CeraVe หรือ เซราวี แบรนด์ที่โด่งดังเรื่องการสร้างเกราะป้องกันให้แก่ผิว (เสริม Skin barrier) โดยผลิตภัณฑ์ของ CeraVe มีหลายสูตรให้เลือกกับทุกสภาพผิว ตั้งแต่ผิวแห้ง-ผิวธรรมดา-ผิวผสม-ไปถึงผิวมัน แม้แต่ผิวบอบบางระคายเคืองง่ายก็อยากจะแนะนำ จุดเด่นของแบรนด์นี้คือเรื่องการสร้างเกาะคุ้มกันให้กับผิว บำรุงแบบอ่อนโยน ด้วยส่วนผสมของ Ceramide ที่เป็นส่วนประกอบหลักในทุกผลิตภัณฑ์ของเซราวี ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ฟื้นฟูอาการผิวแห้ง เสริมสร้างปราการผิวให้แข็งแรงได้เป็นอย่างดีนั่นเองค่ะ
ที่สำคัญคือ CeraVe ปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิว เช่น สี กลิ่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ สารกันเสีย และพาราเบน จึงทำให้สามารถใช้ได้กับทุกเพศ และเด็กอายุมากว่า 3 ปีขึ้นไปก็สามารถใช้ได้เช่นกัน เอาล่ะค่ะ รู้จัก CeraVe กันแบบเบื้องต้นแล้วเนอะ ตามมาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าผลิตภัณฑ์ของเค้าแต่ละตัวคืออะไร เหมาะกับผิวแบบไหน จะได้ไม่มีคำถามเนอะว่าเราควรใช้ Cerave ตัวไหนดี
CeraVe ตัวไหนดี แต่ละตัวคืออะไร เหมาะกับใคร?
- CeraVe Foaming Cleanser : เหมาะสำหรับผิวมัน-ผิวผสม-ผิวเป็นสิวง่าย
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ขจัดสิ่งสกปรก เครื่องสำอาง และความมันส่วนเกินต้นเหตุของสิว ด้วยส่วนผสมของ Ceramide 3 ชนิด และ Niacinamind (วิตามินบี 3) ช่วยให้โฟมล้างหน้าจากเซราวีตัวนี้ช่วยทำความสะอาดผิวโดยที่ไม่รบกวนปราการป้องกันผิวตามธรรมชาติ ดูดซับความชุ่มชื้น และปลอบประโลมผิวได้เป็นอย่างดี (อ่านรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่นี่)
ราคา : 660 THB / 473 ml
ช้อปออนไลน์ : Watsons
- CeraVe Hydrating Cleanser : เหมาะสำหรับผิวแห้ง-แห้งมาก
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ที่ช่วยทำความสะอาดพร้อมเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ความแตกต่างของสูตรนี้คือการเน้นไปที่การเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า ด้วยส่วนผสมของ Ceramide 3 ชนิด, Hyaluronate และ MVE เทคโนโลยีเฉพาะของเซราวีที่ช่วยให้หลังหน้าผิวยังคงมีความชุ่มชื้นยาวนาน (อ่านรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่นี่)
ราคา : 595 THB / 473 ml
ช้อปออนไลน์ : lazada
แล้ว CeraVe Lotion กับ CeraVe Cream แตกต่างกันยังไง? คำตอบคือ ทั้งสองตัวช่วยฟื้นบำรุงพร้อมเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ผิว มอบความชุ่มชื้นได้ยาวนาน โดยสามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวตัวเหมือนกัน โดยทั้ง 2 สูตรจะมี Ceramide 3 ชนิด, Hyaluronate และ MVE เทคโนโลยีเฉพาะของเซราวี ที่จะปล่อยสารสำคัญให้ออกฤทธิ์แบบค่อย ๆ ปล่อยช้า ๆ นั่นถือเป็นข้อดีเพราะจุดนี้จะช่วยให้ผิวของเราชุ่มชื้นได้ยาวนานมากขึ้น ซึ่งข้อแตกต่างของเซราวีทั้งสองตัว คือเรื่องเนื้อสัมผัสและความเหมาะสมของสภาพผิว
- CeraVe Moisturizing Lotion : เหมาะสำหรับผิวธรรมดา-ผิวมัน เนื้อโลชั่นบางเบา ซึมง่าย (อ่านรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่นี่)
ราคา : 690 THB / 473 ml
ช้อปออนไลน์ : lazada
- CeraVe Moisturizing Cream : เหมาะสำหรับผิวแห้ง-แห้งมาก
เนื้อครีมข้น แต่ไม่ได้เหนียวเหนอะหนะ มีการปรับเปอร์เซ็นต์ส่วนประกอบต่าง ๆ ในสูตรเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสำหรับผิวแห้งและเพิ่ม Petrolatum เข้ามาเพื่อช่วยในการปกป้องการสูญเสียน้ำออกจากผิว (อ่านรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่นี่)
ราคา : 795 THB / 454 ml
ช้อปออนไลน์ : lazada
- CeraVe Facial Lotion : เหมาะสำหรับผิวธรรมดา-ผิวมัน
มีส่วนผสมคล้าย CeraVe Lotion แต่พิเศษกว่าตรงที่มีสาร Niacinamind (วิตามินบี 3) เพิ่มเติม ช่วยปลอบประโลมผิว เสริมปราการไปที่เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาสิว ลดการอักเสบและรอยแดงจากสิว เนื้อสัมผัสที่เหมาะกับผิวหน้าโดยเฉพาะ ซึ่งมีส่วนผสมที่ไม่อุดตันรูขุมขนหรือก่อให้เกิดสิว ปราศจากน้ำมันและปราศจากน้ำหอม แม้ว่าไม่เป็นสิวก็ยังสามารถใช้เสริมปราการผิวได้ (อ่านรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่นี่)
ราคา : 550 THB / 52 ml
ช้อปออนไลน์ : Watsons
- CeraVe Hydrating Hyaluronic Acid Serum : เหมาะสำหรับผิวขาดน้ำ
เซราวี ไฮยาลูรอนิค เซรั่ม เซรั่มบำรุงหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นยาวนาน ล็อคผิว ลดการศูนย์เสียน้ำ โดยเฉพาะผู้มีปัญหาการขาดน้ำ มีส่วนผสมจาก Ceramide 3 ชนิด, Hyaluronate และ วิตามิน บี5 ที่ช่วยชดเชยและกักเก็บความชุ่มชื้นเพื่อผิวเปล่งปลั่ง และฟื้นบำรุงผิวที่แห้งให้กลับมาดูนุ่มเรียบเนียนชุ่มชื้นยาวนาน (อ่านรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่นี่)
ราคา : 650 THB / 30 ml
ช้อปออนไลน์ : Watsons
และนี่ก็คือแนะนำ CeraVa ตัวไหนดี แต่ละตัวใช้ยังไง เหมาะกับใครแบบสั้น ๆ ใครเป็นสาวกเซราวีบ้าง ขอเสียงหน่อยค่า
เพื่อน ๆ มีไอเทมจากเซราวีตัวไหนท่ีชอบเป็นพิเศษไหมคะ? พิมพ์มาเมาท์มอยกันหน่อยเร็ว > <
♥ ♥ ♥ ♥