ขณะที่หลายคนเฝ้ารอดูหนังโรแมนติกกลิ่นอายสงครามระหว่างรัฐของพม่าเรื่อง "สิ้นแสงฉาน" อยู่นั้น บางคนไม่เคยรู้เรื่องราวเกี่ยวกับรัฐไทยใหญ่ที่ชื่อรัฐฉานมาก่อนเลย และไม่รู้ด้วยว่าชาวไทยใหญ่ หรือไทยใหญ่ หรือไต นั้นมีสายเลือดร่วมกับชาติสยามมาเนิ่นนาน และมีเรื่องราวเล่าขานที่ล้วนงดงามโรแมนติกพอ ๆ กับความเป็นเมืองในขุนเขา ที่อยู่ตอนใต้ของจีนและตอนเหนือของประเทศไทย
ความโรแมนติกของรัฐฉานนั้นถูกนำไปสร้างเป็นหนัง ไปเขียนเป็นละครอยู่หลายเรื่อง เพราะเป็นรัฐที่มีชายหนุ่มเป็นชาตินักรบ มีเจ้าฟ้าปกครองในทุกเมือง จึงมีพระราชวังที่แม้ไม่ได้ใหญ่โต แต่ก็งดงาม น่าไปเยี่ยมชม ทริปนี้เน้นภาพความงามของ เมืองสีป้อ แห่งรัฐฉาน เพราะพระเอกของภาพยนตร์ที่มาจากเรื่องจริงระหว่างเจ้าฟ้าฉานกับสาวออสเตรียนั้น เป็นเจ้าฟ้าแห่งเมืองสีป้อนั่นเอง ใครอยากรู้เรื่องราวโรแมนติกแบบเศร้า ๆ ของสิ้นแสงฉาน ต้องไปหาอ่านหรือรอดูหนังกันนะ
วังของรัฐฉาน ที่เมืองสีป้อแวดล้อมด้วยทุ่งนาและขุนเขา ในอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี เพราะอยู่ทางตอนใต้ของจีนนั่นแหละ ลองไปเที่ยวปลายฝนต้นหนาวแล้วจะเห็นหมอกสีขาวเกลื่อนทุ่ง โอบล้อมพระตำหนักแห่งนี้
จะเห็นว่ารัฐฉานนั้นแทบจะเป็นรัฐของนักรบจริง ๆ เพราะต้องสู้รบกับพม่าตลอดระยะเวลาที่หลุดจากการเป็นอาณานิคมแล้วก็ต้องกลายมาเป็นรัฐหนึ่งของพม่าทั้งที่ความจริงพวกเขาเป็นรัฐอิสระที่คือประเทศหนึ่งนั่นเอง
เพราะเป็นเมืองในหุบเขา จึงเหมาะสำหรับไปตากอากาศ ชมหมอก เทรกกิ้งบนหลังช้างเข้าป่า หรือเดินป่าชมน้ำตกกันไป
นอกจากนี้ก็ยังมีตลาดเช้าของเมืองสีป้อ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดอกทวาดี ชื่อเพราะใช่ไหมล่ะ เป็นตลาดเช้าเล็ก ๆ ไม่ได้คึกคักเหมือนถนนคนเดินในเมืองใหญ่ แต่บรรยากาศน่าเดิน เพราะไม่ใช่ตลาด Set up ของนักท่องเที่ยว ได้เจอของจริงในอากาศเย็นสะใจแน่
ที่พักในเมืองสีป้อมีอยู่ไม่มากแต่ก็ไม่น้อย ลองเสิร์ชดูได้ ว่าจะพักในหมู่บ้านหรือนอกเมืองออกมาหน่อย แบบได้ทิวทัศน์ธรรมชาติของขุนเขาและสายน้ำ อย่างริเวอร์ไซด์สีป้อรีสอร์ท ในราคาคืนละ 60-70 ดอลล่าร์
นอกจากนี้ยังมีเกสท์เฮาส์ราคาต่ำกว่า 1,000 บาท อยู่หลายแห่ง สำหรับนอกเมืองและในเมือง เช่น Yee Shin Guesthouse ซึ่งเป็นบ้านไม้หลังไม่เล็ก แวดล้อมด้วยความเป็นชนบทของเมืองสีป้อ
การเดินทางสู่เมืองสีป้อ
การเดินทางที่น่าสนใจ น่าสนุก คือ ทางรถไฟ ที่อาจเริ่มจากมัณฑะเลย์ เพราะตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดจากประเทศไทยไปมัณฑะเลย์ มีบ่อย ๆ ตามกันบ้างนะ จากนั้นก็หาตั๋วรถไฟไปลงสีป้อได้เลย แต่จะต้องใช้เวลาบนรถไฟตั้งแต่ตีสี่ ถึงสีป้อประมาณบ่ายสาม มีสิทธิ์เลทถึงเย็น ซึ่งก็อย่าลืมว่าเป็นเส้นทางที่ได้สัมผัสกับเมืองเล็กๆระหว่างทางหลายสถานีกันเลยด้วย และแน่นอนว่ายังไม่มีใครได้ทานอาหารเช้ากันก่อนขึ้นรถไฟ แต่ก็ไม่ต้องกลัวอด เพราะระหว่างทางมีของขายเหมือนบ้านเรา ซึ่งอาจต้องวิ่งลงไปซื้อกันบ้าง
ไฮไลท์ของการเดินทางโดยรถไฟก็คือ จะไดันั่งรถไฟข้ามหุบเขา Goal Twin โดยทางรถไฟจะสูง 102 เมตร และยาว 689 เมตร สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 100 กว่าปีมาแล้ว ใช้เวลาประมาณ 10-11 ชม. ก็มาถึงเมืองสีป้อ หาที่พักไว้แล้วก็เข้าที่พักกันได้เลย จากนั้นก็ได้เวลาตามรอยความรักสุดแสนโรแมนติกระหว่างเจ้าฟ้ารัฐฉานและสาวยุโรป กันได้แล้ว ใครได้พบรักแท้ที่เมืองสีป้อ ก็ขออย่าให้จบเศร้าเหมือนกับ "สิ้นแสงฉาน" เลยนะ
เนื้อหาโดย : เว็บรีวิวเครื่องสำอาง cosmenet.in.th
ขอบคุณภาพจาก : onglobaltrails.com, hsipawresort.com, lilythehome.com, kileetravels.com, tejturner.wordpress.com