อาหาร & ท่องเที่ยว
นั่งรถไฟสุดสายตะวันตกไปมาลัยแมน
7,555
21 พ.ค. 2558
งงกันล่ะสิ cosme*net จะพาไปเที่ยวที่ไหนกัน?? "มาลัยแมน" ชื่อเหมือนจะอยู่แสนไกล แต่ใกล้กรุงเทพฯ นิดเดียว ที่เมืองขุนแผน สุพรรณบุรี นี่เอง แต่ใครที่ชอบความรวดเร็วคงจะเมินหน้า เพราะฉะนั้น ทริปนี้ขอแนะนำสำหรับคนที่มองหาอะไรที่แปลกแตกต่าง ในเวลาอันจำกัด ขอแบบไม่ไกล และมีอะไรมากกว่าที่คิด ต้องที่นี่เลย สุพรรณบุรี เดินทางโดยรถไฟฟรี ขบวน 355 ออกจากกรุงเทพ 16.40 น. ถึง "มาลัยแมน" คือสถานีสุดท้ายที่จังหวัดสุพรรณบุรี ตอน 20.14 น. อาจจะนานสักนิด แต่สนุกปะล้ำปะเหลือกันเลยทีเดียว เพราะไม่ต้องคอยจอดหลบหลีกเส้นทางให้ใครที่มาแรงกว่า หลังจากแยกจากกันที่จังหวัดนครปฐม ไปคนละเส้นทาง สายใต้และตะวันตก ค่ำแล้ว อย่าลืมเตรียมที่พักเอาไว้กันด้วย
ระหว่างทางจากกรุงเทพฯ สู่มาลัยแมน จะแวะจอดทั้งหมด 25 สถานี และสถานีมาลัยแมนคือสถานีที่ 26 เท่ากับได้แวะเที่ยว แวะกินกันไปตลอดทาง และอาจได้จอดเยอะกว่านี้ด้วย เพราะบางครั้งรถไฟก็จอดให้คนลงใกล้บ้านซะงั้น คือไม่ต้องระวังอันตรายเรื่องรถไฟขบวนไหนจะสวนกลับมา สายสุพรรณบุรีวิ่งหวานเย็นบนเส้นทางที่อินดิเพนเดนท์มาก เหมาะกับมนุษย์ประเภทสโลว์ไลฟ์ ต้องลองกันดูสักครั้ง
"มาลัยแมน" คือทางหลวงแผ่นดินสายนครปฐม-สุพรรณบุรี ถือเป็นเส้นหลักของจังหวัดสุพรรณบุรีที่จะเข้ากรุงเทพฯ เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นายปุย มาลัยแมน หัวหน้ากองคลัง กรมทาง ....และแล้วมาลัยแมนก็มีที่มาที่ไม่ได้หวือหวาอะไรเลย แต่การเดินทางแอบหวือหวาเล็กน้อย ซึ่งเมื่อมาถึงแล้ว ก็ไปหาที่พักสบายๆ นอนสลบสไลกันก่อนเลยดีกว่า เพราะสุดสายถนนมาลัยแมน คือที่ อำเภอเมืองจังหวัดนครปฐม ชีวิตจึงไม่ยากเย็น ไม่ได้กันดารอะไร สถานีรถไฟอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวมากมาย เราจึงควรเลือกพักใกล้สถานีสักหน่อย เพราะไปถึงก็มืดค่ำแล้วนะ
โรงแรมสองพันบุรี พักสบายๆ ในเมืองก่อนเลย
เพราะเป็นโรงแรมค่อนข้างมาตรฐาน และอยู่ใจกลางเมืองในราคาที่ไม่แพง จึงแนะนำให้ไปนอนเล่นที่นี่กันสักคืนก่อนจะไปต่อหรือกลับบ้านก็แล้วแต่ใจ เพราะขากลับถ้าจะกลับรถไฟก็เที่ยวเย็นเลย มีเวลาตะลอนอีกทั้งวัน คืนนี้ไปนอนสบายๆ ที่โรงแรมนี้ก่อน
โรงแรมชื่อสองสองพันบุรี เป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้กับหอคอยบรรหาร-แจ่มใส ใกล้กับหอนาฬิกา และไม่ไกลจากแม่น้ำท่าจีนมากนัก และแน่นอนว่าไม่ไกลจากสถานีรถไฟด้วย ราคาที่พัก 1,000-2,700 บาท
- Tel : 035-546-667,035-522-555-7 Fax : 035-522-097
- E-mail : songphanburihotel@hotmail.com
- website :
ตื่นแต่เช้าเที่ยวในเมือง
ตื่นแต่เช้าไปสักการะ หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ ชื่อวัดเก่าแก่อายุ 1,000 ปี และเป็นสุพรรณบุรีมากๆ เป็นวัดอารามหลวงชั้นตรี อยู่ห่างจากแม่น้ำท่าจีน 2 กิโลเมตร เป็นวัดที่ใหญ่โตจริงๆ บนเนื้อที่ประมาณ 82 ไร่ ตามหลักฐานแล้วน่าจะเป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอู่ทอง ที่วัดจะมีภาพเขียนเรื่องราวของวรรณคดี ขุนช้าง-ขุนแผน ทั้งเรื่อง อ่านไปก่อนแล้วไปเดินชมจะได้ทั้งอารมณ์ร่วมและความรู้เพิ่มเติม
- เรือนขุนช้างที่วัดป่าเลย์ไลก์ : มาเที่ยววัดยังได้ขึ้นเรือนขุนช้าง สามีคนที่สองของนางวันทอง อีกสาเหตุแห่งโศกนาฎกรรม เรือนแห่งนี้สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง งดงามอย่างบ้านเรือนไทยในสมัยก่อน มีภาพวาดตัวละครขุนช้างภายในเรือน และมีบรรยายเกี่ยวกับเรื่องขุนช้างขุนแผนอีกด้วย
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุพรรณบุรี
แวะมาเที่ยวใกล้ที่พักบ้างที่ "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุพรรณบุรี" ซึ่งไม่ธรรมดาเลย เพราะการจัดแสดงภายในทันสมัย ได้ความรู้ ถึงความเป็นมาของจังหวัดเก่าแก่แห่งนี้ เป็นการรวบรวมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ผ่านสื่อรูปภาพและงานปั้น ตั้งแต่ยุคที่ชาวสุพรรณได้ต่อสู้ป้องกันชาติสยาม และมีห้องต่างๆหลายห้อง เช่นห้องที่รวบรวมชนเผ่าต่างๆ มาอยู่ที่เมืองสุพรรณ ซึ่งถือเป็นเมืองหน้าด่านที่ติดกับประเทศพม่า ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ที่น่าสนใจแนะนำว่าควรพาเด็กๆแวะไปด้วยก็จะดี มารักชาติกันเถอะ
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุพรรณบุรี ตั้งอยู่ที่ศูนย์ราชการกรมศิลปากร ถนนสุพรรณบุรี-ชัยนาท ตำบลสนามชัย อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
เวลาทำการ : วันพุธ-วันอาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ 09.00-16.00 น. โทรศัพท์ : 0-3553-5330
สวนเฉลิมภัทรราชินี หอคอยบรรหาร-แจ่มใส
แทบจะเรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คกลางใจเมืองสุพรรณบุรี สำหรับหอคอยสีขาวสวยแห่งนี้ ที่ชื่อ หอคอยบรรหาร-แจ่มใส นักการเมืองที่คนสุพรรณให้ความเคารพนับถือและสร้างความเจริญให้กับจังหวัดนี้มาก หอคอยบรรหาร-แจ่มใส สูง 123.25 เมตร มีกล้องส่องทางไกลให้ชมเมือง มีร้านขายของที่ระลึก ห้องจัดนิทรรศการเกี่ยวกับเมืองสุพรรณบุรี และมีสวนที่ตกแต่งสวยงามด้วยพรรณไม้ น้ำพุดนตรี สนามเด็กเล่น สไลเดอร์ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ก่อนที่จะเข้าบ้านนอน สวนเฉลิมภัทรราชินี เปิดให้เข้าชม วันอังคาร - ศุกร์ เวลนา 10.00-19.00 น. และวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00-20.30 น. หยุดวันจันทร์ (ยกเว้นวันนักขัตฤกษ์)
- ค่าขึ้นชมหอคอยบรรหาร-แจ่มใส
เวลา 10.00-18.00 น. - ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 15 บาท
หลังเวลา 18.00 น. - ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
- ค่าเข้าสวนเฉลิมภัทรราชินี - ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท
ภายใน 1 วัน ถ้าเที่ยวมากกว่านี้จะเหนื่อยเกินไป เพราะเมื่อวานนั่งรถไฟหวานเย็นมาตั้ง 3 ชั่วโมง สำหรับขากลับก็นึกเอาว่าจะกลับทางไหน รถไฟ รถบัส หรือรถตู้ ถ้าคุณมาเที่ยวในงบประมาณจำกัด นอนสบายไปแล้วในราคาประมาณ 1,000 บาท เที่ยวทั้งวันรวมค่ากินไม่น่าจะเกิน 1,000 บาท กลับรถไฟฟรีก็ดีเหมือนกันว่าไหม ถ้าสุขภาพและหัวใจพร้อมก็เตรียมตัวกลับบ้านได้ในช่วงเวลาเดิมที่ขึ้นจากกรุงเทพฯ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง พนักงานรับสายตอบคำถามได้น่ารักเสมอ ลองดูค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.suphan.biz, watpasuphan.com
IN THIS SECTION
COMMENTS
Recommended By *Cosmenet
