วันที่ 25-27 มิถุนายน ปีนี้ หรือตั้งแต่วันพฤหัสถึงวันเสาร์ของสัปดาห์นี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยเขามีงานนิทรรศการ 99 ปี สถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง) มีแสดงโมเดลรถไฟสวย ๆ เท่ห์ ๆ บริเวณห้องโถงด้วย ใครผ่านไปแถวนั้นแวะเข้าไปดูกันหน่อย ประวัติรถไฟไทยของเราไม่ธรรมดา และเรียกได้ว่าเคยรุ่งเรืองมากที่สุดแล้วในอดีต
เกริ่นนำเรื่องรถไฟเพราะจะพาไปเที่ยวทางรถไฟใกล้กรุงเทพฯ เมืองที่คนกรุงเทพฯ หลายคนเฉย ๆ เพราะใกล้เกิน แต่ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวบ้านเรา ต่างหาข้อมูลนั่งรถไฟไปเที่ยวกันทั้งนั้น ด้วยความที่ใกล้กรุงเทพฯ และค่ารถไฟก็ราคาถูก ...จะพาไปไหนกัน ก็ อยุธยา เมืองเก่าของเราแต่ก่อนนี่แหละ!!! ทั้งใกล้และยังเป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย ไปกัน!! เชิญซื้อตั๋วที่ช่องขายตั๋วกันเลย อยากไปเร็วก็นั่งรถด่วน อยากไปเรื่อย ๆ แวะแชะรูปของสถานีรถไฟเล็ก ๆ ระหว่างทางก็ไปรถธรรมดา ช่วงนี้ยังฟรีอยู่ ประหยัดเงินเอาไว้เป็นค่ารถตุ๊กตุ๊กที่อยุธยาดีไหม? นอกจากนี้ยังมีขบวนรถชานเมืองที่คนอยุธยาแต่ทำงานหรือเรียนในกรุงเทพฯ ก็จะอาศัยรถไฟขบวนนี้เดินทางไปกลับ ขบวนนี้เป็นรถธรรมดา ฟรีเช่นเดียวกัน
รถไฟสายเหนือและอีสานต้องผ่านอยุธยา ดังนั้นจึงมีให้เลือกกันหลายขบวนทั้งวันจนดึก แต่อย่าเผลอไปซื้อตั๋วรถด่วนพิเศษเข้าล่ะ จะแพงเกินไปสำหรับระยะทางใกล้แค่นี้ เลือกเป็น รถเร็ว ชั้น 2 นั่ง ปรับเอน ราคา 65 บาท หรือ ชั้น 3 สุดคลาสสิค ราคา 45 บาท น่าจะดีที่สุด เพราะออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพ 6.40 น. ไปถึงอยุธยา 8.25 น. กำลังดีไม่ร้อนเกิน ถ้าไม่ทันขบวนนี้ก็จะมีขบวนถัดไปช้าไปอีกแค่ 20 นาที เป็นรถเร็วเหมือนกัน เมื่อมาถึงอยุธยาและลองหารถตุ๊กตุ๊ก ให้ไปส่งตามแหล่งท่องเที่ยวก่อนเลย เหมาทั้งทริปก็ได้ ตกลงราคากันให้ดี
ราคารถตุ๊กตุ๊ก จากสถานีรถไฟอยุธยา
บ้านคุณพระ เกสท์เฮาส์รวมสมัยสไตล์ไทย-โมเดิร์น
แนะนำเกสท์เฮาส์เก่าแก่ แต่เก๋าสุดๆ อย่าง บ้านคุณพระ ที่พักริมน้ำในบ้านเก่าร่วมร้อยปี ไม่ต้องกลัวผีเพราะยังไม่เคยมีใครมาเล่าว่าเคยเจอซะที บอกต่อแต่เรื่องราวดี ๆ ที่พักสวย อาหารอร่อย บรรยากาศชนะเลิศ ได้บรรยากาศแบบอโยธยาจริง ๆ จัง ๆ จนอาจเผลอลืมตัวคิดว่าตัวเองเป็นนางในขึ้นมาได้เหมือนกัน
ที่พักราคาเริ่มที่ ห้องนอนรวมหรือห้องดอร์ม (Dormitory) 250 บาท แยกชาย-หญิง มีสี่เตียง ห้องพักส่วนตัว เริ่มที่ 500-600 บาท ห้องน้ำรวม ณ เรือนริมน้ำ และ 1,100 บาท ในเรือนเล็ก มีห้องน้ำส่วนตัว ห้องแอร์ บรรยากาศสุดคลาสสิค โดยเฉพาะห้องพัดลมริมน้ำที่มีหน้าต่างติดลูกกรงแบบโบราณ บางห้องมีระเบียงริมน้ำด้วย ซึ่งต้องจองล่วงหน้าสักหน่อย
สำหรับ เรือนเล็ก ที่ติดแอร์และราคาสูงกว่า จะดูร่วมสมัยมากกว่า เพราะใส่ดีไซน์ใหม่ ๆ กึ่งโมเดิร์นเข้าไปในความคลาสสิคนั้นด้วย ใครมองหาความสะดวกสบายมากกว่าบรรยากาศบ้านเก่า และทนอากาศร้อน ๆไม่ค่อยได้ ก็เลือกนอนในเรือนเล็กดีที่สุด สวยเก๋มิใช่น้อยเลยเจ้าค่ะ
หอนก เรือนไม้มีดีไซน์ของห้องนอนรวม ที่แตกต่างจากห้องนอนรวมส่วนใหญ่ เพราะไม่ได้จัดเป็นเตียงสองชั้น แต่เป็นเตียงไม้โบราณเก๋ ๆ มีกำปั่นใส่ผ้าขนาดใหญ่วางไว้ปลายเตียงด้วย ใครเห็นห้องนี้และสามารถนอนรวมกับใคร ๆ ได้แนะนำเลยเพราะราคาถูกมาก ห้องน้ำรวมก็มีดีไซน์และสะอาดสะอ้านอีกต่างหาก ได้ห้องแล้วก็อาบน้ำนอนเล่นสักพัก ลงไปรับประทานอาหารที่ ห้องอาหารบ้านคุณพระ ชิล ๆ ริมน้ำก่อนจะหารถตู้ไปตะลอน เหมาไปเลยทั้งวัน หรือถ้าอยากไปแค่ไม่กี่ที่ แนะนำตามนี้เลย
อนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี
เป็นสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติบนพื้นที่ 143 ไร่ ได้จำลองสถานที่เด่น ๆ มาไว้ที่นี่ และยังเป็นแหล่งเผยแพร่ของดี 16 อำเภอ ด้วย รวมถึงตลาดน้ำจำลองที่มีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือมาขายของ มาถึงก็เช่าจักรยานขี่กันชมเมืองจำลองให้ทั่วถ้าอากาศไม่ร้อนเกินไปนัก เพราะต้นไม้ยังต้นเล็ก ๆ อยู่ แนะนำเป็นช่วงเช้าหรือเย็น แดดร่ม ลมสบาย ยิ่งในฤดูหนาวจะดีมาก และถ้าใครแวะไปเที่ยววันเสาร์-อาทิตย์ จะมีการแสดงจากอำเภอต่าง ๆ ให้ชมกันเพลิน ๆ ด้วย ค่ารถตุ๊กตุ๊กจากสถานีรถไฟคนละ 100 บาท แต่จากเกสท์เฮาส์ต้องต่อรองราคากันอีกที เพราะน่าจะใกล้กว่า
ล่องเรือคลองเจ้าเจ็ด คลองแห่งตำนานเมืองอโยธยา
ก่อนที่ตลาดน้ำอื่น ๆ จะโด่งดังขึ้นมาในอยุธยา จริง ๆ แล้วดั้งเดิมจริง ๆ ต้องไปล่องเรือกันในคลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หน คลองที่เคยเป็นป่ารกร้างในยุคที่ไทยกับพม่ายังรบรากันอยู่ เป็นคลองที่เชื่อมสู่สุพรรณบุรี อ่างทอง และสิงห์บุรี จึงเป็นแหล่งชุมนุมติดต่อค้าขายทางน้ำมาตั้งแต่โบราณ นอกจากจะมีเรือให้ล่องชมวิถีชีวิตริมคลองแล้ว ยังต้องแวะวัดเจ้าเจ็ดใน วัดเก่าแก่ที่มีก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกอร่อย ๆ ของป้าปุ๊กันด้วย
มีเวลากันเต็มวันก่อนเข้านอน จะให้ดีคือเช่าเหมาตุ๊กตุ๊กกันไปเลย เพราะส่วนใหญ่คงไม่เดินทางคนเดียว มีคนร่วมแชร์ค่ารถ สบายไป เมืองอยุธยามีโบราณสถานเก่าแก่มากมายแม้แต่ตามรั้วบ้านคนที่มีผุดโผล่ขึ้นมา เพราะอยุธยาเคยถูกพม่าเผาทำลายล้างในยุคที่เคยรุ่งเรือง ร่องรอยเหล่านี้ยังมีอยู่ทั่วไป และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็เคยมีโครงการจะนำอยุธยากลับมามีบรรยากาศแบบย้อนยุค ซึ่งก็ลำบากตรงที่กระทบชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่นี่ โครงการจึงเงียบหายไปเกือบยี่สิบปีแล้ว
ใครยังนึกไม่ออกว่าวันเสาร์-อาทิตย์ที่จะถึงนี่จะไปไหนดี บางคนอาจเบื่อขับรถตะลอนคนเดียว หรืออยากได้บรรยากาศที่เหมือนได้เดินทางไกลบ้าง ก็ลองมานั่งรถไฟในฝนโปรยปรายสบาย ๆ หยิบหนังสือสักเล่มสองเล่มใส่กระเป๋า สะพายเป้ขึ้นหลัง อย่าลืมหาผ้าไทยสวย ๆ เอาไว้ใส่ไปเดินในบ้านไทยด้วย จะได้มีภาพเซลฟี่ดูดีออกสื่อให้ใคร ๆ อิจฉา แม้ไม่ได้ไปไกลถึงหลวงพระบาง แต่อยุธยาของไทยเราก็เป็นมรดกโลกเหมือนกันนะ อย่าลืมกันล่ะ