ฤดูฝนของทั่วประเทศและฝั่งอันดามันคือช่วงเวลาเดียวกัน ขณะที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยไม่ค่อยโดนมรสุมเต็มที่นักตลอดช่วงเวลานี้ ทำให้จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยที่มีเกาะสวยงามตั้งแต่ชุมพรลงไปถึงสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช จึงค่อนข้างปลอดมรสุม แต่คนส่วนใหญ่มักไปเกาะสมุย เกาะเต่า สองเกาะดังมากกว่าที่จะคิดถึงทะเลชุมพร ที่มีความสวยงามใต้ทะเลไม่น้อยหน้าใคร หรืออาจจะเรียกได้ว่ายังสมบูรณ์กว่าด้วยซ้ำ เบื่อ ๆ ไม่รู้จะไปไหน ฝนมาแล้วด้วย ก็แนะนำการเดินทางง่าย ๆ ขับรถไป 6 ชั่วโมง หรือรถทัวร์จากสายใต้ก็ได้ แต่อีกเส้นทางสำหรับคนอยากหลับยาวไปถึงชุมพรเช้ามืด หาอาหารเช้าในตลาดใกล้สถานีรถไฟกินก่อนไปเกาะ สไตล์เรื่อยเปื่อยแต่มีรสชาติก็ได้นะ
แต่ทริปนี้ไปคนเดียวจะเปลือง ให้บังคับขืนใจเพื่อนไปด้วยอีกสัก 3 คน หรือจะไปกันสองคู่ก็ดีงามตามมาตรฐานสากล ส่วนเรื่องที่พักเราจะไปพักกันบน เกาะมัตรา จังหวัดชุมพร บรรยากาศง่าย ๆ กระท่อมริมทะเลระเบียงกว้าง ห้องน้ำเบสิคสุด ๆ แต่สะอาด เดินไม่กี่ก้าวก็ได้ลงน้ำทะเลใส ๆ แล้ว ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลฝั่งมาก โทรหา ลุงขาว ที่ดูแลเกาะนี้มายาวนาน เบอร์ 089-972-6440 ค่าที่พัก 1,000 บาท ห้องน้ำนอก แต่อยู่ติดกับบ้าน ห้องนี้นอนได้ 5 คน หรือห้อง 4 คน ราคา 1,200-1,500 บาท ห้องน้ำในตัว นอนได้ 4 คน ที่พักอาจดูธรรมดามาก แต่บรรยากาศเกินร้อย อาหารทะเลสดมากด้วย การเดินทางไปเกาะปัจจุบันจะเป็นเรือหางยาวขนาดกลาง นั่งได้ไม่เกิน 10 คน ราคา 3,800 - 4,500 บาท พามาส่งที่เกาะ พาไปดำน้ำทั้งวันและรอรับกลับในอีกวัน
วางแผนการเดินทางอันดับแรก จองตั๋วรถไฟล่วงหน้าประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าไปช่วยเทศกาล ต้องล่วงหน้านานเป็นเดือน แนะนำไปช่วงวันหยุดธรรมดาดีที่สุด เลือกเดินทางด้วยรถไฟตู้นอนจะสบายหน่อย กรุงเทพฯ-ชุมพร ออกจากกรุงเทพฯ ควรเลือกขบวน 19.30 น. เป็นรถด่วนขบวน 85 ถึงชุมพรประมาณตีห้า (ตามเวลาคือ 04.13 น. แต่โดยปกติจะเลทประมาณเกือบชั่วโมง หรือกว่านั้นเล็กน้อย) ค่ารถไฟรถนอน (ปรับอากาศชั้น2) คนละ 590-690 บาท ถ้าอยากประหยัดมีรถนั่งพัดลมแบบปรับเอนได้ กว้างกว่ารถทัวร์ ค่ารถคนละ 340 บาท
ก่อนนอนก็แวะไปนั่งทานอะไรที่ตู้เสบียงสักหน่อย นาน ๆ ได้ขึ้นรถไฟสักที แล้วค่อยเข้านอน อย่าลืมตั้งปลุกเอาไว้ที่ 4.00 น. ดูว่าถึงสถานีไหน ถ้าอีกไกล ก็ตั้งปลุกต่อ แต่ยังไงพนักงานรถไฟก็จะมาปลุกให้เอง เพราะเขารู้ว่าเตียงไหนลงที่ไหน
ถึงสถานีรถไฟจังหวัดชุมพร ประมาณ เวลาที่บอก เดินเล่นไปเรื่อย ๆ ด้านหน้าสถานี จะมีรถไฟเก่าจอดอยู่ เดินเลียบถนนไปถึงแยกข้างหน้าแล้วเลี้ยวขวาไปเรื่อย ๆ จะเป็นทางไปตลาด มีของกินมากมาย ซึ่งต้องเลี้ยวซ้ายอีกที เดี๋ยวจะเห็นเอง หาข้าวเช้าทานกันก่อนไม่ต้องรีบ แถวตลาดจะมีรถสองแถวจอดอยู่ หารถสองแถวไปหาดทรายรี ถามไถ่คนที่นั่นดูได้เลย รถสองแถวที่ชุมพรจะเหมือนรถโพถ้องที่ภูเก็ต และจังหวัดอื่น ๆ ของทางภาคใต้ คือเป็นรถโดยสารไม้หลากสี เซลฟี่กันสักหน่อย ระหว่างการเดินทาง
เนื่องจากเกาะมัตราที่จะไปลงเรือหางยาวที่มารอรับที่หาดทรายรีนั้น มีที่พักเพียงแห่งเดียว อาหารอร่อยแต่เราอาจต้องตุนน้ำดื่มไปเองเพื่อความอยู่รอดที่ไม่สิ้นเปลือง หิ้วน้ำขวด 5 ลิตรไปเลยกับขวดเล็กไว้พกพา ดีที่สุด อาหารมื้อหลักทานในที่พัก ส่วนกับแกล้ม ขนมขบเคี้ยว ผลไม้หิ้วไปด้วย รวมถึงยาสามัญประจำตัวที่จำเป็น
ใช้เวลาเดินทางจากหาดทรายรีถึงเกาะมัตราไม่เกิน 40 นาที เก็บของเข้าที่พักและออกไปดำน้ำต่อได้เลย โดยมากจะพาดำน้ำเกาะบริเวณนี้ ซึ่งใต้น้ำสวยงามพอสมควร แม้แต่หน้าเกาะมัตราก็ยังสวย มีหอยมือเสือขนาดใหญ่มากมายซึ่งหาดูได้ยากที่อื่น สิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่นี่อุดมสมบูรณ์มากจนคุณจะหลงใหล สำหรับคนที่อยากไปให้ไกลถึงเกาะลังกาจิว เกาะสัมปทานรังนกที่มีหาดทรายขาวนวล น่าเล่นน้ำ ก็อาจต้องจ่ายเพิ่มค่าน้ำมันอีกเล็กน้อย ทริปนี้ หารค่าเรือไปกลับรวมดำน้ำคนละไม่เกินพันห้า ถือว่าเกินคุ้ม
เกาะมัตรา เป็นเกาะขนาดเล็ก แต่ถ้าเดินไปถึงปลายเกาะแล้วต้องเดินกลับก็ลมจับได้เหมือนกัน มีทีพักเพียงแห่งเดียวของลุงขาว ที่ดูแลและอาศัยอยู่บนเกาะนี้มายาวนาน ลุงขาวเคยเข้าไปร้องเรียนถึงกรุงเทพฯ ในวันที่เกาะมัตรากลายเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรและต้องย้ายออกไป ในที่สุดเจ้าถิ่นก็ชนะ ลุงขาวก็ดูแลเกาะนี้มาเรื่อย และแม้จะมีอาหารทะเลสด ๆ ก็ไปตกไกลแหล่งปะการังและเขตอุทยาน และหาซื้อจากชาวประมง อาหารทะเลบนเกาะจึงสดทุกวัน
ไฮไลท์บนเกาะคือ ปูไก่ที่ร้องเสียงเจี๊ยบ ๆ เหมือนไก่ เราจะเจออยู่ทั่วเกาะ และสิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่สวยงามไม่น้อยหน้าเกาะไกลฝั่งอื่น ๆ โดยเฉพาะหอยมือเสือตัวโต ที่มีจำนวนมากจนน่าตื่นตาตื่นใจ แค่ถือสน็อกเกิ้ลเดินลุยน้ำออกไปหน้าหาดไม่กี่สิบเมตร ก็จะได้เห็นความงามที่ว่า สำหรับฝูงปลาก็ไม่ได้มีแค่ปลารับแขกเหมือนเกาะอื่น ๆ เราจะพบปลาสารพัดชนิด ได้ยินเสียงปลานกแก้วลายสวยกำลังเอาฟันขูดกินรอบๆตัว แนะนำว่า อย่าให้อาหารสัตว์น้ำในเขตปะการัง เพราะจะทำให้สัตว์อื่นเข้ามาแย่งพื้นที่สัตว์ที่ควรอยู่ตรงนี้ ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบนิเวศน์แน่นอน แล้วยังผิดกฎหมายอีกด้วย
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่เกาะมัตราสวยเกินห้ามใจ นี่จะเป็นอีกทริปที่คุณจะประทับใจไม่มีวันลืมบอกได้เลย แม้ที่พักจะเบสิกบ้านๆ จนเห็นครั้งแรกอาจมีอาการอึ้งนิดนึงถ้าไม่ใช่แนวลุย แต่ลองเปิดใจ ใช้ชีวิตใกล้ชิดความไม่ปรุงแต่งกันดู แล้วจะรู้ว่าความสุขนั้นเกิดขึ้นได้ง่ายมาก
สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้แบบคร่าว ๆ
- ค่ารถไฟไปกลับ 1,400 บาท
- ค่ารถสองแถวไปกลับ 100 บาท
- ค่าเรือ 1,200 บาท
- ค่าที่พัก 1 คืน 250 บาท
- ค่าอาหาร 1,000 บาท (กินหนักมาก)
รวม 3,950 บาท (ถ้าอยากนอนมากกว่า 1 คืน ต้องตกลงกับเรือหางยาวดูว่าต้องเพิ่มอีกเท่าไหร่ ซึ่งน่าจะไม่กี่ร้อยบาท ต่อรองดู หรือให้ลุงขาวต่อรองดูได้ เพราะเราเป็นแขกของลุงขาว)
รถไฟออกจากชุมพร ประหยัดที่สุดและเวลาพอเหมาะที่สุดคือ รถเร็วขบวน 174 จะจอดบ่อยกว่ารถด่วน ออกจากสถานีรถไฟชุมพรเวลา 19.36 น. หรือทุ่มครึ่ง ซึ่งรถคงเลทตามเคย และถึงกรุงเทพฯ ตามเวลาคือ 05.10 ซึ่งก็คงถึงประมาณ 6.00 น. เลือกตู้นอนพัดลมบ้างได้อีกบรรยากาศ ถ้าอยากได้ประสบการณ์ ค่ารถถูกกว่ามาก คือ 400-450 บาท ส่วนตู้นั่งปรับเอนชั้น 2 พัดลม คนละ 300 บาท ควรจองตั๋วตั้งแต่ที่กรุงเทพฯแล้ว รถเร็วราคาเดียวกับขบวน 174 ก็จะมีขบวน 168 ออกจากชุมพรเวลา 20.31 น. ถึงกรุงเทพฯประมาณ 05.35 น. ส่วนรถด่วนจะจอดน้อยกว่า จึงอาจเลทได้น้อยกว่า แนะนำขบวน 86 ออกจากชุมพร 21.22 น. ถึงกรุงเทพฯ 6.30 น. ค่ารถราคาเท่ากับรถด่วนขามาจากกรุงเทพฯ ลองคำนวณกันดู ถ้าตกรถก็ยังมีรอบดึกอีกจนถึงห้าทุ่มเลย ลองสอบถามที่สถานีรถไฟดูได้ หรือโทร 1690 ตรวจสอบเวลารถไฟกันเลย
เกิดเป็นคนไทย เที่ยวไทยให้ทั่วไทย มีที่ต้องไปอีกมากมาย
ที่สำคัญ ต้องเข้าใจฤดูกาล เข้าใจลมมรสุม แล้วจะเที่ยวได้สนุกแน่นอน