Low Carbon Holiday 5 เกาะทะเลตราด ทะเลเดียวคุ้ม!

     ต้องบอกว่านี่เป็นทริปอลังการงานรักษ์โลกสุดคุ้มแห่งปี และอินเทรนด์เป็นที่สุดอย่างที่คนรุ่นใหม่อย่าได้พลาด หมดเงินหลักพัน ได้เที่ยว 5 เกาะ คือ เกาะกูด เกาะหมาก เกาะขาม เกาะหวาย และเกาะช้าง นอน 2 เกาะ บนเกาะหมากและที่เกาะช้าง อาหารทุกมื้อ 3 วัน 2 คืน ได้ปล่อยเต่า ปล่อยปลา ปลูกป่า ปลูกปะการัง ฟังบรรยายดีๆให้ความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมและ สุขภาพ ปลา ปู กุ้ง หอย ได้กินครบ รวมทั้งอาหารพื้นบ้านแบบโลคอล จบค่ำคืนสุดท้ายด้วยปาร์ตี้เอ็กซคลูซีฟริมชายหาดอีกต่างหาก เป็นทริปที่ อพท.(องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน) ที่เป็นองค์กรมหาชน ทุ่มทุนสร้างเต็มที่ เพื่อกระตุ้นสำนึกการท่องเที่ยวที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ในฐานะสื่อที่ได้รับเชิญไปร่วมทริปเอ็กซ์คลูซีฟครั้งนี้ บอกเลยว่าต้องยอมเปียกทั้ง 2 วัน แบบเต็มวันและครึ่งวัน แบบจืดและแบบเค็ม... กันไปเลย

วันแรก จากกรุงเทพฯถึงน้ำตกคลองเจ้าเกาะกูด สู่ Sunset ที่เกาะหมาก

   ตื่นกลางดึกรีบโบกแท็กซี่ไปพร้อมกันกลางกรุงฯ เพื่อร่วมเดินทางไปกับลูกทัวร์และสื่ออีกหลายสิบคน รถโค้ชสองชั้น 2 คัน วิ่งตามกันไปจนถึงท่าเรือแหลมศอก จังหวัดตราด ลงเรือเร็วขนาดใหญ่ เกาะกูดเอ็กซ์เพรส ไปเกาะกูดกันต่อเลย พอได้สูดอากาศสดชื่นริมทะเลก็หายเหนื่อยกันถ้วนหน้า ยิ่งพอไปถึงเกาะกูด เห็นน้ำใสๆแถวท่าเรือก็เป็นการเปิดฉากทะเลตราดแบบใสสะอาดอลังการ บนสะพานปูนยาวเหยียดจากน้ำลึกสู่ชายหาดน้ำใสทรายขาว ใต้ร่มมะพร้าวเรียงรายยาวเหยียดแบบที่สามารถผุดรีสอร์ทขึ้นมาได้อีกตลอดแนว แต่ก็ยังดูสงบ ปลีกวิเวกบนเกาะใหญ่ไกลฝั่ง

     ลูกทัวร์จะต้องเลือกมาก่อนแล้วว่า ใครจะไปปลูกป่า ไปปล่อยปลา หรือปล่อยเต่า แล้วแยกย้ายกันขึ้นรถไปรับประทานอาหารกลางวันก่อนจึงไปทำกิจกรรมที่เลือกไว้ อันนี้ต้องขอบพระคุณ อพท.เป็นที่สุดที่เลือกร้านอาหารได้โดนใจกันถ้วนหน้า กับร้านอาหารริมคลองเจ้า ณ มุมสวยของโค้งน้ำ อาหารอร่อยโลคอล รสชาติใช่จนต้องเติมกันหลายรอบ


     เนื่องจากคำนวณดูแล้วว่า โปรแกรมตลอดสามวันคือทะเลล้วน ๆ จึงขอเป็นไปเดินป่า เพื่อปลูกต้นสำรองที่น้ำตกคลองเจ้าดีกว่า...ขอสารภาพว่าตอนเช็คโปรแกรมตลอดสามวันเพื่อเตรียมเสื้อผ้า คิดว่า ต้องเอาเสื้อผ้าแบบลุยเลอะโยนทิ้งได้มาด้วย ก็มีทั้งปลูกป่า ปลูกปะการัง และปล่อยเต่า แต่พอมาถึงน้ำตกคลองเจ้า พวกเราก็ได้รับแจกหนังสติ๊กกับเมล็ดพันธุ์ลูกสำรอง เพื่อยิงเข้าไปในป่า ให้ไปตกและพร้อมเติบโตขึ้นด้วยตัวเอง....จะใส่กระโปรงยาวกรอมเท้าสวยงามฟรุ้งฟริ้งปลูกป่าก็ไหวนะคะงานนี้

     กระนั้นปลูกเสร็จก็เปียกเลย เพราะแม้จะเดินเท้าเข้ามาเพียง 1 กิโลเมตรแบบสบาย ๆ แต่ก็อยากได้ความเย็นฉ่ำสักนิด น้ำตกคลองเจ้ามีน้ำอยู่มากพอสมควร ถ้าขยันเดินขึ้นไปอีกหน่อยจะได้กระโดดลงแอ่งน้ำสนุกกว่า...วันนี้ยังไม่อยากเอ็กซ์ตรีมเยอะ ดูสังขารตัวเองแล้ว ลงไปนอนกลิ้งเป็นเขื่อนกั้นน้ำแถวนี้ซะเลย ฟีลลิ่งนั้นสวรรค์สุด ๆ


     เสร็จกิจกรรมเกาะกูด ก็ลงเรือไปนอนค้างคืนเกาะหมาก 1 คืน ช่วงเย็น ไลฟ์สไตล์กันไปกับวิวทะเลสวยเบื้องหน้า บางคนก็ไปพายซีคยัค บางคนขอหลับเพราะตื่นกันตั้งแต่ตี 2- ตี 3 ห้องพักสวยสบาย อาบน้ำไปเปิดม่านมองออกไปยังท้องทะเล พระอาทิตย์ใกล้ลับฟ้า สะพานยาวเหยียดออกไปในทะเล มีเกาะเล็กเกาะน้อยเป็นฉากอลังการเบื้องหน้า ปิดโปรแกรมวันนี้ด้วยอาหารเย็นอร่อยกับเตียงนอนสบาย ฝนตกพรำ ๆ อยู่ด้านนอก ทุกคนเข้าสู่โหมดฝันดีพร้อม ๆ กัน...หลับสนิท

วันที่สอง ไปว่ายน้ำใน Swimming pool ขนาดใหญ่กลางอ่าวไทยกับเต่าทะเล

     ก่อนจะลงเรือไปปล่อยเต่าทะเลที่เกาะขาม ปลูกปะการังเกาะหวาย และปาร์ตี้เอ็กซ์คลูซีฟที่เกาะช้าง จำเป็นที่สุดที่จะต้องมาทำความรู้จักกับเกาะหมาก จริง ๆแล้วจากประสบการณ์เก่าแก่ที่เคยปั่นจักรยานเล่นในเกาะหมาก ก็พอจะเข้าใจได้ว่า ทำไมเกาะหมากจึงเป็นเกาะที่ตั้งของโปรเจคสำคัญของ อพท. คือ Low Carbon Destination หรือแหล่งท่องเที่ยวอนุรักษ์พลังงาน เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ไม่ใช่ท่องเที่ยวไปถึงที่ไหนหายนะไปถึงที่นั่น


     ก็เกาะหมากนั้นค่อนข้างเล็ก มีประชาชนชาวเกาะหมากอาศัยอยู่ประมาณ 400 กว่าคน แต่มีประชากรแฝงอีกเยอะมาก อาจเพราะอยู่ใกล้เขมรแค่นี้เอง แรงงานก็ต้องมีนั่นเอง และในจำนวน 400 กว่าคน ก็มาจากตระกูลใหญ่ของเกาะหมาก 4 ตระกูล ชาวเกาะหมากค่อนข้างมีการศึกษา จึงไม่ยากที่จะเป็นจุดเริ่ม และจะเข้าใจเรื่องของ Low carbon หรือลดก๊าซเสียได้ง่ายกว่า


     ที่นาแปลงเล็ก ๆ หลังเกาะหมากรีสอร์ท ปลูกทั้งข้าวไรซ์เบอร์รี่และข้าวสังหยดข้าวจีไอจากจังหวัดพัทลุง ซึ่งเพิ่งได้ผลเป็นรุ่นแรก นอกจากนาข้าวแล้ว ก็มีแปลงผักปลอดสาร ที่ปลูกพืชผักเอาไว้หลายชนิด โปรเจ็คนี้มีความหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากรีสอร์ทอื่น ๆ ด้วย เพื่อการพึ่งพาตนเองภายในเกาะ ที่มีน้ำจืดพอใช้ตลอดทั้งปี


     ออกจากเกาะหมากไปพร้อมลูกเต่าทะเลจำนวนหนึ่ง ใครเคยเห็นเต่าบกตัวเล็กๆที่เดินข้ามถนนอาจสงสัยว่า เอ๊ย นี่มันตัวไม่เล็กนะ ใช่ลูกเต่ารึ? นี่แหละค่ะลูกเต่า เพราะจริง ๆ แล้วเต่าทะเลที่ตัวเล็กสุดเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่นี่ก็ตัวโตอย่างน้อย 70-80 เซนติเมตรกันแล้ว ยิ่งถ้าเป็นเต่ามะเฟืองก็จะได้ถึง 200 เซนติเมตรเชียวนะ ...ไปปล่อยลูกเต่าที่เกาะขามกันเล้ย

ณ เกาะขาม Swimming Pool กลางอ่าวไทย

     คุณคะ! ทะเลตราดไม่น้อยหน้าอันดามัน! และเชิดใส่เกาต่า เกาะนางยวนฝั่งเดียวกันได้เลย โดยเฉพาะที่นี่ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่กลางอ่าวไทยที่อยู่ห่างจากเกาะหมากเพียงไม่กี่นาที ภาพแรกที่เห็นก่อนลงเรือลำเล็กไปเทียบท่า ก็สวยสมบูรณ์แบบแล้วนะ แต่พอได้ไปเหยียบ และพระอาทิตย์โผล่พ้นก้อนเมฆออกมา นาทีนั้น เหมือนสปอร์ทไลท์ส่องขึ้นไปบนเวที เกาะขามนี่นางเอกแห่งทะเลตราดชัดๆ แม้จะเป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ แต่เธอสวยจนอดใจไม่ไหว เดินถ่ายรูปเพลินใจ มุมนั้นก็สวย มุมนี้ก็ใช่ ชิงช้า เก้าอี้ไม้ โขดหินภูเขาไฟสีดำตัดกับสีเขียวใสของท้องทะเลและหาดทรายสีขาว เอ้า รีบๆเก็บภาพเข้าไป ก่อนจะอดใจไม่ไหววิ่งลงไปให้ทะเลสีมรกตโอบกอด และ นาทีที่ได้ลงไปลอยตัวอยู่หน้าหาด มันความสุขล้วน ๆ ไม่เจือปน เป็นความสุขแบบ Low Carbon ชัด ระดับน้ำที่ค่อนข้างอยู่ในระดับเดียวกัน ลาดลงไปเพียงเล็กน้อยแม้จะเดินไปไกล มีสันทรายที่ทำให้ทะเลตื้นออกไปไกลอยู่ตรงนั้น แต่ฉันจะอยู่ตรงนี้ เพราะตรงนี้มัน Swimming pool กลางอ่าวไทย ฉันจะไม่ยอมอดใจ บอกเลย

     กิจกรรมปล่อยเต่าจัดขึ้นที่นี่ ลูกเต่าหลายตัวขยับขาที่โผล่พ้นกระดองไปมาน่าเอ็นดูตอนที่สมาชิกทัวร์จับพวกเธอมาปล่อยลงน้ำใส ๆ ที่เกาะขาม ...ความรู้สึกตอนนั้นคือ...อิจฉาเต่าสิคะ เด็กน้อยชายหญิงที่ใช้ชีวิตอยู่ในกระดองได้สัมผัสกับอิสรภาพในท้องทะเลเป็นครั้งแรก พวกเธอแหวกว่ายผ่านน้ำตื้นสู่น้ำลึกในเสียงเชียร์ของพวกเราแล้วก็หายไปตลอดกาล ขอให้พวกหนูเติบโตมีลูกมีหลานเต็มท้องทะเลกันเลยนะจ๊ะ ...


     โบกมือลาเกาะขามอย่างอาลัยอาวรณ์ แสงแดดระยับบนริ้วคลื่น โขดหินภูเขาไฟสีดำกระจัดกระจายอยู่บนฝั่งและในน้ำทะเลสีมรกต.....ขอให้เธองดงามเช่นนี้ตลอดกาล

เกาะหวาย ห้องเรียนธรรมชาติกับความสำเร็จในการปลูกปะการัง

     เกาะใหญ่เบื้องหน้าเหมือนภูเขาเขียวขจีลูกโตตั้งอยู่กลางทะเล เกาะหวายไม่ได้เล็กอย่างที่คิด แล้วยังดูจะอุดมสมบูรณ์ทั้งบนบกและในน้ำ เพราะเกาะหวายปะการังรีสอร์ท เป็นเพียงรีสอร์ทเดียวบนเกาะหวาย ที่ไม่ใช่เป็นเพียง Destination เพื่อการพักผ่อน แต่เป็น Destination หรือจุดหมายปลายทางแห่งการอนุรักษ์ปะการังด้วย


     หลังจากเหตุการณ์ฟอกขาวได้ทำลายล้างปะการังในทะเลฝั่งอ่าวไทยเมื่อไม่กี่ปีก่อน ที่เกาะหวายก็ได้ค้นพบการฟื้นชีวิตปะการังด้วยการใช้ท่อพีวีซีเป็นเสมือนการรักษารากฟัน และใส่ยอดปะการังลงไป ไขน้อทดันให้ปะการังติดอยู่ภายในท่อ ก่อนจะนำไปดูแลในทะเลน้ำตื้น การค้นพบครั้งนี้ได้เพิ่มชีวิตปะการังในทะเลตราดบริเวณเกาะหวายได้จำนวนมหาศาลหลักหมื่นต้น และสมาชิกทัวร์รวมถึงสื่อมวลชนก็ได้ร่วมปลูกปะการังที่เกาะหวายในวันนั้นด้วย


     เมื่อปลูกปะการังแล้วก็ดำดูปะการังกันที่หน้าหาด ที่มีน้ำใสสะอาดแม้แต่บริเวณลึก ตรงนี้ว่ายน้ำง่ายมาก เพราะน้ำนิ่งใส มีปะการังให้ดูในหลายๆจุด เพลินกันจนได้สีผิวใหม่กลับบ้านกันถ้วนหน้า


     ถึงเกาะช้าง ไปต่อกันที่ The Spa Koh Chang Resort รีสอร์ทสุขภาพติดอ่าวสลักคอก กับป่าโกงกางที่สมบูรณ์ที่สุดของเกาะช้าง งานนี้นอกจากฟังบรรยายเรื่องสุขภาพและคุณสมบัติล้ำของน้ำมันมะพร้าวแล้วก็ชิมไอศครีมกะทิอร่อย ๆ กับช้อปน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นคุณภาพดีกลับบ้านกัน ระหว่างนั่งฟังบรรยายก็แอบสนใจรีสอร์ทล้างพิษแบบนี้ ถ้าได้พาคุณนายแม่มาพักผ่อน รีทรีทด้วยกัน น่าจะดี

Let’s go Party on the beach ณ หาดทรายขาว เกาะช้าง

     ความทรงจำที่หาดทรายขาวพรั่งพรู เกาะช้างเปลี่ยนไปมากมายแทบจะทุกครั้งที่กลับไป โดยเฉพาะหาดทรายขาวที่เคยงดงามเกินบรรยายจากคืนวันเก่าของหนุ่ม-สาวที่เกิดในในยุค 70-80 นั่นทำให้ความหวังจากการอนุรักษ์โดยโปรเจ็ค Low Carbon Destination ได้ขยับไหวสะเทือนเกาะช้างในที่สุดด้วยเถอะ

     ปาร์ตี้หน้า เคซี เกาะช้าง รีสอร์ท แอนด์สปา ได้รับความร่วมมือจากหลายๆฝ่าย โดยเจ้าของงานอย่าง อพท.ดูจะเหนื่อยกันสักหน่อย เพราะเป็นการจัดครั้งแรก ส่วนคอนเซปท์มาเต็ม สวยงาม แม้จะมีฝนตกลงมาแต่ก็ช่วยทำให้สดชื่นจากที่อบอ้าวกันมาตลอดวัน ความเก๋ของงานนอกจากการตกแต่งสถานที่แล้ว ก็คือการนำเชฟสุดยอดฝีมือจากโรงแรมใหญ่บนเกาะช้างมาโชว์ฝีมือกลางแจ้งในหลายๆเมนู แม้ฝนจะปรอยๆอยู่แต่บรรยากาศก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

วันสุดท้าย Bye Bye หมู่เกาะทะเลตราด

     นั่งเฟอร์รี่กลับฝั่งแล้วไปทานอาหารมื้ออร่อยบรรยากาศสวยริมทะเลป่าโกงกาง ที่บ้านปู รีสอร์ท มื้อสุดท้ายช่างเอ็กซ์คลูซีฟจนเสียดายที่เป็นคนกินน้อย เพราะอร่อยไปหมด ทั้งแกงคั่วสับปะรดไข่แมงดา ส้มตำปูม้าดอง ก๋วยเตี๋ยวผัดปู น้ำพริกกุ้งเสียบ ผักพื้นบ้านปลอดสารพิษ และเมนูอื่น ๆ ที่ล้วนอร่อยล้ำ คืออิ่มกันจนถึงกรุงเทพ ฯ ถ้วนหน้า

     อยากแนะนำเลยสำหรับคนที่ชอบโปรแกรมแน่น ๆ เกินคุ้ม เพราะจะได้ไปครบทุกเกาะในทะเลตราดอีกเป็นการท่องเที่ยวแบบช่วยกันลดคาร์บอนไดออกไซด์ ลดปริมาณขยะ และสำนึกรักท้องทะเลอย่างเข้าใจ ไม่ใช่แค่ตามเทรนด์ ใครสนใจต้องติดต่อ อพท. (องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน) หรือคอยตามในเพจ www.facebook.com/lcd.chang.mak.kood

     ก็ได้ ได้เวลาสำนึกรักโลก รักท้องทะเล และเลิกเที่ยวเอาแต่สบายไม่คืนอะไรสู่ธรรมชาติและสังคมกันได้แล้วนะคะ คนรุ่นใหม่ ขอบคุณ อพท. (องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน) สำหรับทริปเอ็กซ์คลูซีฟที่ได้อะไรกลับมามากมายเลยจริง ๆ