คุชชั่น ถือว่าเป็นไอเทมสร้างงานผิวที่สาว ๆ หลายคนเลิฟเลยแหละเนอะ อย่างทางเราชอบใช้คุชชั่นมากกก หลัก ๆ เลยเพราะแพ็คเกจพกพาสะดวกค่ะ แถมใช้ง่าย พัฟแตะ ๆ ผิวก็สวยเป๊ะแล้ว เดี๋ยวนี้เค้าก็มีให้เลือกหลายสูตร สาวไทยผิวมันอย่างเราก็มีคุชชั่นคุมมันให้ใช้นาจาาา วันนี้ทางเราเลยหยิบคุชชั่นเกาหลีสุดฮอต 3 แบรนด์ ของปี 2019 ได้แก่ Jung Saem Mool, Espoir และ Banila Co มารีวิวส่งท้ายปีกัน เปรียบเทียบให้เห็นกันจะ ๆ เลยว่าแบรนด์ไหนคุมมันสุด ปกปิดสุด ผิวสวยสุด!!
และนี่คือโฉมหน้าคุชชั่นเกาหลีของปี 2019 ที่เราหยิบมาทดสอบกันในครั้งนี้ค่าา
- Jung Saem Mool Essential Skin Nuder Long Wear Cushion SPF50 /PA (14 g. 1,400 บาท) - คุชชั่นเพื่อผิวมันถึงผิวผสม มอบสภาพผิวเรียบเนียน ไม่มัน ควบคุมความมัน และบางเบาระหว่างวัน (อ่านรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม ที่นี่)
- Espoir TAPING COVER CUSHION SPF25 PA (13 g. 1,165 บาท) - คุชชั่นเนื้อบางเบาแต่ปกปิด ที่เพียงแค่แตะครั้งเดียวก็ปกปิดหมดจดไม่ต้องทาซ้ำหลาย ๆ รอบอีกต่อไป กันเหงื่อ กันน้ำได้เป็นอย่างดี (อ่านรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม ที่นี่)
สำหรับรีวิวเปรียบเทียบคุชชั่นเกาหลีครั้งนี้จะทดสอบโดย Cosme
*Editor ที่มีสีผิวขาวเหลือง สภาพผิวผสมค่อนไปทางมัน มีรอยสิว ต้องการคุชชั่นที่ให้การคุมมัน ติดทน ปกปิดรอยสิวแต่งานผิวต้องเลิศ ไม่หนักหน้าเกินไป โอ๊ยสเปคเยอะสิ่งงง 555 ไม่พูดเยอะละไปดูรีวิวทดสอบคุชชั่นเกาหลีคุมมันกันเลยค่าาา
Test 1 :: คุชชั่นเกาหลีแบรนด์ไหน..ปกปิดดีสุด!
เราจะทาคุชชั่นครึ่งใบหน้าเพื่อให้เห็นกันเลยค่าว่าคุชชั่นแต่ละแบรนด์เค้าปกปิดได้ดีงามระดับไหน
คุชชั่น Jung Saem Mool : คุชชั่นจองแซมมุลคือปกปิดดีมากกกกกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัวที่แท้ทรู คือผิวดูเนียน กริบ สีผิวสม่ำเสมอกัน บิ้วเพิ่มการปกปิดได้ด้วย รอยสิวที่เป็นรอยดำหนัก ๆ ก็ตบ ๆ คุชชั่นทับเอา แอบเข้าข้างตัวเองว่าแทบแยกไม่ออกเลยนา ว่าฝั่งไหนที่ทา 5555 เรื่องการปกปิดคือขอมอบมงให้เลยจ้าาา
คุชชั่น Espoir : เค้าจะปกปิดได้กลาง ๆ ค่ะ ทางเรามีรอยดำสิวเข้ม ๆ เยอะ จะเห็นว่ารอยดำหนัก ๆ ยังพอเห็นอยู่ และเค้าบิ้วเพิ่มการปกปิดไม่ได้ค่ะ บิ้วเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น แงง T_T สำหรับรอยดำหนักหน่วงต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยค่ะ ส่วนรอยแดงข้างจมูกถือว่าปิดได้กริ๊บ ปิดรูขุมขนได้ดีงามค่ะ
คุชชั่น Banila Co : ตัวนี้เค้าปกปิดมากกว่า Espoir ค่ะ พวกรอยสิว รอยดำปิดได้ 80% เลย และเค้าสามารถบิ้วเพิ่มการปกปิดเฉพาะจุดได้ รอยดำที่เข้มมาก ๆ ใช้คอนซีลเลอร์ช่วยนิดหน่อยก็โอเคแล้ว และปกปิดรอยแดง, รูขุมขนได้ดี โดยรวมแล้วถือว่าเป็นคุชชั่นที่ปกปิดดีเลยแหละ
Test 2 :: คุชชั่นเกาหลีแบรนด์ไหน..คุมมันเริ่ด ติดทนสุด!
เราจะทดสอบการคุมมันด้วยการหลังจากที่ทาคุชชั่นไปแล้วเป็นเวลา 5 ชั่วโมง คุชชั่นเค้าคุมมันได้ระดับไหน ผิวดูมัน ไหลเป็นคราบ หรือสีดรอปไหม? ซึ่งทางเราแล้วเป็นคนหน้ามันจริงอะไรจริง ถ้างานผิวไม่แน่จริง มีไหลจ้าา~~
คุชชั่น Jung Saem Mool : เรื่องคุมมันเค้าก็ทำได้ดีมากเช่นกันค่ะ คุมมันดีงาม ยาวนานมาก หน้าแมตต์ตึงทนจริงอะไรจริง ไม่ต้องง้อแป้งฝุ่นเลย สาวผิวมันขั้นสุดอย่างเราคอนเฟิร์มมมม แต่ผ่านไป 5 ชั่วโมงขึ้นไปจะเริ่มเป็นคราบที่จมูกเล็กน้อยค่ะ ตบแป้งตามเบา ๆ ก็สวยละ (ขออภัยที่กระดาษซับมันคนละสีกันนะคะ พอดีน้องหมด ฮือ)
คุชชั่น Espoir : สำหรับคนหน้ามันแบบเรารู้สึกว่าเค้าไม่ค่อยคุมมันเท่าไหร่ค่ะ ต้องเซ็ตแป้งช่วย เวลาผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง ก็แอบมีเป็นคราบลอย ๆ ที่ผิวแล้ว และหน้าดูมันอย่างเห็นได้ชัดค่ะ ฮือออ แต่เรื่องสีคือเค้าไม่ดรอปเลยค่ะ ผ่องยังไงก็ผ่องแบบนั้น 555
คุชชั่น Banila Co : คุมมันได้ดีเลยค่ะ คุมมันได้นานกว่า Espoir พอใกล้ ๆ 5 ชั่วโมง ก็เริ่มมีความมันให้เห็นบ้าง ซับมันผิวก็กลับมาโอเคแล้ว ไม่ไหลเยิ้ม ไม่เป็นคราบด้วย และสีไม่ดรอป ยังดูเป็นผิวอยู่
Test 3 :: คุชชั่นเกาหลีแบรนด์ไหน..งานผิวปังสุด!
อย่างที่เราเกริ่นไว้ตอนต้นเลยค่ะว่า คุชชั่นในใจเรานอกจากปกปิดดีแต่งานผิวต้องเลิศด้วย เพราะจะให้ผิวดูหนาโบ๊ะ ดูแมตต์ตึง! ด้านไปเลยก็คงไม่งาม ไปดูกันเลยว่าคุชชั่นแบรนด์ไหนจะให้งานผิวสวยที่สุดดดด
คุชชั่น Jung Saem Mool : งานผิวจะดูแมตต์ตึงไปหน่อยค่ะ คือแมตต์มากกกกก แมตต์แบบไม่ควรง้อแป้ง 5555 เพราะจากประสบการณ์ลงแป้งต่อแล้วหน้าจะแห้งด้านมาก แง แต่สำหรับงานกลางคืน งานอยากได้ผิวทน ๆ แน่น ๆ แต่ไม่อยากลงรองพื้น หรือผิวโกลว์ไม่ต้องเดี๋ยวเหงื่อมาเอง น้องเค้าตอบโจทย์มากค่า
คุชชั่น Espoir : เนื้อคุชชั่นเค้าจะไม่ได้แมตต์เท่าไหร่นะ ดูมีความฉ่ำอยู่ แต่ฉ่ำแค่เล็กน้อยเท่านั้นค่ะ สาวผิวมันแบบเราแอบรู้สึกว่าพอหน้ามันแล้วน้องมีความเป็นคราบเล็กน้อย ทนไม่ไหวต้องไปทาแป้งฝุ่นทับบาง ๆ นิสนึง ผิวโดยรวมจะดูเนียนกว่าไม่เซ็ตแป้งนะ โดยรวมแล้วดูเป็นผิวเพราะเนื้อคุชชั่นเค้าจะบางเบา สบายผิวค่ะ
คุชชั่น Banila Co : ให้งานผิวดีมากกกก คือเนื้อคุชชั่นเค้าจะเซ็ตตัวเป็นกำมะหยี่ค่ะ คือดูแมตต์ แต่ไม่ด้านอ่ะ ยังมีความเป็นผิว เล่นแสงนิด ๆ ผิวดูไม่หนาโบ๊ะ ดีงามมม
สรุปผลการทดสอบ คุชชั่นเกาหลีคุมมัน ปกปิดเริ่ด
- รีวิวคุชชั่น Jung Saem Mool Essential Skin Nuder Long Wear Cushion : เป็นคุชชั่นคุมมันและปกปิดขั้นเทพเลย คือผิวที่ได้เนียนกริ๊บ รอยสิวต่าง ๆ หายวั้บ และสีผิวดูสม่ำเสมอเหมือนรอยตั่งต่างไม่มีอยู่จริง แถมคุมมันดีงามมาก เป็นคุชชั่นแต่ทำได้ขนาดนี้ ง๊งงงง ข้อเสียเค้ามีเพียงจุดเดียวคือ จะไม่ค่อยเป็นงานผิวมากเท่าไหร่ คือจะแมตต์สนิท ไร้เงาใดใด แต่คนที่ชอบผิวแมตต์คือถูกใจแน่นอนค่า แต่เรีื่องผิวเนียนคือยอมใจจริง ๆ เป็นหนึ่งตัวที่ถ้าหมดเราจะซื้อต่อ (คือใช้รีฟิลอันที่ 2 ละเด้อ) แต่อาจจะเปลี่ยนไปลองรุ่นผิวโกลว์ดู
- รีวิวคุชชั่น Espoir TAPING COVER CUSHION : ตัวนี้จะให้ความรู้สึกฉ่ำว่าคุชชั่นทุกตัวเลยค่ะ เนื้อบางเบา ให้การปกปิดกลาง ๆ คิดว่าเค้าเหมาะกับสาว ๆ ผิวแห้ง-ผสม ที่อยากได้คุชชั่นที่ติดทนกับอากาศร้อน ๆ บ้านเราค่ะ เพราะสำหรับคนผิวมันแบบเราแล้วรู้สึกว่าเนื้อคุชชั่นไม่ค่อยติดผิวเท่าไหร่ และเวลาผ่านไปแอบเป็นคราบค่า ฮือ อ้อ ตัวนี้พัฟเค้าจะแปลกตากว่าเพื่อนหน่อยคือมีความเป็นรูพรุน ไม่กินเนื้อคุชชั่นและช่วยให้ลงคุชชั่นได้อย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
- รีวิวคุชชั่น Banila Co Covericious Power Fit Cushion : เป็นคุชชั่นคุมมันที่ให้งานผิวดีมากกกก คือใช้แล้วชอบเลยอ่ะ ปกปิดได้ดี แต่ผิวยังดูโกลว์ ๆ กำลังสวยเลย ไม่ต้องเซตแป้งก็รอด เนื้อก็ไม่หนาไป สบายผิวดีค่ะ ใช้แล้วดูเป็นคนผิวดีแบบงง ๆ 555 ถึงจะมีเป็นคราบบ้าง ไมไ่ด้คุมมันเท่าของ Jung Saem Mool แต่ก็ถือว่ารับได้ ข้อเสียคือสีคุชชั่นเค้าจะติดชมพูไปหน่อย แอบคิดว่าพัฟเค้ากินเนื้อคุชชั่นแฮะ ต้องแตะคุชชั่นมาเยอะหน่อย
และนี่ก็เป็นรีวิวเปรียบเทียบของคุชชั่นเกาหลีแบรนด์ฮิตประจำปี 2019 นี้ค่าาา จะเห็นได้เลยว่าคุชชั่นเกาหลีเดี๋ยวนี้เค้าก็ไม่ได้ให้แต่งานหน้าฉ่ำวาวอย่างเดียวแล้ว มีสูตรคุมมันให้สาวไทยอย่างเรา ๆ ก็ใช้ได้ แถมการปกปิดนี่ก็ถือว่าเป็นน้อง ๆ ของรองพื้นเลยและ เพื่อน ๆ มีคุชชั่นคุมมันในดวงใจแบรนด์ไหนอยากมาแชร์กันก็ comment มาได้เลยค่าาา ^O^
หากชอบคอนเทนท์ Cosme*Blind Test แบบนี้ก็ฝากกด LIKE กด SHARE กันหน่อยนะค้าา ครั้งหน้าเราจะรีวิวเปรียบเทียบอะไรอีก ฝากติดตามกันด้วยนะจ๊ะ ♥
อ่านรายละเอียดคุชชั่นเกาหลีคุมมันเพิ่มเติม หรือเขียนรีวิวได้ที่นี่
▼