ทำไมต้องอ่าน...
- สิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์กำลังทำอยู่มันอาจไม่ใช่หรือเปล่า?
- ลูกในครรภ์ได้ยินเสียงเพลงจริงหรือ?
- ลูกอยากฟังเพลงตลอดเวลาหรือเปล่านะ?
- ให้ลูกในครรภ์ฟังเพลงผ่านช่องทางไหนถึงจะได้ผลที่สุดนะ
คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์แทบทุกคนต่างเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตในหลายสิ่งกันเลยใช่ไหมล่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน โภชนาการที่พอดี หรือการใช้ชีวิตแบบที่ให้เกิดความเสี่ยงน้อยที่สุด เพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์มีพัฒนาการที่ดี แต่คุณแม่หลายคนลืมสิ่งสำคัญไปอีกอย่างนึงคือ "การให้ลูกฟังเพลงตั้งแต่ในท้อง" เชื่อหรือไม่ว่าการให้ลูกฟังเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลงโมสาร์ทหรือเพลงที่คุณแม่ชอบก็ทำให้ลูกและแม่มีความสุขไปพร้อม ๆ กันได้เนอะ
จนล่าสุดมีนวัตกรรมสำหรับการฟังเพลงของลูกในครรภ์ที่เรียกว่า "Baby Pod" โดยคุณแม่จะต้องเสียบเครื่องมือผ่านทาง ช่องคลอด เพื่อให้ลูกน้อยได้ยินเสียงเพลงที่เราเปิด
หลายคนเคยได้ยินเรื่องของ Baby Pod กันแล้ว เป็นผลงานการสร้างที่ผ่านการศึกษามาแล้วพบว่า เด็กจะได้ยินเสียงมากกว่า เพราะพบว่าปฏิกิริยาจากลูกน้อยคือการขยับปากขยับลิ้นตามด้วย แต่มาทำความรู้จักกับ Baby Pod ที่ถูกเรียกว่า Tampond Speaker กันดูซิ
- มันคือซิลิโคนนุ่ม ๆ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อช่องคลอดของคุณแม่
- เป็นซิลิโคนที่มีสายต่อแจ๊คเข้ากับโทรศัพท์มือถือ
- Baby Pod ถูกออกแบบมาให้ควบคุมระดับเสียงเพียง 54 เดซิเบลเท่านั้น (เบามาก) ไม่สามารถเพิ่มเสียงได้ จึงปลอดภัยสำหรับทารกในครรภ์แน่นอน
- ไม่มีแบตเตอรี่ ไม่มีคลื่นวิทยุ ไม่มีบลูทูธ จึงปลอดภัยสำหรับทารก
- ตรงสายจะมีที่เสียบสำหรับหูฟังของคุณแม่ให้ฟังเพลงร่วมกับหนูไปด้วย
- ระยะตั้งครรภ์ที่เหมาะสมสำหรับการฟังเพลงโดย Baby Pod คือ ช่วงตั้งครรภ์ประมาณ 16 สัปดาห์
ซึ่งถ้าคุณแม่ท่านไหนยังไม่อิน หรือยังไม่กล้าที่จะลองใช้เจ้า Baby Pod ก็ยังมีวิธีให้ลูกฟังเพลงในครรภ์อีกหลายแบบนะ
- เปิดฟังจากเครื่องเล่นเสียงออกลำโพง
อันนี้ก็เหมาะสำหรับคุณแม่ที่อาจอยากทำกิจกรรมอื่นไปด้วยหลากหลาย คุณแม่สามารถนั่งอ่านหนังสือไปด้วยก็ได้นะคะ หรือจะแอบงีบตอนกลางวันสักนิด
- เสียบหูฟัง
วิธีนี้ก็สะดวกดีเมื่อต้องใช้ชีวิตในที่สาธารณะ จะได้ฟังกับลูกสองคนเพลิน ๆ...จริงหรือ? สิ่งที่ลูกได้รับอาจเป็นเพียงการรับรู้อารมณ์ที่มีความสุขของแม่ เพราะเด็กอาจไม่ได้ยินเสียงผ่านหูของแม่ แต่มาจากเสียงดังจากรอบตัว และคุณหมอก็บอกว่า เสียงต้องดังพอสมควรนี่หน่า
- หูฟังสำหรับครอบหน้าท้องโดยเฉพาะ
เป็นหูฟังที่ทำออกมาเพื่อให้ลูกของคุณฟังเพลงผ่านหน้าท้องกันเลย แบบนี้ก็สะดวกดีเหมือนกัน
เพลงอะไรดีที่ควรเปิดฟังพร้อมกับลูก?
แน่นอนว่ามีผลการศึกษามาบ้างว่าเพลงของโมสาร์ทจะช่วยพัฒนาสมองของเด็ก แต่ก็ไม่ได้มีหลักฐานยืนยันหลากหลายนัก ดังนั้นคุณหมอทั้งหลายจึงมักแนะนำว่า ฟังเพลงที่แม่ชอบ แม่มีความสุข พออารมณ์ของแม่ดี พัฒนาการทางอารมณ์ของลูกก็จะดีไปด้วย ยังไงก็ระวังกันไว้บ้างสำหรับคุณแม่ขาร๊อค ที่จะเปิดเพลงเสียงดังอยู่ตลอดเวลา นั่นก็ไม่น่าจะดีนัก
จะรบกวนการนอนของลูกหรือเปล่า?
เพราะมีคุณหมอบางท่านแนะนำว่า ให้เด็กเขาพัฒนาการไปตามธรรมชาติของเขา และการเปิดเพลงให้เขาฟังพร่ำเพรื่อใกล้ตัวขนาดนั้นอาจไปรบกวนการนอนของลูกที่ต้องนอนกันเกือบทั้งวี่ทั้งวัน
แต่ไม่ว่าจะยังไง อารมณ์ที่มีความสุขของคุณแม่จากการฟังเพลงย่อมดีแน่ ลองสังเกตดูว่าลูกตื่นตอนไหน แล้วค่อยฟังเพลงกันในช่วงเวลานั้นๆก็ดีเหมือนกัน หรือใครจะลองหา Baby Pod มาใช้ก็ลองดูนะคะ แต่วางโทรศัพท์มือถือให้ห่างจากลูกจะดีกว่าเนอะ
เรื่องที่ต้องรู้(เพิ่ม)...
- ลูกในครรภ์ได้จะยินเสียงของแม่ การคุยกับลูกก็ดีสำหรับอารมณ์ของคุณแม่ด้วยและช่วยสร้างพัฒนาการของลูกได้ตั้งแต่ในครรภ์
- ทารกในครรภ์นอนหลับวันละ 20 ชั่วโมง และตื่นเพียงช่วงสั้น ๆ เท่านั้นเอง
- การได้ยินของทารกในครรภ์จะดีขึ้นตั้งแต่การตั้งครรภ์ 5 เดือนขึ้นไป
- โดยมากทารกจะได้ยินเสียงภายในตัวแม่ แต่ก็จะได้ยินเสียงของแม่ด้วย ซึ่งกว่าจะผ่านเข้าไปก็ลดลงครึ่งหนึ่งแล้วล่ะ
เนื้อหาโดย : เว็บรีวิวเครื่องสำอาง cosmenet.in.th