เดินเที่ยว เดินกินในนิมมาน 1 วัน ด้วยงบ 1000 บาท

     ร้านนี้เป็นเมนูผลไม้ปั่น สมูทตี้ น้ำผลไม้ 100% ผลไม้สด ไอศกรีมผลไม้ ของหวานทำจากผลไม้ และสลัดค่ะ สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 35-159 บาท จุดเด่นของร้านนี้คือ น้ำผลไม้ ผัก ล้วนแต่เป็นของสดใหม่ ไม่มีการใส่หัวเชื้อหรือปรุงแต่งรสชาติ ซึ่งรับประกันได้เลยว่า คุณจะดื่มได้อย่างสบายใจ อร่อย และไดุ้คณค่าอีกด้วยค่ะ


     เมนูที่เราสั่งคือเมนูเด่นของเค้าเลยนั่นก็คือ มะม่วงปั่นโยเกิร์ต (79 บาท) ซึ่งถือว่าเป็นเมนูที่กินตอนร้อน ๆ ชื่นใจ๊ชื่นใจค่ะ เนื้อมะม่วงฉ่ำ ๆ สด ๆ รสหวานอมเปรี้ยว ปั่นกับโยเกิร์ตรสกลมกล่อม ขอบอกเลยว่ามาที่นี่เมนูนี้ ห้าม พลาด เด็ด เด็ด !!!


     ชีวิตไม่แน่นอน ขนมหวานสิแน่นอนกว่า หลังจากที่เราได้น้ำผลไม้เพิ่มพลัง เราก็มุ่งหน้าไปยังนิมมานซอย 7 ค่ะ ของหวานกับสาว ๆ เป็นของคู่กัน เพราะฉะนั้น เราก็จะไปกินขนมกันต่อ ร้านที่เราเล็งไว้ก็คือ GELABAR นั่นเองงง ร้านนี้จุดเด่นอยู่ที่ประตูสีฟ้า แบบนี้เลยค่ะ

     ในร้านบรรยากาศขาว ๆ โปร่ง ๆ แต่ไม่กว้างมากค่ะ เหมาะมาเป็นกลุ่มเล็ก ๆ มากกว่า บรรยากาศน่ารักมากเลย


     ร้านนี้จุดเด่นคือไอศกรีมเจลาโต้ที่มาจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ ทั้งผลไม้ ครีม นม ปรุงสด เน้นรสชาติเต็ม ๆ เมนูที่เราสั่งคือ สตรอว์เบอร์รี่บานาน่า กับ มะม่วงซอร์เบท์ เสิร์ฟคู่กับคาราเมลครัมเบิ้ลและวิปครีมค่ะ (ราคา 85-95 บาท) ซึ่งแม้จะดูไม่ค่อยเฮลธ์ตี้เท่าไหร่ แต่รสชาติเข้มข้นสุดแบบนี้เรายอม ;___; ไอศกรีมรสชาติหอมหวานอมเปรี้ยว กลมกล่อมด้วยนมหอมมัน แถมได้รสชาติของคาราเมลครัมเบิ้ล โอ้ยย อร่อยแสงพุ่งงงง 2

     อิ่มผัก อิ่มใจ หลังจากกินน้ำกินขนมกันไปแล้ว เราก็เริ่มรู้สึกว่า จริง ๆ ควรจะหาของหนักทานกันได้แล้ว สาว ๆ อย่างพวกเรา ที่ตระหนักในสุขภาพ เราเลยตกลงกันว่า จะไปเยือนร้านสลัดเก๋ ๆ ย่านนิมมานฯ กันซักหน่อย ซึ่งร้านที่ถูกใจเราคือร้าน Salad Concept นั่นเองค่ะ


     ร้านนี้เรียกได้ว่าเป็นร้านที่ดังไกลถึงกรุงเทพเลย เจ้าของร้านคนสวย คุณปอย คุณปาย นำเมนูเพื่อสุขภาพแบบเดียวกับที่ทำให้ครอบครัวทาน เสิร์ฟกับลูกค้าทุกท่าน โดยยึดแนวคิดที่ว่า You are what you eat เพราะฉะนั้น ถ้าอยากสุขภาพดี แข็งแรง เราก็ควรเลือกอาหารที่มีประโยชน์ ปลอดสารพิษ เพราะพวกเธอเชื่อว่า อาหารที่ดี คือพลังของสุขภาพที่ดีนั่นเองค่ะ

     ร้านนี้เมนูหลักจะเป็นสลัดจานโต ที่เราสามารถเลือกเองได้ว่าจะเป็นผักอะไรบ้าง เลือกทอปปิ้ง เลือกน้ำสลัด และเครื่องเคียง อยากทานแบบไหนก็ติ๊กในใบรายการอาหาร แล้วเชฟจะจัดจานอาหารของเรามาเสิร์ฟอย่างสวยงามเลยค่ะ

     ไหน ๆ ช่วงนี้ก็หน้าร้อน มะม่วงกำลังมา เราเลยเลือกเมนูนี้ค่ะ สลัดมะม่วงหรรษา เป็นมะม่วงสุกสีเหลืองทอง วางเคียงกับผักสารพัด ข้าวโพด กุ้ง โรยหน้าด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์หอมมัน ทานคู่กับน้ำสลัดสตรอว์เบอร์รี่รสชาติออกหวาน ๆ ทานได้อร่อยไม่เลี่ยนเลยค่ะ


     แค่สลัดอาจจะไม่อิ่ม สาว ๆ เลยเลือกเมนูอีกหนึ่งเมนูมาทานด้วยกันค่ะ นั่นคือ พิซซ่าสลัด ซึ่งเค้าก็จะมาเป็นถาดแบบพิซซ่าเลย มากับผักสารพัดที่เป็นหน้าพิซซ่าที่ทาซอสไว้อย่างชุ่มฉ่ำ แถมด้วยชิ้นเนื้อปลาแซลมอลรสชาติเข้มข้น จานนี้เรียกได้ว่าได้รับสารอาหาร 5 หมู่ครบถ้วนเลยทีเดียว สนนราคาทั้ง 2 เมนูนี้ อิ่มอร่อยกำลังดี 298 บาทค่ะ 



     ให้อาหารสมองกันบ้าง นั่งพักกันสักครู่ สาว ๆ ก็ขอลุกขึ้นเดินยืดเส้นยืดสายกัน ร้านที่เรามากันร้านนี้ชื่อว่า ร้านเล่า อยู่ถนนนิมมานซอย 3 ค่ะ ร้านนี้เป็นร้านหนังสือขนาดย่อม น่ารักมาก ๆ จุดเด่นของร้านนี้คือ มีหนังสือแนววรรณกรรม สารคดี ประวัติศาสตร์ อยู่เยอะมาก ๆ อาจเรียกได้ว่านี่เป็นร้านอาหารชั้นเลิศสำหรับสมองเลยก็ว่าได้


     จากที่พูดคุยกับทางร้าน เขาบอกว่าร้านนี้เป็นร้านที่บรรดาหนอนหนังสือ นักเขียน หรือคนทำงานด้านสร้างสรรค์ แวะมาที่นี่เมื่อยามมาเยือนเชียงใหม่แทบทุกคน ด้วยบรรยากาศที่เงียบ ๆ ไม่วุ่นวาย แถมด้านบนของร้านยังเปิดเป็นเกสท์เฮาส์อีกด้วยค่ะ แหม ครั้งหน้าต้องแวะมาพักที่นี่บ้างแล้ว ค่าเสียหายหนังสือต่อเล่ม ราคาระหว่าง 65-500 บาท 


     ชิลล์ยามเย็นไปกับสวนแห่งความคิด หลังจากได้หนังสือที่ถูกใจแล้ว เหลือเวลาอีกนิดหน่อย น้องไกด์ท้องถิ่นก็แนะนำว่า จะพาเราไปเดินแหล่งฮิปอีกที่นึง บริเวณนี้มีชื่อว่า Think Park ค่ะ


     ถ้าให้เทียบเราคิดว่าคล้าย ๆ Community Mall ที่จะมีพวกร้านอาหารแบบ outdoor ร้านกาแฟเล็ก ๆ ร้านขนม รวมถึงร้านกินดื่ม นอกจากนี้ก็มีร้านให้ช้อปปิ้งของน่ารักน่าใช้ พวกกระเป๋าทำมือ เครื่องประดับ ฯลฯ มาตอนเย็น ๆ เดินเล่น ถ่ายรูป หาขนมกินนิด ๆ หน่อย ๆ ก่อนกลับที่พัก ก็ถือว่าเป็นการปิดวันเดย์ทริปนิมมานสไตล์สาว cosme*net ไปได้อย่างสวยงาม ขอบอกว่า ทั้งหมดที่เราพาไปเที่ยวนี้พกเงินไปเพียง 1000 บาท ยังมีเหลือติดกระเป๋ากลับบ้านด้วยนะ :)