สถานีต่อไปสุทธิสาร เตรียมตัวลงกันได้ แล้วเดินออกทางไปอาคารเมืองไทย-ภัทร เดินขึ้นมาเจอแสงสว่างจากโลกภายนอก วนขวาเลาะข้างสถานีไปจนเจอซอยทางซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายทันที ตรงไปเรื่อย ๆ จะเจอป้าย "ครัวภูเก็ต" กับตู้กระจกข้าวราดแกงสารพัดแกงอยู่หน้าร้าน กับตู้เล็ก ๆ สำหรับอาหารสุขภาพเมืองใต้อย่างข้าวยำ
เลือกแกงราดข้าว หรือแยกกับข้าวกันได้เลยจากหน้าร้าน ถ้ามาคนเดียวอยากแยกกับข้าวก็จะแยกใส่ถ้วยเล็ก แต่ถ้ามากลุ่มเล็กก็เป็นจานกลาง และจานใหญ่สำหรับกลุ่มใหญ่ ซึ่งภายในร้านแม้จะไม่ใช่ห้องแอร์หรูหรา แต่ก็ตกแต่งเรียบง่ายด้วยโต๊ะไม้ทั้งในร่มและกลางสวนแบบ Open air น่านั่งทานในช่วงเช้า เพราะร้านเปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้า บพอถึงบ่าย 3 ก็จะหมดแล้ว ใครนั่งรถไฟฟ้าไปทำงาน ต้องผ่านสถานีสุทธิสารก็แวะทานข้าวเช้ากันก่อนได้ อาหารร้านนี้ไม่เผ็ดจัดจ้านเกินไป กำลังอร่อยสำหรับลิ้นคนภาคอื่น
ถูกปากที่สุดด้วยความเข้มข้นจนต้องอยากสั่งกลับบ้าน คือ แกงพุงปลา หรือแกงไตปลา ที่น้ำแกงข้นด้วยสารพัดและหอมเครื่องแกงใต้จริง ๆ เนื้อปลาชิ้นค่อนข้างโต ทานกับผักสดอย่างใบบัวบก แตงกวา นอกจากจะลดความเผ็ดร้อนในปากลงได้แล้วยังเข้ากันกับอาหารภาคนี้อีกด้วย
ปลาดุกผัดพริกแกง อีกจานที่น่าลอง เพราะได้ปลาดุกตัวโตเนื้อเยอะ และเนื้อไม่แข็งเกินไป ได้หลายชิ้นอิ่มแน่นอน เลือก หมูยอทอด มาทานคู่กัน เพราะอยากมีจืด ๆ แบบทานง่ายบ้าง ใครทานข้าวน้อยบอกพนักงานเอาไว้ก่อนด้วย เดี๋ยวจะทานไม่หมดเพราะให้ข้าวค่อนข้างเยอะอยู่
ผัดมะเขือยาว ต้องแนะนำ สำหรับคนชอบทานผัดมะเขือยาวแต่ยังไม่เคยลองสูตรแบบภาคใต้ รสชาติกำลังดี สั่งมาคู่กับ หมูสามชั้นทอด ของชอบของหลาย ๆ คน เพิ่มคอลลาเจนกันสักนิด หน้าจะได้สวยหล่อเด้งไปนาน ๆ
ข้าวยำสุขภาพ ร้านครัวภูเก็ตเลือกใช้ข้าวกล้องหอมมะลิ หอมนุ่ม อร่อย ยิ่งเวลาคลุกเคล้ากับสารพัดผัก สมุนไพร ราดน้ำบูดูหอมหวาน ยิ่งดูน่าทานไปกันใหญ่ น้ำบูดูออกหวานสักหน่อย ถูกใจคนทานหวาน แต่ถ้าใครไม่ชอบรสหวาน แนะนำเพิ่มน้ำปลาและพริกป่นลงไป อร่อยไปอีกแบบ
แค่นี้ก็อิ่มจะแย่แล้ว แต่ร้านอาหารปักษ์ใต้บ้านเรา ต้องมีน้ำพริกกะปิ-ผักสด มาเป็นน้ำชุบเพิ่มรสชาติระหว่างมื้อด้วย ถึงจะเป็นมื้อจัดจ้านปักษ์ใต้แท้ เติมผักได้เรื่อย ๆ แต่แค่พออิ่มน่าจะดี เพราะเดี๋ยวจะมีเครื่องดื่มหวานเย็นชื่นใจแนะนำอีกแก้วอย่าง ชาเย็นเฉาก๊วย หวานกำลังดีโดยไม่ต้องสั่งว่าไม่หวาน ร้านนี้เลือกใช้ชาดี ชงเข้ม หอม อร่อย ราคาแก้วละ 20 บาท แนะนำว่าควรลอง ไม่ต้องชานมไข่มุกจากประเทศไหน ไทยเราก็มีของดี ชาเย็นเฉาก๊วยเลย
ข้าวราดแกงร้านครัวภูเก็ต เริ่มที่จานละ 30 บาท ขึ้นไป แต่ส่วนใหญ่จะจ่ายแพงกว่าเพราะอยากกินกับข้าวหลายอย่าง โดยประมาณคือ 35-40 บาท จานใหญ่อิ่มพอดีสำหรับคุณผู้ชาย ส่วนสาว ๆ อย่าลืมขอให้ข้าวน้อย ๆ เดี๋ยวก็ต้องไปนั่งอยู่กับที่ ใช่แค่พลังงานนิ้วและสมอง แค่พออิ่มสบายท้อง ส่วนใครจะหิ้วกลับบ้านก็จัดเลย ไปแต่เช้าจะอลังการกว่าจนไม่รู้ว่าจะเลือกทานอะไรดี ไปกันหลาย ๆ คนจะได้แบ่ง ๆ กันทาน เป็นอีกมื้อที่ไม่แพง อร่อยแบบสุขภาพดีมีสมุนไพร ต้องไปลองค่ะ