อัปเดตเรตินอลตัวปังแห่งปี 2025
รวมตัวปังเรตินอล สกินแคร์ตัวฮอตแห่งปี ที่ใครยังไม่ลองต้องเปิดใจแล้วจังหวะนี้ เพราะช่วยเรื่องความอ่อนเยาว์ของผิวได้ดี แต่เรตินอลเค้าก็มีข้อจำกัดอยู่นะ ก่อนใช้ต้องศึกษาให้ดีถ้าไม่อยากหน้าพัง เอาเป็นว่ามาเริ่มกันเลยกับ อัปเดต 14 เรตินอลตัวปัง ยี่ห้อไหนใช้ดีหน้าใส ขนมาหมด!
วิธีใช้เรตินอลแบบดีต่อผิว ใช้ยังไงให้หน้าไม่พัง
- ทาเรตินอลเฉพาะเวลากลางคืน : เพราะเรตินอลจะทำให้ผิวหน้าไวต่อแสงแดด จึงควรทาเรตินอลแค่ช่วงเวลากลางคืนหรือก่อนนอนเท่านั้น เพื่อไม่ให้ผิวถูกรบกวนมากจนเกินไป
- เริ่มที่ความเข้มข้นน้อย : สำหรับผู้เริ่มต้นใช้เรตินอลผิวยังไม่ชินก็ควรเริ่มที่เรตินอลความเข้มข้นต่ำที่ 0.1 - 0.3% ก่อน จากนั้นถ้าผิวรับไหวค่อยขยับไปที่เรตินอล 1% หรือเรติแนล ค่อยเป็นค่อยไปอย่าใจร้อนน้าา
- ใช้คู่กับมอยส์เจอไรเซอร์ : โดยทาก่อนลงเรตินอล และสามารถทาทับอีกชั้นหลังทาเรตินอลแล้วเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และช่วยลดการระคายเคืองให้ผิวจากการใช้เรตินอลได้ดีเลยค่ะ
- ทาครีมกันแดดเสมอ : แน่นอนว่าการใช้เรตินอลจะเป็นการผลัดเซลล์ผิว และทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมาก ดังนั้นให้ใช้เรตินอลตอนกลางคืน และทาครีมกันแดดอย่างเคร่งครัดทุกเช้าด้วยน้าา
- หากระคายเคืองให้หยุดใช้ : ใครที่ใช้เรตินอลแล้วมีอาการแสบแดง ผิวแห้งลอก คัน ระคายเคืองจนรู้สึกว่าไม่ปกติให้หยุดใช้เรตินอลก่อน เพราะผิวอาจจะรับไม่ไหว ให้ค่อย ๆ เว้นระยะวันพักให้มากขึ้นเพื่อให้ผิวปรับตัวกับเรตินอล แต่ใครที่ผิวระคายเคืองหนักมากต้องปรึกษาคุณหมอดูอีกทีดีกว่านะคะ
- คนท้องไม่ควรใช้เรตินอล : สำหรับอนุพันธ์วิตามินเออย่างเรตินอลไม่ควรใช้เด็ดขาดในคนท้อง ใครที่มีเบบี๋แล้วอยากใช้ก็อดใจไว้ก่อน รอเว้นระยะให้นมบุตรไปสักพักค่อยเริ่มใช้ผิวก็ยังใสได้อยู่นะ
อัปเดต 14 เรตินอลตัวปัง ยี่ห้อไหนใช้ดีหน้าใส ขนมาหมด!
เปิดประเดิมที่เรตินอล ยี่ห้อไหนดี อย่าง OLAY Retinol24 MAX Night Serum กันก่อนเลยค่า เรตินอลเซรั่มสำหรับใช้ตอนกลางคืน ที่เลือกมาให้เป็นอันดับแรกเพราะว่าเขาอ่อนโยนมีปริมาณของเรตินอลที่กำลังดีไม่มากไม่น้อยจนเกินไป เหมาะกับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้เรตินอล
OLAY Retinol24 MAX Night Serum มีส่วนผสมของ Retinoid Complex 0.35% ซึ่งเป็นปริมาณที่พอเหมาะในการช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอย ตีนกา ร่องแก้ม ร่องคิ้ว อย่างเห็นได้ชัด แถมยังช่วยให้รอยสิวแลดูจางลง มีไนอะซินาไมด์หรือวิตามินบี 3 ช่วยฟื้นฟูผิวที่หมองคล้ำให้ดูไบรท์ขึ้น ยังช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น หมดกังวลเรื่องความระคายเคืองได้เลยค่ะ เพราะว่าเขามี Hydrating Complex ที่จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว และลดการระคายเคืองที่อาจเกิดได้จากเรตินอล ปราศจากส่วนผสมของน้ำหอม พาทาเลต มิเนรัล ออยล์ และสีสังเคราะห์
จุดเด่น : ปริมาณของเรตินอลพอเหมาะ มือใหม่สามารถใช้ได้ มีส่วนผสมเติมความชุ่มชื้น เพื่อลดผลข้างเคียงของเรตินอยด์
ข้อแนะนำ : เริ่มต้นใช้ 1 ครั้ง ทุก ๆ 3 คืน แล้วค่อยเพิ่มความถี่เป็นใช้ทุกคืน และทาครีมกันแดดทุกวันในตอนกลางวัน
ตัวที่สองนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรตินอลที่เหมาะกับผู้เริ่มต้นใช้เรตินอลมากเลยค่ะ ด้วยความเข้มข้นของ Pure Retinol 0.1% ถือว่าเบา ๆ ต่อผิวหน้า มีส่วนผสมของ Panthenol ให้ผิวยืดหยุ่น Super Vitamon E หรือ Tocotrienol บำรุงผิวให้แลดูอ่อนเยาว์ และ Adenosine กระชับผิวและชะลอริ้วรอยบนผิวหน้า
เนื้อครีมสีเหลืองอ่อน ๆ ซึมไวไม่เหนียวเหนอะหนะ โดยทาครีมเรตินอลบริเวณทั่วผิวหน้า ใครมีปัญหาริ้วรอยก็สามารถเน้นเฉพาะจุดเช่นหางตา แก้ม ร่องแก้ม และลำคอได้เลย แต่บริเวณรอบดวงตาต้องระวังการระคายเคืองนิดนึงนะคะ แนะนำให้ค่อย ๆ ใช้อย่างระมัดระวัง โดยในช่วง 2 สัปดาห์แรกทาวันเว้นวันก็พอนะคะ หลังจากผิวปรับสภาพแล้วก็สามารถทาทุกวันได้เลย
จุดเด่น : อ่อนโยนต่อผิว เหมาะกับผู้เริ่มใช้ กระชับผิวชะลอริ้วรอย
ข้อแนะนำ : หากใช้ต่อเนื่องระยะเวลานาน สามารถเปลี่ยนเป็นความเข้มข้นที่มากขึ้น
ราคา : 920 บาท / 20 ml.
อีกหนึ่งเรตินอลตัวปังสำหรับมือใหม่ที่ถือว่าไม่แรงเกินไปสำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้เรตินอล แต่ก็เป็นความเข้มข้นที่กำลังดีที่จะให้ผลลัพธ์ได้ดีค่ะ มีเทคโนโลยี Advance Peptide MATRIXYL 3000 PLUS™ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอยตื้น ๆ ให้จางลงได้ในตอนที่ใช้ กระชับผิวทำให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น มี Pure Retinol 0.3% Retinol Optimiser 1% ช่วยผลักเรตินอลเข้าสู่ผิว และ Retinol Soother 0.2% ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคืองผิวได้
สำหรับการใช้เรตินอล No7 ในช่วงแรกให้ใช้ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ก่อน หลังจากนั้นจึงเพิ่มความถี่เป็นวันเว้นวัน และประมาณ 1 เดือนก็สามารถใช้ทุกวันต่อเนื่องได้หากไม่มีการระคายเคือง โดยเว้นรอบดวงตาและรอบริมฝีปากเพื่อป้องกันการะคายเคืองค่ะ
จุดเด่น : เหมาะกับผู้เริ่มใช้ มีส่วนผสมช่วยปลอบประโลมผิว
ข้อแนะนำ : สามารถใช้คู่กับเรตินอลครีม No7 เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
ราคา : 1,469 บาท / 30 ml.
เรตินอลช่วยกระชับผิว ชะลอริ้วรอย อ่อนโยนด้วย Retainol 0.1% บำรุงผิวให้แลดูอ่อนเยาว์ Retainal 1 ppm และ Bakuchiol 5,000 ppm เป็นเรตินอลจากพืชอ่อนโยนต่อผิว เสริมการทำงานเรตินอลให้ดียิ่งขึ้น ช่วยเรื่องริ้วรอยและรูขุมขนให้แลดูกระชับขึ้น อ่อนโยนต่อผิว ทั้งนี้ก็อยากให้เพื่อน ๆ ลองทดสอบการแพ้ก่อนใช้เพื่อความชัวร์ค่ะ
เนื้อเซรั่มเป็นสีเหลืองนวล ๆ ไม่เหนียวเหนอะหนะ โดยช่วงเริ่มแรกแนะนำให้ใช้ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ และขยับเป็นใช้ทุกวันได้หลังจากใช้ไป 3-4 สัปดาห์ หรือถ้าผิวเพื่อน ๆ ปรับสภาพได้ก็จัดไปเลยค่า
จุดเด่น : มีส่วนผสมจาก Retinol, Retinal และ Bakuchiol อ่อนโยนต่อผิว
ข้อแนะนำ : ใช้ไปสักพักหัวดรอปอาจดูดเซรั่มได้ยากอยู่บ้าง
ราคา : 739 บาท / 30 ml.
เรตินอลเซรั่มที่ราคาดีงามย่อมเยาสุด ๆ และช่วงโปรอาจซื้อได้ในราคา 200 บาทมีทอน! เซรั่มเรตินอลของ Boots ตัวนี้เค้าไม่ได้ระบุความเข้มข้นของเรตินอลมา ซึ่งคิดว่าคงไม่ได้ใส่ความเข้มข้นมาเยอะนัก ถ้าถามว่าเรตินอล ยี่ห้อไหนดีเหมาะกับมือใหม่เริ่มแรกเลย ตัวนี้ก็น่าลองนะ
เนื้อเซรั่มสีขาวขุ่น ทาง่ายซึมไว เค้าระบุว่าให้ทาเช้า-เย็นได้ ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ ลองทาแล้วไม่ระคายเคืองก็สามารถทาได้ แต่ใครกลัวผิวไวต่อแสงก็ให้ทาแค่ตอนกลางคืนก็พอค่า เซรั่มขวดนี้เหมาะสำหรับคนงบน้อยหรืออยากลองใช้เรตินอลแบบชิล ๆ ก็แนะนำเลยค่ะ แต่ยังไงก็ต้องไม่ลืมทาครีมกันแดดทุกวันด้วยนะ
จุดเด่น : อ่อนโยน ใช้ได้ตอนเช้า-กลางคืน
ข้อแนะนำ : กดเซรั่มในปริมาณที่พอเหมาะ ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้น หลังจากทาเซรั่ม
ราคา : 299 บาท / 30 ml.
เรตินอลแอมพูลที่ราคาไม่แรงจนเกินไป เป็นยี่ห้อที่เหมาะกับมือใหม่และให้ผลลัพธ์ที่ดี อ่อนโยนต่อผิว หลายคนอาจคุ้นกับแพ็กเกจสีขาว-เขียวขวดสี่เหลี่ยม แต่เค้าเพิ่งเปลี่ยนหน้าตาไปเป็นขวดกลม ๆ สีขาว-ฟ้าดูน่าใช้ขึ้น เนื้อผลิตภัณฑ์จะเหลวสีเหลืองขุ่น ใส่เรตินอลมา 0.015% ถือว่าน้อยแต่ก็ค่อนข้างอ่อนโยนมากสำหรับมือใหม่
จัดเป็นเรตินอลที่เหมาะกับคนผิวมัน หรือมีปัญหาสิว เพราะเค้าช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า และลดความมันบนผิวได้ และมีส่วนผสมบำรุงผิวลดการระคายเคืองอย่าง Cica, Niacinamide, Ceramide NP ใส่มาทำให้ใช้แล้วลดการระคายเคืองผิวจากเรตินอลได้ค่ะ
จุดเด่น : อ่อนโยนต่อผิว เหมาะกับคนผิวมัน-เป็นสิว
ข้อแนะนำ : หากใช้ต่อเนื่องระยะเวลานาน สามารถเปลี่ยนเป็นความเข้มข้นที่มากขึ้น
ราคา : 1,300 บาท / 30 ml.
เรตินอลที่อาจเป็นเรตินอลตัวแรกของใครหลาย ๆ คน ด้วยความอ่อนโยนมาก แม้ผิวระคายเคืองง่ายก็ยังใช้ได้ ช่วยกระชับผิว ชะลอริ้วรอย ลดเลือนริ้วรอยตื้น ๆ ขณะที่ใช้ มีส่วนผสมของ Pure Retinol 0.1% เปปไทด์ และเซราไมด์ สำหรับเรตินอลตัวนี้เค้าระบุว่าสามารถใช้ตอนเช้าได้ด้วย
มาพร้อมเทคโนโลยี Micro-Dose โมเลกุลเล็กช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดอาการผิวแห้งลอกจากเรตินอลได้ แพ็กเกจมาเป็นหัวปั๊มกดใช้ได้ง่าย กดใช้เพียง 1 ปั๊มก็เพียงพอ เนื้อเซรั่มเป็นสีเหลืองทาแล้วบางเบา ช่วงแรกแนะนำให้ใช้วันเว้นวันเฉพาะกลางคืน และหากผิวไม่ระคายเคืองก็สามารถใช้ทุกวันหรือใช้ช่วงเช้าได้เลยค่ะ
จุดเด่น : ใช้ได้ทุกวันอ่อนโยนต่อผิว กระชับผิว แลดูเรียบเนียน
ข้อแนะนำ : หากใช้ต่อเนื่องระยะเวลานาน สามารถเปลี่ยนเป็นความเข้มข้นที่มากขึ้น
ราคา : 3,270 บาท / 30 ml., 4,050 บาท / 50 ml.
เซรั่ม Encapsulated Retinol 3% จากอิงกุ โดยเรตินอลเค้ามาในรูปแบบแคปซูลที่คงทนและอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า โดยมีเปปไทด์ Matrixyl Synthe’ 6 MBAL ที่ช่วยให้ริ้วรอยแลดูลดเลือน PacifeelTM และ AquaxylTM ช่วยปลอบประโลมและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว รวมถึงยังมีสารสกัดจากชาเชียวป่าช่วยบำรุงผิวจากมลภาวะด้วยค่ะ
ใครที่เริ่มต้นใช้เรตินอล อยากได้เรตินอลความเข้มข้นไม่สูงมาก และอ่อนโยนต่อผิวเรตินอล INGU ก็เป็นอีกตัวที่น่าลอง สามารถใช้ได้เช้า-เย็นหากผิวไม่มีอาการระคายเคืองน้า
จุดเด่น : อ่อนโยนต่อผิว มีเปปไทด์ และส่วนผสมปลอบประโลมผิว
ข้อแนะนำ : หากใช้ต่อเนื่องระยะเวลานาน สามารถเปลี่ยนเป็นความเข้มข้นที่มากขึ้น
ราคา : 890 บาท / 40 ml.
โลชั่นเรตินอลถูกและดี มาพร้อม Retinal 0.1% และ Pure retinol 0.3% เสริมการทำงานกันแบบแพ็กคู่ แต่ก็ไม่ได้แรงกับผิวจนเกินไป เพราะเค้ายังใส่ 5% Niacinamide และ glycyrrhetinic acid มาช่วยลลดการระคายเคืองผิวของเราด้วย
เนื้อสัมผัสเป็นสีเหลืองข้น ซึมง่าย ทาวันละ 1 ปั๊ม เฉพาะเวลากลางคืน ใครผิวแพ้ง่ายหรือเพิ่งเริ่มใช้ให้เว้นระยะ 1-2 วันใช้ครั้งก็พอ ถ้าผิวหน้าไหวค่อยไปต่อน้า
จุดเด่น : มีทั้ง Retinal 0.1% และ Pure retinol 0.3% และส่วนผสมลดการระคายเคือง
ข้อแนะนำ : ผิวระคายเคืองง่ายใช้สัปดาห์ละ 2-3 วันในช่วงแรก
ราคา : 999 บาท / 30 g.
เรตินอล ยี่ห้อไหนดีเหมาะกับผิวแพ้ง่าย ต้องลองแบรนด์นี้ค่ะ เรตินอล Cerave ขวดสีฟ้าที่มีขายในต่างประเทศนานแล้ว แต่เพิ่งเข้าไทยมาไม่นานเลยค่า เรตินอลเข้มข้น 0.3% ช่วยผลัดเซลล์ผิวแบบไม่ระคายเคือง ลดเลือนรอยดำจากสิว ปรับผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้นโดยไม่ทำให้ผิวแห้งลอก เพราะเค้ามาพร้อม Niacinamide และ Licorie Extract ลดการระคายเคืองจากเรตินอลด้วย
เนื้อเซรั่มสีเหลืองอ่อนบางเบา ซึมง่าย ก็ถือเป็นเรตินอลที่น่าลองสำหรับผู้เริ่มต้นเลยนะ ด้วยส่วนผสมจากเรตินอลความเข้มข้นกำลังดีพอให้เห็นผล แต่ก็ไม่ได้น้อยจนเกินไป และยังมีส่วนผสมปลอบประโลมผิว ตามคอนเซ็ปต์แบรนด์ Cerave เค้าก็เน้นดูแลผิวที่บอบบางให้แข็งแรงขึ้น
จุดเด่น : ผลัดเซลล์ผิวลดการอุดตัน อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย
ข้อแนะนำ : ผิวระคายเคืองง่ายใช้สัปดาห์ละ 2-3 วันในช่วงแรก
ราคา : 795 บาท / 30 ml.
Frankly Retinol 0.1% Cream เรตินอลครีมวีแกนแบรนด์เกาหลี อ่อนโยนต่อผิวระคายเคืองง่าย ความเข้มข้นเริ่มต้นแบบเบา ๆ เหมาะสำหรับคนที่เริ่มใช้ ถ้าผิวไหวก็สามารถเพิ่มความเข้มข้นไปที่ตัว 0.3% ของเค้าได้ค่ะ
เรตินอลครีมช่วยผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวกระชับ ชะลอริ้วรอย และยังมี Ceramide เติมความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว Adenosine บำรุงผิวแลดูเรียบเนียนยืดหยุ่น เนื้อครีมของเค้าจะเป็นสีเหลืองอ่อน เซตตัวไม่เหลวเป็นน้ำ ทาง่าย ใช้ทาตอนกลางคืน สำหรับผิวแพ้ง่ายช่วงแรกก็ให้ใช้วันเว้นวันหรือ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ จากนั้นก็ค่อย ๆ เพิ่มความถี่ในการใช้ได้เลย
จุดเด่น : เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
ข้อแนะนำ : หากใช้ต่อเนื่องระยะเวลานาน สามารถเปลี่ยนเป็นความเข้มข้นที่มากขึ้น
ราคา : 795 บาท / 30 ml.
เรตินอลทรีทเมนต์ที่ใช้ดีที่มาแรงจนต้องได้ลอง! แบรนด์คุณหมอจาก USA ใช้แล้วช่วยลดเลือนรอยสิว ปรับผิวให้แลดูเรียบเนียนด้วย Phyto-Retinol Blend™ และมีส่วนผสมของ Bakuchiol, Rambutan, Ferulic Acid ทำงานเสริมกันให้ผิวกระชับ และผิวดูสม่ำเสมอยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมี Niacinamide เสริมความชุ่มชื้น และสารสกัด Evening Primmrose ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นด้วยค่ะ สามารถใช้ทรีทเมนต์ 2-3 ปั๊มในตอนกลางคืนทาผิวหน้าและลำคอเป็นประจำได้เลย ใช้ติดต่อกันได้ทุกคืนหากผิวไม่มีอาการระคายเคือง สำหรับมือใหม่ก็ค่อยเป็นค่อยไปเนอะะ
จุดเด่น : ช่วยเรื่องลดเลือนริ้วรอยให้แลดูจางลง มีส่วนผสมปลอบประโลมผิว
ข้อแนะนำ : ผิวระคายเคืองง่ายใช้สัปดาห์ละ 2-3 วันในช่วงแรก
ราคา : 3,390 บาท / 30 ml.
ต่อกันที่ ISDIN สกินแคร์แบรนด์พรีเมียมจากสเปน Sold out เก่งมาก ใครอยากลองก็ต้องอดใจรอนิดนึงน้าา ตัวนี้คือทีเด็ดของวงการเรตินอลเลยค่ะ เพราะช่วยเรื่องผิวได้ดีจริง ๆ อนุพันธ์วิตามินเอมาในรูปแบบ Retinaldehyde 0.1% และมี Bakuchiol 1% ช่วยผลัดเซลล์ผิว ปรับผิวให้เรียบเนียน ผิวกระชับ และแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น มี Melatonin, Ascorbic Acid และ Synchrolife™ ที่ช่วยเรื่อง Anti-oxidant ให้ผิว
เนื้อเซรั่ม Duo Phase ประกอบไปด้วย Aqueous phase ส่วนน้ำนมบางเบา และ Oil phase น้ำมันที่มีส่วนผสมของเรตินอล ปั๊มออกมาเนื้อผลิตภัณฑ์จะผสานกันให้เราวอร์มเนื้อเซรั่มเพื่อให้เนื้อผลิตภัณฑ์เข้ากันดีก่อนทาลงบนผิวนะคะ เนื้อบางเบาซึมไว คงประสิทธิภาพของ Retinaldehyde ได้ดี
จุดเด่น : ให้ผลลัพธ์ได้ดีในเรื่องริ้วรอย ปรับผิวให้แลดูอ่อนเยาว์
ข้อแนะนำ : ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่หัดใช้ ควรค่อย ๆ เพิ่มเลเวลมาจากเรตินอลอ่อน ๆ ก่อน
ราคา : 3,499 บาท / 50 ml.
เรตินอลครีมที่มี Pure Retinol 0.3% และ Bakuchiol 0.7% ถือว่าเป็นความเข้มข้นที่รวมพลังกันมาแบบเน้น ๆ เลยค่ะ ใครสายแข็งหน้าชินกับเรตินอลความเข้มข้นต่ำ ๆ แล้วขยับมาทางนี้คือถูกต้องเลยแหละ ให้ผลลัพธ์ที่ดีในเรื่องการชะลอริ้วรอย กระชับผิว เป็นเรตินอลที่ควรค่าแก่การเก็บเลเวลแล้วขยับมาใช้มาก ๆ เลยค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาริ้วรอย จุดด่างดำ ผิวขาดความยืดหยุ่นก็อยากให้ลองเลย ในช่วงแรกแนะนำให้ใช้วันเว้นวันก่อน เพื่อค่อย ๆ ปรับสภาพผิว และเมื่อผิวรับไหวก็ทาได้ทุกวันเลยค่ะ และในตอนกลางวันควรทาครีมกันแดดที่ SPF50+ นะคะ
จุดเด่น : ให้ผลดีในเรื่องริ้วรอย และการกระชับผิว
ข้อแนะนำ : ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่หัดใช้ ควรค่อย ๆ เพิ่มเลเวลมาจากเรตินอลอ่อน ๆ ก่อน
ราคา : 5,490 บาท / 50 ml.
เรียบร้อยไปแล้วค่ากับ ลิสต์ 14 เรตินอลตัวปัง แห่งปี 2025 ที่หลายคนใช้แล้วชอบจนต้องแชร์ต่อรัว ๆ ใช้แล้วผลัดเซลล์ผิวให้หน้าดูกระจ่างใส เรียบเนียนยิ่งขึ้น ใครยังไม่เคยใช้เรตินอลลองเปิดใจทำความรู้จักกับเรตินอลก่อนได้ที่นี่เลยยย
-----------------------
Cosmenet* Smart Beauty รีวิวดีบอกต่อ
-----------------------
อ่านบทความเกี่ยวกับงานผิวที่น่าสนใจเพิ่มเติม