How to สะสมคะแนน Cosmenet เก็บคะแนนให้ครบทุกวัน ต้องทำยังไงบ้าง?

ทริคความงาม

7 สูตรลัด เก่งภาษาอังกฤษภายใน 1 ปี แบบที่ไม่ต้องไปเรียนเพิ่ม

16,429

14 มี.ค. 2561

ทำไมต้องอ่าน...

ยิ่งเริ่มช้ายิ่งไปถึงช้า และภาษาอังกฤษที่อ่อนแออาจเป็นอุปสรรคต่องาน
เด็กรุ่นใหม่ภาษาอังกฤษดีมาก รุ่นแรกอย่ายอมแพ้สิ

ยุคนี้ใคร ๆ ก็อยากได้ภาษาอังกฤษ นอกจากเพื่อการทำงานแล้ว ยังเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวันด้วย เพราะชาวต่างชาติเข้ามาทำงาน มาเที่ยวในบ้านเราเยอะเลย แล้วถ้าจะสังเกตให้ดีจะพบว่านักท่องเที่ยวหนุ่ม-สาวชาวจีน ภาษาอังกฤษแข็งแรงกันหลายคนเลยทีเดียว แล้วคนไทยเจ้าบ้านก็ควรอัพเดทตัวเองกันด่วน ภาษาไหนก็เหมือนกัน คือต้องใช้มันบ่อย ๆ จึงจะได้ แต่ถ้ารอบตัวไม่มีฝรั่งมาให้กิน เอ๊ย!! มาให้ฝึกภาษา ก็ต้องหาวิธีหละ คือไม่ยากเลย ทำตามนี้ ปีเดียวก็เก่งพอเอาตัวรอดได้แล้ว

Step 1 อ่านหนังสือวรรณกรรมเด็กภาษาอังกฤษ

เริ่มต้นด้วยการหาซื้อหนังสือวรรณกรรมเด็กมาอ่าน แต่ขอบอกไว้ก่อนว่ามันไม่เด็กเลยสำหรับคนที่อ่อนภาษา แต่ก็จะช่วยให้เราอ่านได้ง่าย ไม่ยอมแพ้ไปเสียก่อน เราจะได้ทั้งศัพท์ ไวยากรณ์ และโครงสร้างไปโดยอัตโนมัติ เราจะคุ้นกับมันจากการอ่าน เราจะเปิดดิกส์ซ้ำๆกับศัพท์คำเดิมๆที่แปลแล้วลืมซ้ำ ๆ จนจำได้ อ่านทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมงก็โอเคแล้ว

Step 2 ฝึกเขียน Diary เป็นภาษาอังกฤษ

คนไทยไม่เก่งภาษาเพราะละเลยเรื่อง Writing การเขียนมาจากความคิดก่อน ต้องคิดได้ถึงจะเขียนออกมา ต้องเปิด Dictionary หาคำศัพท์ ลองเขียนให้ได้ทุกวันเป็นสมุดบันทึก พยามเขียนให้ได้โครงสร้างที่ถูกต้อง ไวยากรณ์อาจผิดบ้าง ค่อยแก้ อย่ากดดันตัวเองตั้งแต่แรก ให้สนุกกับมัน แล้วต่อ ๆ ไปเราจะแก้เอง

Step 3 หาแอพพลิเคชั่นแชทคุยกับ Bot

จะมี app ที่เราสามารถพูดคุยโต้ตอบกับ Bot ได้ การใช้ภาษาจาก Bot จะสอนให้เรารู้ว่าเราต้องใช้รูปประโยคแบบไหน ไม่วางคำวิเศษ สลับสับกันมั่ว ไม่ใช้บุพบทผิด และยังได้เรียนรู้ทำความเข้าใจเรื่องเทนส์หรือรูปกาลด้วย

Step 4 เข้ากลุ่มฝึกภาษาอังกฤษใน Facebook

มีกลุ่มฝึกภาษาอังกฤษที่อาจทำให้เราได้เพื่อนใหม่ ทำให้เราเห็นการใช้ภาษาจากเพื่อนๆที่มีทั้งผิดและถูก กลุ่มพวกนี้มีทั้งของไทยและต่างประเทศด้วย

Step 5 ดูหนัง Soundtrack

การฝึกแบบนี้จะได้ยิ่งขึ้นถ้าเราเลือกแบบไม่มีซับ แต่กรณีนี้ควรเป็นหนังที่เคยดูมาก่อนแล้ว รู้เรื่องแล้ว ถ้ายังไม่เคยก็ควรมีซับ (ต้องเป็นซับภาษาอังกฤษนะ) ที่สำคัญควรเลือกหนังที่เนื้อเรื่องช้าหน่อยบทพูดไม่ต้องเยอะนัก จะบอกให้ว่าหนังฝรั่งนั้นแค่การแอคติ้งของนักแสดง และการดำเนินเรื่องเขาบอกเรื่องราวได้ดีอยู่แล้ว ถึงจะไม่อ่านซับเราก็พอจะเข้าใจได้ในระดับหนึ่งเลยจริง ๆ ลองดู

Step 6 ฝึกพูดแบบอัดเสียงเพื่อฟังสำเนียงตัวเอง

ใครที่อยากสำเนียงฝรั่งก็ต้องฝึกแล้วฟังเอานะ แต่จริง ๆ พูดให้เข้าใจง่าย ฟังชัด ก็สามารถสื่อสารได้ ฝรั่งเองไม่ได้มาจับสำเนียงเท่าไหร่หรอก คนไทยเองพูดภาษาไทยแต่ละภาคยังไม่เหมือนกันเลย เอาที่สื่อสารได้ชัดเจนทุกถ้อยคำดีกว่า

Step 7 หาเพื่อนที่เป็นชาวต่างชาติ

คุณต้องมีเพื่อนที่อยากฝึกภาษาแน่ ๆ ถ้าไม่มีเพื่อนฝรั่งก็ต้องใช้วิธีนี้แหละ ทำตัวเป็นฝรั่งกันหน่อยสนุกดีเหมือนกันนะ และต้องมีเตือนกันด้วยถ้าใครใช้ไวยากรณ์ผิดพลาด

ทำถึงขนาดนี้ถ้าไม่เก่งขึ้นก็ให้มันรู้ไป แต่ก็อยู่ที่ตัวเราด้วยนะว่าจะจริงจังแค่ไหน แค่ไหนเรียกจริงจัง ก็ถ้าไม่จริงจังระวังเด็กรุ่นใหม่ ๆ สองภาษาจะเข้ามาเอาตำแหน่งงานที่หวังไว้ไปล่ะ ได้เวลาจริงจังกับภาษาอังกฤษได้แล้วนะ

เรื่องที่ต้องรู้(เพิ่ม)...

สถาบัน EF (Education First) ของสวีเดนสำรวจเมื่อปี 2017 พบว่าคนไทยมีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเป็นอันดับที่ 53 จากการสำรวจ 80 ประเทศทั่วโลก และเป็นอันดับที่ 15 ในเอเชีย จาก 20 ประเทศ จากปี 2016 ที่อยู่ในอันดับที่ 56 จาก 72 ประเทศ และในปี 2015 ที่อยู่ในอันดับ 62 จาก 70 ประเทศ
10 อันดับประเทศที่มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษระดับต่ำสุด คือ ลาว กัมพูชา ลิเบีย อิรัก แอลจีเรีย แคเมอรูน คูเวต อังโกลา ซาอุดิอาระเบีย และมองโกเลีย โดยมีลาวได้คะแนนต่ำสุด

เนื้อหาโดย : เว็บรีวิวเครื่องสำอาง cosmenet.in.th