พาเที่ยวทั่วไทยขึ้นเหนือ-ล่องใต้มาตลอดปีแล้ว สัปดาห์นี้จะพาไปเที่ยวเมืองนอกแบบไม่ไกลบ้านกันบ้าง ภาษาประวัติศาสตร์เรียกว่า "บ้านพี่เมืองน้องสองฝั่งโขง" คือ ไทย-ลาว นั่นเอง จากครั้งหนึ่งที่เคยพานั่งเครื่องบินของบางกอกแอร์เวย์ไปหลวงพระบาง (อ่านต่อได้ที่นี่ " 3 วัน 2 คืน สะบายดี หลวงพระบาง) แต่ครั้งนี้เราจะเขยิบเข้ามาใกล้กว่า จะพานั่งรถไฟข้ามไปฝั่งลาวแล้วค่อยเหมารถเข้าเมืองไปนอนในโรงแรมสวย ราคาธรรมดาแต่ดีไซน์หรูหราในนครเวียงจันทร์ ประเทศลาว
พร้อมแล้วก็รีบโทรจองตั๋วรถไฟ กรุงเทพฯ-หนองคาย นั่งไกลแบบนี้ขอเป็นตู้นอนชั้น 1 บอกแล้วว่าทริปนี้ไปสบาย นอนสบาย แม้จะไปด้วยรถไฟก็เถอะ รถไฟขบวน 69 จากสถานีหัวลำโพง ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 20.00 น. ค่ารถไฟ เตียงบน 1,117 บาท เตียงล่าง 1,317 บาท หรือจะเหมาห้องก็ได้ถ้าเดินทางคนเดียว ในราคา 1,817 บาท ใครที่ไม่เคยนั่งรถไฟชั้นหนึ่ง บอกเลยว่าหรูหราแบบส่วนตัวซึ่งต้องลอง แต่ต้องจองล่วงหน้ากันหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน เพราะมีไม่กี่ห้องและจองเต็มกันอย่างรวดเร็ว
หนองคาย-เวียงจันทน์ ทางรถไฟ
ถึงหนองคายตามเวลาก็ 7.45 น. ในเช้าวันรุ่งขึ้น แต่เผื่อเลทเอาไว้แต่ให้ทันรถไฟเที่ยวเช้าไปสถานีท่านาแล้ง เมืองเวียงจันทน์ ออก 9.00 น. หรือถ้าไม่ทันก็ยังมีเที่ยวอื่น
เตรียมพาสปอร์ตให้พร้อม หรือถ้าไม่มีก็ใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Temporary boarder pass) จ่ายค่าธรรมเนียม 80 บาท สำหรับทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ซึ่งต้องไปทำที่ศาลากลางจังหวัดหนองคาย เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุด ตั้งแต่ 8.30-16.30 น. ต้องใช้รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 3 รูป กับสำเนาบัตรประชาชน สำหรับเอกสารผ่านแดนประเภทนี้จะเข้าไปอยู่ในประเทศลาวได้ 3 วัน 2 คืน
นอนในดีไซน์ที่เวียงจันทน์
จากสถานีรถไฟ หารถเช่าวิ่งเข้าเมืองไม่กี่ร้อยบาท แล้วก็ได้เวลาเข้าที่พัก สถาปัตยกรรมในเมืองหลวงของลาวทั้งเมืองหลวงเก่าคือหลวงพระบางและเมืองหลวงใหม่อย่างเวียงจันทน์นั้นงดงามแบบผสมผสานระหว่างตะวันตกและล้านช้าง โรงแรม ที่พักต่างๆจึงมีดีไซน์คลาสสิคมีเสน่ห์ แม้แต่ห้องพักราคาธรรมดาต่ำกว่าพัน
- อรุณเรสซิเดนท์
ห้องพักราคาเริ่มต้นต่ำกว่าพัน ประมาณ 800 กว่าบาท เมื่อจองผ่านเวบบุ้คกิ้ง ซึ่งต้องหาดูว่าที่ไหนให้ราคาถูกที่สุด อรุณเรสซิเดนท์ ตั้งอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอย่างประตูชัยหรือออกเสียงแบบคนลาวว่าประตูไซ ที่มีสถาปัตยกรรมแบบปารีส เพราะฝรั่งเศสเคยปกครองประเทศลาวอยู่หลายปี
website : aroon-residence-hotel.com
- Villa Manoly
วิลล่า มาโนลี่ เป็นห้องพักสวยดีไซน์คลาสสิคในราคาคืนละ1,000-1,300 บาท พร้อมอาหารเช้า มีสระว่ายน้ำ และอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ไม่ไกลจากแม่น้ำโขง
website : villa-manoly.com
- มันดาลา บูทีค โฮเทล
โรงแรมมันดาลา บูทีค โฮเทล ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยว ใกล้แม่น้ำโขง ดีไซน์คลาสสิค ราคาคืนละ 2,000-3,000 บาท พร้อมอาหารเช้า
website : mandalahotel.asia
เตร็ดเตร่ในเวียงจันทน์
- ประตูชัย (Patuxi)
แม้จะมีสถาปัตยกรรมแบบปารีสแต่ก็มีความเป็นลาวในรายละเอียด อย่างเช่นภาพเรื่องราวของมหากาพย์รามายณะแบบปูนปั้นในซุ้มประตูโค้ง มีบันไดวนให้ขึ้นไปชมความงามของเมืองเวียงจันทน์ แวะพักทีละชั้น ซื้อของที่ระลึก ค่าเข้าชมคนละประมาณ 10 บาท หรือ 2,000 กีบ
- พระธาตุหลวง เวียงจันทน์
พระธาตุหลวงเวียงจันทน์หรือเจดีย์โลกะจุฬามณี เป็นมากกว่าความงามที่นักท่องเที่ยวต่างมาเยือนกันทุกวัน แต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลาว เป็นพระธาตุที่มีประวัติการก่อสร้างเป็นพันปี โดยช่างฝีมือชาวลางในสถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวนครเวียงจันทน์ในช่วงที่มีงานนมัสการพระธาตุหลวง ก็จะประทับใจกับความยิ่งใหญ่ของงานที่เต็มไปด้วยหญิงลาวผู้งดงามในชุดผ้าซิ่น ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้เฒ่า
- วัดศรีสะเกษ
วัดศรีสะเกษเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดที่เหลืออยู่ในเมืองเวียงจันทน์ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1818 ในสถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง มีความงดงามและทรงคุณค่ามาก ใครชอบวัดเก่าแก่พลาดไม่ได้ นอกจากจะมีพระพุทธรูปดินและพระพุทธรูปเงินอันงดงามแล้ว ยังมีชิ้นส่วนของพระพุทธรูปที่ถูกทำลายในสงครามเก็บรวบรวมเอาไว้ด้วย
- ตลาดค่ำ ถนนคนเดินในเวียงจันทน์
ถนนคนเดินในเมืองเวียงจันทน์ เป็นถนนเส้นที่น่าเดินมากที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะตั้งขายกันบนทางเท้าเลียบริมแม่น้ำโขง ลมพัดเย็นสบาย และเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่เดินกันเพลินแน่นอน
เวียงจันทน์ยังมีมุมคลาสสิคอีกมากมายให้เราไปเตร็ดเตร่ ในราคาที่พอๆ กับเที่ยวในเมืองไทย ใช้เวลาเพียง 2 วัน 2 คืน กับการเช่ารถออกตะลอน ดื่มเบียร์ลาวริมโขง นุ่งซิ่นสวยประชันสาวลาวแล้วเดินกินขนมปังบาแก๊ตริมทาง อย่าลืมชิม "พันหอม" อาหารลูกครึ่งลาว เวียดนาม ที่มีขายเกลื่อนตลาด กับน้ำจิ้มแซ่บ และอาหารพื้นบ้านแบบลาวๆ ที่หากินในบ้านเรายากกว่า
จบทริปลาวคลาสสิคแล้วก็เช่ารถให้ไปส่งที่สถานีรถไฟท่านาแล้งเที่ยว 11.45 น. หรือ 17.00 น. เพื่อกลับหนองคาย แล้วเตร็ดเตร่ก่อนขึ้นรถไฟกลับบ้านซึ่งต้องมีตั๋วอยู่ในมือไว้แล้วด้วยนะคะ แนะนำให้กลับรถด่วนขบวนเดิม รถออกเวลา 18.20 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 6.00 น. ในเช้าวันรุ่งขึ้น ถ้าทานมื้อเย็นไม่ทันก็สั่งอาหารมาทานในห้องพักชั้น 1 หรือเดินไปนั่งชิลในโบกี้อาหารก็ได้ ทริปสนุก สบาย ไม่เหนื่อย ยอมจ่ายค่ารถไฟชั้น 1 ดูเหมือนจะแพงเกือบเท่าเครื่องบินโลว์คอร์สหรืออาจแพงกว่า แต่ก็ได้อารมณ์ได้เที่ยวกินนอนบนรถไปกลับรวม 2 คืน ...ลองเปลี่ยนแนวชีวิตดูบ้าง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และเติมไฟให้กับชีวิต
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : laos-travel.blogspot.com