สาว ๆ สายขนมหวานคงกำลังคิดว่า นี่ฉันต้องจ่ายเงินเพิ่มหรือเปล่า หากขนมของโปรดจะเปลี่ยนไปใช้เนยแทนมาการีน แล้วกาแฟ 3 in 1 หวานมันเข้มข้นจะทำยังไง ก่อนที่จะไปทำความเข้าใจกันถึงความเลวร้ายของการกินมาการีนหรือครีมเทียมที่โดนแบนโดยกฎหมายและสังคมไปเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องบอกให้สบายใจก่อนเลยว่า จริง ๆ แล้วเขามีมาการีนแบบที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการที่ทำให้เป็นไขมันทรานส์ด้วย ส่วน
ครีมเทียมแบบที่ปลอดภัยก็มีนะ เพราะไม่ใช่
การผลิตแบบเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated oils (PHOs) แต่เป็น
การเติมไฮโดรเจนแบบเต็มรูปแบบ (Fully Hydrogenation) ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดไขมันทรานส์นั่นเอง
ไขมันทรานส์เกิดขึ้นมาจากอะไร?
คืองี้นะ
ไขมันทรานส์มันเกิดจากการเติมไฮโดรเจนเพียงบางส่วนลงไปในไขมันประเภทไม่อิ่มตัว แต่เพราะเป็นการเติมเพียงบางส่วน เพื่อให้น้ำมันมีความแข็งตัวแต่พอดี มีความอิ่มตัวมากขึ้น มันก็จะเกิดข้อเสียคือระหว่างการเติมไฮโดรเจนลงไปนั้นมันจะเกิดการเรียงตัวของโครงสร้างใหม่ของอะตอมอย่างไม่เป็นระเบียบ ก็จะเกิดโครงสร้างแบบทรานส์นั่นเอง
แต่เรื่องจริงอีกอย่างก็คือ ไขมันทรานส์มีทั้งที่เกิดจากกระบวนการผลิตโดยเติมไฮโดรเจนเพียงบางส่วนอย่างที่ทราบ และก็ยังมีไขมันทรานส์ที่เกิดโดยธรรมชาติเช่นกัน ในพวกนมเนยนี่แหละ ซึ่งมันมีข้อมูลที่ขัดแย้งกันจากทางนักวิชาการแคนาดาและอเมริกา คือแคนาดาบอกว่า ไขมันทรานส์ที่เกิดโดยธรรมชาติไม่เกิดผลเสียแต่เกิดประโยชน์ ขณะที่อเมริกาพบว่ามันเกิดโทษพอ ๆ กัน เมื่อยังสรุปถึงความปลอดภัยที่แน่นอนไม่ได้ จึงต้องให้มันอันตรายทั้งหมดเอาไว้ก่อนจะได้ระวังกัน
แล้วเราจะเลือกกินได้ยังไง ว่าอันไหนทรานส์แฟท อันไหนไม่ทรานส์
คือเลือกกินตามฉลากที่บอกไว้บนหีบห่อได้เลย ส่วนน้ำมันที่ใช้ในบ้าน ก็ลองเลือกพวกน้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า (หาซื้อได้ไม่ยาก ไม่แพง และช่วยเรื่องบำรุงผิวได้ดีด้วยนะ) ส่วนใครที่คิดว่าแพง ก็แนะนำว่าทำอาหารใส่น้ำมันน้อย ๆ ได้นะ รสชาติอร่อยได้เหมือนกัน ส่วนใครที่ชอบของทอด ก็ควรลดการกินของทอดลงบ้างและไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ อะไรที่ทอดกินเองได้ก็ทอดเองเถอะ อย่าไปซื้อเลย
ไม่ยากสำหรับคนที่ติดครีมเทียม แค่เปลี่ยนมาใส่นมสดแทนเถอะ ความชอบในรสชาติของคนเรามันฝึกและเปลี่ยนใหม่ได้ หรือถ้าไม่อยากเปลี่ยน ลองหาซื้อแบรนด์ที่เขียนว่า Non Trans Fatty Acid หรือ Zero Trans Fat ดูได้ เพราะจริง ๆ แล้วยังมีคนที่ยังต้องกินครีมเทียมแทนนมวัว เนื่องจากเป็นผู้แพ้โปรตีนจากนมวัว (ครีมเทียมเขาคิดค้นขึ้นมาเพื่อคนกลุ่มนี้นี่แหละ) ซึ่งปัจจุบันเมื่อมีกระบวนการ Fully Hydrogenated Oil เพื่อควบคุมปริมาณทรานส์แฟทตามมาตรฐานสากล คือ ไม่ใช้วิธีการเติมไฮโดรเจนเพียงบางส่วนนั่นเอง อีกในอนาคตอันใกล้นี้ก็น่าจะมีกระบวนการใหม่ ๆ ที่ช่วยทำให้เราห่างไกลจากทรานส์แฟทมากขึ้นโดยได้ความอร่อย กรอบ ไม่หืน แบบไม่ต้องใช้วิธีเดิม ๆ ที่เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ
-----------------------------------------------------------------------
“ ข้อความต้องระวัง ส่วนบนฉลากที่มีข้อความดังต่อไปนี้คือ มีไขมันทรานส์เป็นส่วนประกอบ
Shortening, Trans Fat, Hydrogenated Vegetable Oil
และ Hydrogenated Margarine ”
-----------------------------------------------------------------------
ขนมหวานหันมาใช้เนยแทนมาการีนจะแพงขึ้นไหม?
เชื่อไหมว่าร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่เขาไม่ได้ขายเนยแพงมากหรอกนะคะ คนกินไม่ค่อยรู้ คนทำจะรู้ดีว่าเนยแท้ตามร้านเบเกอรี่จะขายกันราคากิโลกรัมละประมาณ 160 บาท ยกเว้นเนยนำเข้าราคาแพงทั้งหลายที่ทำให้ขนมรสชาติดี ซึ่งนั่นก็คือกลุ่มคนกิน เป็นกลุ่มยอมจ่ายอยู่แล้ว พวกนี้กิโลกรัมละเป็นพันก็มี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อกฎหมายห้ามผลิตหรือนำเข้าสินค้าที่มีส่วนผสมของไขมันทรานส์ประกาศออกมาแล้ว เราก็จะมีตัวเลือกที่ไม่ใช่ไขมันทรานส์มากขึ้น
แล้วจะมาห้ามกินไขมันทรานส์กันทำไม มันอันตรายจริงหรือ?
จริงค่ะ เพราะเดนมาร์ก, อเมริกา รวมถึงประเทศอื่น ๆ ด้วยที่ออกกฎหมายควบคุมเรื่องไขมันทรานส์ ก็ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจลดลงจริง ๆ
“เนยขาว” หรือ
Shortening ตัวนี้แหละที่มีไขมันทรานส์สูงมาก ใครชอบทานเค้กที่ขึ้นฟูนั่นอาจทำมาจากเนยขาว เพราะเนยขาวจะช่วยให้การตีเค้กให้ขึ้นฟูเป็นไปได้ง่ายมาก เนยขาวทำมาจากน้ำมันพืชล้วน ๆ แล้วเติมไฮโดรเจนเพียงบางส่วนบนโมเลกุลของกรดไขมันของไตรกลีเซอไรด์ เพื่อเปลี่ยนกรดไขมันไม่อิ่มตัวให้เป็นกรดไขมันอิ่มตัวนั่นเอง
แล้วน้ำมันพืชที่เรา ๆ ใช้กันปกติล่ะ เป็นไขมันทราส์ด้วยไหม?
เผื่อว่าจะยังมีคนเข้าใจว่า น้ำมันพืชคือไขมันทรานส์ จริง ๆ แล้วคือไม่ใช่นะคะ และการนำไปทอดซ้ำ ๆ หลาย ๆ รอบ ก็อาจเกิดไขมันทรานส์ได้บ้างไม่มาก แต่จริง ๆ คือไขมันทรานส์จะเกิดจากกระบวนการที่บอกไปแล้วว่า เป็นการทำให้น้ำมันพืชเหล่านี้เกิดการคงรูปแบบไม่เหลวหรือแข็งเกินโดยการเติมไฮโดรเจนเพียงบางส่วน เพราะฉะนั้นน้ำมันพืชเหลว ๆ จึงไม่ใช่ค่ะ ทานได้ (น้ำมันแต่ละชนิดมีไขมันทรานส์น้อยมากอยู่แล้วด้วย ประมาณ 1%)
เพราะฉะนั้นที่ต้องหันมาใส่ใจ ระมัดระวังกันจริง ๆ ก็คือ ข้อความบนฉลากอาหารที่บอกเราว่ามีปริมาณไขมันทรานส์มากน้อยแค่ไหน และการระมัดระวังด้วยตัวเองในการเลือกกินเบเกอร์รี่ที่ใช้เนยเป็นส่วนผสมหลัก ไม่ใช่เนยขาวหรือมาการีน นอกจากจะระวังเรื่องกินก็อยากให้หันมาออกกำลังกายกันด้วย เพราะช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจได้เหมือนกัน สุขภาพที่ดีมาจากดูแลทั้งการกินและการออกกำลังกายถึงจะครบทุกด้านนะคะ