรูของสองเรา มีห้องนอน 3 แบบ คือ
- ห้องเพรสสิเดนท์ แพงสุด ๆ แต่ก็หรูมาก กว้าง 11.6 ตร.ม. มีห้องอาบน้ำ ห้องแต่งตัว ห้องนอนก็กว้าง และโซฟาจะกลายเป็นเตียงในยามค่ำ
- ห้องสเตทเคบิน ของเราสอง คือไทป์กลาง ๆ แพงแต่คุ้ม ถ้าคุณมองหาทริปที่สามารถเอาไปคุยอวดใครได้ตลอดชีวิตแบบนี้ไงคะ ห้องนี้มีขนาด 7.8 ตร.ม. ซึ่งดั๊นว่า น่าจะแคบกว่านี้จะได้มีเตียงเดียวพอ ประหยัดเนื้อที่ออก ว่าไหมล่ะ งุงิ..
- ห้องพูลแมนเคบิน ห้องที่ราคาถูกที่สุด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่หรู ซึ่งเป็นมีเตียงนอนแบบ บน-ล่าง ซึ่งกลางวันจะกลายเป็นโซฟานุ่ม ๆ ให้นั่งเล่นเหมือนกันค่ะ ห้องพูลแมนจะมีมากสุดในขบวนคือ 30 ห้อง และมีเนื้อที่ภายในห้อง 5 ตร.ม. ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้แคบเท่าไหร่หรอกนะคะ เพราะเป็นห้องเตียงสองชั้นก็จะมีเนื้อที่เหลือเยอะอยู่ ถ้าไม่ใช่ทริปโรมานซ์แบบนี้ ดั๊นก็ยอมจ่ายแค่หลักหมื่นดีกว่าค่ะ
พนักงานผู้แสนสุภาพแต่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายได้เดินออกจากห้องไปแล้ว เหลือเพียงเธอและฉัน สองต่อสอง ที่กำลังหันมาสบตากัน ช่วยด้วยค่ะ คุณพระ! ผู้ชายคนนี้จะหล่อไปไหน คุณหลอกดาวมาโดยตลอด ในเฟสบุ้คไม่ใช่แบบนี้ ไม่ได้หล่อขนาดนี้ ดั๊นทำได้แค่ยิ้มสวยสุดชีวิต ไขว้มือไปข้างหลังแบบเขินๆ แล้วแอบหยิกตรูดตัวเองเพื่อเตือนสติไม่ให้กระเจิดกระเจิง
“เจอกันจนได้นะครับ”
แล้วดั๊นก็หมดสติลงไปในทันที...อ้าว ไม่ใช่หรอกหรอ ก็อยากจะเหมือนในหนังมั่งนะคะคุณ ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก วางท่าดูดีนิดนึงและกล่าวสวัสดีพร้อมยิ้มสวยงาม ทั้งที่อยากจะกระโดดเข้าไปซบไหล่เป็นที่สุดเลย แล้วนางเอกก็ลูบกระโปรงสีเขียวทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา โวะ นิ่มแฮะ ห้องก็หอมจริง ๆ ผู้ชายก็หล่อ และแล้วรถไฟก็ได้เวลาออกเดินทางตรงตามหมายกำหนดการ คือออกจากหัวลำโพงเวลา 17.50 น. โทรศัพท์มือถือสั่นตึ๊ด ๆ หยิบขึ้นมาดู อิพวกผู้ชายไลน์มาค่ะ “เจอกันที่สิงคโปร์อีก 4 วัน พวกฉันลาพักร้อนแล้ว”
ฉันส่งสติ๊กเกอร์กระโดดล๊อคคอ แล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เขา แล้วเราสองคนก็เริ่มคุยกันกระหนุงกระหนิง..ซะที่ไหน เรื่องตารางเดินทางครั้งนี้นี่แหละค่ะ มาดูกันเลย
Travel Guide
กรุงเทพ-สิงคโปร์ บนรถไฟ อีสเทิร์น โอเรียนเทล เอ็กซ์เพรส
- วันแรก ออกจากกรุงเทพเวลาเกือบหกโมงเย็น แล้วมุ่งหน้าออกนอกเมือง คืนนี้เตรียมตัวดินเนอร์หรู ผู้ชายต้องมีแจ๊คเก็ตหรือสูท แต่งตัวสุภาพค่ะ ส่วนผู้หญิงชุดดินเนอร์สวย ๆ พร้อมค่ะ บนรถไฟขบวนนี้ต้องแต่งตัวดูดีตลอด รองเท้าแตะไม่ได้นะคะ กางเกงยีนส์ก็ไม่สุภาพ จากดินเนอร์หรูก็ไปยังตู้ที่เป็นบาร์ สบาย ๆ ผ่อนคลาย ก่อนจะเข้านอน
- วันที่สอง รถไฟมุ่งสู่สะพานข้ามแม่น้ำแควเวลาประมาณ 9.00 น. และจอดให้พวกเราไปลงเรือล่องแม่น้ำ พร้อมมีไกด์คอยบรรยายประวัติศาสตร์ของสะพานแห่งนี้ และเที่ยวชมสุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก แม้จะดูเหมือนจะเป็นทริปธรรมด๊าธรรมดา แต่ถ้ามากับรถไฟขบวนนี้ ต้องไม่ธรรมดาแน่นอนค่ะ
- วันที่สาม เราจะไปถึงบัตเตอร์เวิร์ธ บ่ายสองและออกเดินทางสู่มาเลเซียตอนห้าโมงเย็น ซึ่งจะไปถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์เกือบเที่ยงคืน แต่ไฮไลท์จะอยู่ระหว่างบัตเตอร์เวิร์ธสู่มาเลเซีย ที่ดั๊นคิดว่าคงจะได้แต่งตัวสวยไปชมสถาปัตยกรรมของเมืองปีนัง ช้อปปิ้ง และถ่ายรูปพรีเว้ดดิ้ง เอ๊ย รูปคู่กันที่โบสถ์คริสต์สวย ๆ
- วันสุดท้าย แต่ไม่ใช่สุดท้ายของสองเราแน่นอนค่ะ เป็นวันที่เราไปถึงสิงคโปร์ตอนเกือบเที่ยง แล้วจองห้องพักแสนสวยเอาไว้แล้วที่โรงแรมโอเรียนเตล แมนดาริน เป็นไงล่ะ หรูตลอดทริป ลงทุนซะขนาดนี้ ถ้าพลาดพลั้งขึ้นมา ก็ถือซะว่าเป็นบุญเก่าก็แล้วกัน คริคริ ขอเตรียมตัวไปดินเนอร์ก่อนนะคะ ชุดพร้อม ใจพร้อม ผู้ชายพร้อมค่า