กันแดดทาตัวคู่ใจสาวๆหน้าร้อนนี้
ใช้ได้ทุกวันแน่นอน
เข้าสู่เดือนเมษายน เดือนที่ร้อนที่สุดแห่งปีกันแล้วนะคะ สาวๆได้เตรียมตัวรับมือกันไว้อย่างไรบ้าง
มาฟังความคิดเห็นของบรรดาสาวๆ
Cosme*net ที่เราเชิญมาค้นหาผลิตภัณฑ์กันแดดคู่ใจในร้อนนี้กันค่ะ ดูซิว่า เค้าอยากได้ผลิตภัณฑ์กันแดดแบบไหนกัน
สาวๆ Cosme*net ที่เราพามาชวนคุยเรื่อง “กันแดด” ในวันนี้
น้องหมวยเล็ก “ชอบกันแดดที่มันเกลี่ยง่ายๆ”
พลอย “ใช่ เรารู้สึกว่ากันแดดปกติมันแอบมีกลิ่นแบบ กันแดดอ่ะ มันยาๆ แถมทาแล้วขาววอก”
มาย “ใช่เลย ดูรู้เลยว่าทากันแดดมา”
แพรว “ทาเยอะๆ หน้าเทาด้วย ให้ใช้ทุกวันก็ไม่ค่อยโอเค รู้สึกตัวเหนอะๆ น่าจะมีแบบที่ทาแล้วเย็นๆนะ”
มาย “ SPF ยิ่งสูงก็ยิ่งราคาแพงอ่ะ ใช้ทุกวันก็เปลือง เลยกลายเป็นว่าใช้แค่เฉพาะต้องออกแดดแรงจัดจริงๆ”
ฟ้าใส “เหมือนกัน บางทีเราเลยไม่ได้ทามันทุกวัน เฉพาะโอกาสพิเศษจริงๆ เลยกลายเป็นไม่ได้กันแดดเลย ไม่ได้กันอะไรสักอย่าง”
แพรว “แต่แดดขนาดนี้ก็ต้องทา ไม่งั้นไม่ได้จริงๆ ”
หลังจากฟังสาวๆ พูดคุยกันสักระยะ ก็พบว่า สิ่งที่สาวๆมองหาในกันแดดคู่ใจสักตัว ประกอบไปด้วยปัจจัยต่างๆดังนี้ค่ะ
1.กันแดดตัวนี้
ต้องทาง่ายซึมง่าย ไม่ใช่แค่เคลือบผิว
2.
ไม่ทำให้ผิวเราขาวลอย ทาแล้วไม่วอก
3.มี
กลิ่นหอม ทาในชีวิตประจำวันได้
4.
กันน้ำได้โอเค ไม่เยิ้ม เจอเหงื่อไม่ละลาย
5.ทาแล้ว
เย็นสดชื่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ
6ประสิทธิภาพการ
ป้องกันแดดต้องดีพอสมควร
7.คุ้มค่า คุ้มราคา เพราะต้องทาทุกวัน สาวๆจึงพิจารณาข้อนี้เป็นพิเศษ
เราจัดการนำเอา กันแดด 3 ตัว มาเทียบประสิทธิภาพกัน
โดยบีบใส่หลอดทึบสีขาว และเขียนหมายเลขไว้ จะได้ไม่รู้ว่าเป็นยี่ห้อไหนค่ะ
มาดูผลการทดสอบในแต่ละหัวข้อกันเลย
เนื้อครีม : ทดสอบโดยให้บีบครีมลงที่ท้องแขน แล้วลองเกลี่ยดู จากนั้นให้สมาชิกหมายเลขลงคะแนน
R : Reviewer
☆☆☆ เกลี่ยได้ง่าย ซึมซาบเร็ว
☆ เกลี่ยยาก
ข้อสรุป : ผลปรากฎว่า
หมายเลข 1 และ
หมายเลข 3 เสมอกัน ในขณะที่
หมายเลข 2 ค่อนข้างแห้งช้า เหนอะหนะ สาวๆไม่ค่อยปลื้มกัน
สีของครีมเมื่อสัมผัสกับผิว : ทดสอบโดยให้บีบครีมลงที่ท้องแขน ทิ้งไว้สักพัก สังเกตสีของท้องแขน
☆☆☆ - เป็นธรรมชาติ
☆☆-ขาวขึ้นนิดหน่อย
☆-ทาแล้วขาวเกินไป
ข้อสรุป :
หมายเลข 1 ให้สีผิวเป็นธรรมชาติตามเดิมมากที่สุด
หมายเลข 3 ให้ความขาวกว่าปกติเล็กน้อย ซึ่งอยู่ในระดับที่ผู้ทดสอบรับได้ ผิวไม่ขาวลอยเกินไป
กลิ่นของครีม : ทดสอบโดยให้บีบครีมลงที่ท้องแขนแล้วลองดมกลิ่นดู
ข้อสรุป : จากการทดลอง พบว่า สาวๆ ชอบกลิ่นของ
หมายเลข 3 ที่สุดค่ะ เพราะว่ามีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่มีกลิ่นแบบกันแดดทั่วๆไป ที่ให้ความรู้สึกว่ามีส่วนผสมของน้ำมันๆ ออกทางกลิ่นสารเคมี ซึ่งสาวๆบอกว่า ไม่ชอบให้ตัวเองมีกลิ่นแบบนี้ติดตัวกัน
หมายเลข 1 และ
หมายเลข 2 ออกจะมีกลิ่นของกันแดดชัดเจนไปสักนิด สาวๆเลยไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ค่ะ
กันน้ำ กันเหงื่อ ไม่เยิ้ม : ทดสอบโดยให้บีบครีมลงที่ท้องแขนแล้วลองฉีดน้ำใส่
ข้อสรุป :
หมายเลข 1 และ
หมายเลข 3 มีความใกล้เคียงกัน แต่
หมายเลข 1 จะเยิ้มน้อยกว่า ในขณะที่
หมายเลข 2 เยิ้มละลายเห็นเป็นหยดน้ำสีของครีมกันแดดเลย ซึ่งผู้ทดลองท่านหนึ่งบอกว่า
หมายเลข 3 ตอนที่มันละลายออกมาเล็กน้อย พอเอามือไปแตะๆ ถูๆ เนื้อครีมก็เหมือนซึมเข้าสู่ผิวตามเดิม
ทาแล้วเย็นสดชื่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ : สอบถามจากการทาผิวไปสักระยะ
ข้อสรุป : จากตารางคะแนน สาวๆบอกว่า
หมายเลข 3 ทาแล้วค่อนข้างสบายผิว เย็นๆ หน่อย เมื่อเทียบกับ
1 และ
2 ซึ่งผู้ทดสอบท่านหนึ่งบอกว่า
หมายเลข 2 ทาแล้วรู้สึกอึดอัดเล็กมาก ในขณะที่
หมายเลข 1 ก็มีผู้ทดสอบไม่ค่อยชอบที่ให้ความรู้สึกว่าทาแล้วลื่นน้ำมัน ยิ่งโดนน้ำยิ่งลื่นขึ้น ไม่ได้เย็นขึ้นแต่อย่างใด
ทดสอบประสิทธิภาพกันแดด : ข้อนี้สาวๆไม่ต้องทดสอบแล้ว
เพราะเรามีเจ้าอุปกรณ์ที่เรียกว่า Smartsun UV Indicator รูปแบบ wristband มาทดสอบวัดประสิทธิภาพของกันแดดทั้ง 3 ตัวนี้
การทำงานของเจ้า SMARTSUN UV INDICATOR wristband คือ จะเปลี่ยนสีไปตามปริมาณของแสงแดดที่ได้รับ ปกติเป็นเครื่องมือที่เราใช้ติดกับข้อมือ หลังจากที่เราทาครีมกันแดดไปแล้ว เพื่อดูว่า ประสิทธิภาพของครีมกันแดดของเราเสื่อมหรือยัง ซึ่งถ้าเสื่อม หรือเปลี่ยนสี แปลว่า เราควรเติมครีมกันแดดหรือทาซ้ำได้แล้วล่ะ
โดยเราจะทำการทาครีมกันแดดทั้ง 3 ยี่ห้อลงบนแถบวัด SMARTSUN UV INDICATOR wristband ในปริมาณเท่าๆกัน แล้วนำไปตากแดดเป็นเวลา 30 นาที
โดยแดดของเราเป็นแดดช่วง 15.30 น. กำลังแรงได้ที่เลยค่ะ
มีน้องกล้องตัวนี้ช่วยเฝ้าแสงแดดและสังเกตการณ์ด้วยนะ
เมื่อผ่านไป 30 นาที ปรากฎว่า
ข้อสรุป : จะเห็นได้ว่า ประสิทธิภาพของกันแดด
หมายเลข 1 และ
3 ค่อนข้างใกล้เคียงกัน ในขณะที่หมายเลข 2 เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีออกครีมๆแล้ว ซึ่งหมายความว่า ถ้าเราใช้กันแดด
หมายเลข 2 อาจจะต้องทาซ้ำบ่อยกว่า
หมายเลข 1 และ
3 นั่นเองค่ะ
คุ้มค่า คุ้มราคา : ข้อนี้เราบอกสาวๆ ว่า แต่ละผลิตภัณฑ์ มีราคาเท่าไหร่ โดยยังไม่บอกยี่ห้อค่ะ
Sunscreen 1 : ปริมาณ
90 ml ราคา
395 บาท
Sunscreen 2 : ปริมาณ
200 ml ราคา
419 บาท
Sunscreen 3 : ปริมาณ
150 ml ราคา
290 บาท
มาดูความเห็นสาวๆ กัน
ส่วนใหญ่ลงความเห็นเหมือนกันว่า
หมายเลข 3 น่าใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่า เพราะเมื่อเทียบปริมาณกับราคาก็ค่อนข้างคุ้มค่ามากกว่า
หมายเลข 1 และ
2 ค่ะ
และก็ถึงเวลาเฉลยแล้ว
แต่ละหมายเลข คือแบรนด์อะไรกันบ้างน้า
Banana Boat Ultra Sport Sunscreen Lotion SPF50 PA
แค่ยี่ห้อก็การันตีประสิทธิภาพ แม้จะกันแดดได้ดี เหมาะสำหรับออกแดดแรงๆ หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งนานๆ แต่เพราะว่าราคาสูงเกินไป ทาทุกๆ วันค่อนข้างเปลือง และไม่โอเคหากโดนน้ำ เนื่องจากทำให้ผิวลื่นเกินไป นอกจากนี้ยังมีกลิ่นที่บอกว่าเป็นกันแดด ซึ่งอาจไม่เหมาะกับการทาในชีวิตประจำวัน
NIVEA Sun Protect & Moisture Body
SPF50 PA
ครีมกันแดดที่สาวๆไม่ค่อยปลื้มในยกนี้ นอกจากจะให้ความรู้สึกที่เหนอะหนะ ยังไม่ค่อยซึมกับผิว ทำให้ผิววอกลอย ราคาก็สูงเกินไป กลิ่นก็ค่อนข้างกันแดด เพราะฉะนั้น สาวๆเลยไม่ให้ไปต่อค่ะ
Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum Intensive White SPF50 PA
กันแดดทาตัวเนื้อเซรั่ม ช่วยบำรุงผิวและยังมีประสิทธิภาพในการกันแดดได้ดี ให้ความรู้สึกที่ทาแล้วสบายผิว และมีกลิ่นหอม ไม่เหมือนกันแดด ราคาก็สมเหตุสมผล ใช้ได้ทุกวันไม่รู้สึกว่าเปลืองเท่าไหร่นัก
สรุปได้ว่า สาวๆ
Cosme*net เลือก
Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum Intensive White SPF50 PA เป็น
กันแดดทาตัวคู่ใจหน้าร้อนนี้ นั่นเอง ด้วยเหตุผลที่ว่าสามารถใช้ได้ทุกวัน ไม่เปลือง และยังมีประสิทธิภาพที่เทียบเท่ากับแบรนด์ดัง รวมถึงราคาย่อมเยาว์ ก็เลยกลายเป็นตัวเลือกที่สาวๆ โหวตให้ในการทดสอบครั้งนี้นั่นเองค่ะ
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งรีวิว Blind Test ที่เราจัดทำขึ้นมา
หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ สมาชิก Cosme*net ในการเลือกซื้อกันแดดในหน้าร้อนนี้กันนะคะ ;)
**sponsored content * *