แลนดิ้งลงประเทศไทยอย่างหมาด ๆ กับ KYLIE Cosmetics by Kylie Jenner ที่ทำเอาสาวกบิ้วตี้กระเป๋าตังสั่นระนาว เพราะได้ขนไอเทมรุ่นฮิตตลาดแตกมาด้วย อาทิเช่น ลิปจิ้มจุ่ม, รองพื้น, คอนซีลเลอร์ เป็นต้น แน่นอนว่า *Cosmenet จะพลาดได้ไง ก็ยกเอาทั้งเซ็ตนี่แหละ มารีวิวให้เพื่อน ๆ ได้ดูกัน จะมีตัวไหนที่ทำให้ใจสั่นบ้างไปดูกันเลยดีกว่า^^
เริ่มด้วยงามผิวกับรองพื้น Kylie Power Plush Longwear Foundation เรียกได้ว่าเป็นรองพื้นที่ก่อนเกลี่ยเนื้อเข้มข้นมาก เลยต้อใช้เวลาเกลี่ยนิสนึง แต่พอเกลี่ยแล้ว จะได้สัมผัสเนื้อบางที่เฉียบ เลยทำให้สามารถปกปิดผิวได้ในระดับหนึ่ง ด้านเนื้อรองพื้นก็แนบสนิทเนียนกับผิวดี ผิวสวยฉ่ำ แต่ก็ไม่แมตต์จนเกินไป อำพรางริ้วรอย และรูขุมขนได้ดี เรื่องความติดทนก็ไม่เป็นรองใคร เพราะเค้าได้เคลมไว้ว่าติดทนนานถึง 12 ชั่วโมง* ทางเราก็เลยท้าชนกับแดดเมืองไทยซะเลย! ผลลัพธ์ที่ได้คือว้าวมาก น้องเค้าติดทนว่าที่คิส แถมยังกันน้ำ กันเหงื่อสุด ๆ ไม่มีคำว่าดรอป บอกเลยว่ารองพื้น Kylie ตัวนี้แอบซื้อใจไปแล้วค่ะ
- ปริมาณ 30ml ราคา 1,430 บาท
งานผิวปังแล้ว งานคอนซีลเลอร์ต้องเข้าแล้วมั้ยกับ KYLIE Power Plush Longwear Concealer ตัวนี้เป็นคอนซีลเลอร์สัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย ช่วยปกปิดจุดบกพร่องบนผิวหน้าได้ดี และยังสามารถบิ้วท์เพิ่มระดับการปกปิดได้แบบไม่มีโป๊ะ! เพราะเมื่อเกลี่ยลงบนผิวแล้ว น้องเค้าจะทิ้งความชุ่มชื้นไว้บนผิวอยู่ จึงไม่ทำให้ตกร่อง หรือเป็นคราบ ซึ่งคอนซิลเลอร์ตัวนี้ค่อนข้างติดทนเลยค่ะ แน่นอนว่าจะไม่เหือดหายไประหว่างวัน และนอกจากจะนำไปใช้เพื่อปกปิดแล้ว น้องเค้ายังสามารถ ใช้เพื่อเพิ่มความสว่างสร้างมิติให้กับใบหน้าได้อีกด้วย เช่น ไฮไลท์ บรอนเซอร์ และคอนทัวร์แบบแท่งเดียวคือจบ
- ปริมาณ 5ml ราคา 1,070 บาท
เชื่อว่าสาวกบิวตี้ต้องเคยกรี้ดกับลิปจิ้มจุ่ม KYLIE Matte Lip Kits ที่ปักธงขึ้นแท่นเป็นตัวแม่ของแบรนด์ ซึ่งตัวนี้เป็นลิปจิ้มจุ่มที่มอบความสีสวยชัดให้กับริมฝีปาก กลบริมฝีปากได้ดี ติดทน และมีความแมตต์ แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าแห้งแก๊กจนเกินไปนะ ที่ได้มาเป็นสี Autumm 505 ลองสวอชลงบนแขนคือสีดูดีย์มาก ทาเดี่ยว ๆ ว่าจึ้งแล้ว แต่งานนี้น้องเค้าจับคู่มากับ Lip Liner ลิปไลเนอร์ที่เข้ามาเพิ่มมิติให้กับริมฝีปากดูเด่น ได้กระชับปากที่สวย บอกเลยว่าพอใช้คู่กันยิ่งเติมเต็ม ไม่แปลกใจเลยที่เค้าขึ้นแท่นเป็นตัวแม่~
- ปริมาณ 1.1 g ราคา 1,390 บาท
เรื่องลิปตามมาติด ๆ ขอรีวิวลิปสติก KYLIE Matte Lipstick ตัวต่อไปเลยนะกัน เปิดมาก็ต้องกรี้ดให้กับแพ็คเกจจิ้งก่อน ตัวแท่งเรียบหรูด้วยสีชมพูนม เพิ่มกิมมิกด้วยคำว่า KYLIE แบบตะโกน ด้านเนื้อสัมผัสของรุ่นนี้จะมีอยู่ 2 เนื้อด้วยกัน ทั้งรุ่นที่เป็นเนื้อแมตต์ และเนื้อครีม สัมผัสแรกที่เห็นก็จึ้ง รับรู้ได้เลยว่าพิกเมนต์แน่นปึก เมื่อได้ลองทาลงบนริมฝีปากแล้ว ก็แน่นอนเลยว่า กลบสีริมฝีปากได้แบบกริบ ให้สัมผัสแบบที่ไม่แห้ง เพราะแอบเห็นว่าเค้ามีส่วนผสมของไฮยานูรอนิก เลยไม่ทำให้ตกร่องระหว่างวัน ซึ่งรุ่นนี้ได้หยิบมาสวอชให้เพื่อน ๆ ได้ดูกัน แบบ 2 สี 2 สไตล์ อย่างสี…
- รุ่นแมตต์ 410 An Apple a Day สีแดงไหนที่ถูกต้อง ปาดเดียวจบ เอาอยู่ทุกสถานการณ์
- รุ่นครีม 332 Better Late Than สีนู้ดติดน้ำตาล เพิ่มความเรียบหรูดูเป็นหลานคุณนาย ออกงานไหนก็ไม่หวั่น
ยังไม่จบกับลิป แต่ตัวนี้เค้าเป็นลิปกลอส KYLIE Plumping Gloss ด้วยสัมผัสของความบางเบา ที่มอบความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากได้ดี ตัวนี้เป็นเบอร์ 343 Rose And Chill จะมีความชมพูอ่อน ๆ สีไม่ชัดมากค่ะ ทาแล้วปากเรียบเนียน อิ่มฟู แวววาวเหมือนถังหูลู่ ยิ่งทาท็อปบนลิปสติกสีอื่น ยิ่งเพิ่มความสวย และถ้าได้ทาทิ้งไประยะสักพัก จะรู้สึกเย็น ๆ แบบซาบซ่าที่ริมฝีปาก อยากยกให้เป็นไอเทมที่ควรมีติดกระเป๋าเลยค่ะ
- ปริมาณ 36.5g ราคา 760 บาท
ปิดท้ายด้วยน้ำหอมตัวล่าสุดและเป็นตัวแรกของแบรนด์ Cosmic Kylie Jenner Eau de Parfum ที่มาในขวดแก้วซวดทรงโค้งมน เหมือนงานศิลปะ น้ำหอมตัวนี้กลิ่นจะมีความเป็นดอกไม้ที่หอมหวาน มีความ homey แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเย้ายวนใจ คิดว่าเป็นกลิ่นที่สามารถหยิบมาใช้ได้หลากหลายโอกาสค่ะ สาว ๆ ที่หลงไหล เรื่องความหอมต้องหยิบไปลองซักหน่อยแล้ว
Key Notes :
- Opening : กลิ่นดอกมะลิ Star Jasmine and ส้ม Blood Orange
- Heart : กลิ่นอำพันทองและดอกโบตั๋นแดง
- Base : กลิ่นวานิลลามัสก์และไม้ซีดาร์
- ปริมาณ 50ml ราคา 2,400 บาท
และนี่ก็เป็นฟินิชลุคที่ได้จาก KYLIE Cosmetics บอกเลยว่าสวยฟาดมากค่ะคุณน้า~
เป็นยังไงกันบ้างคะกับรีวิว KYLIE Cosmetics ยกทัพเหล่าไอเทมน่าช้อป เยือนไทยครั้งแรก แต่ละตัวเห็นแล้ว เหมือนจะโดนตกตลอดเวลา สำหรับใครที่ใจไม่แข็งพอสามารถพบกับเคาน์เตอร์ของ Kylie Cosmetics by Kylie Jenner ได้ที่ Eveandboy ทั้ง 3 สาขา ได้แก่ เมกาบางนา, เดอะมอลล์บางกะปิ และ Zpell ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต แอบกระซิบว่าเค้ามีแพลนจะเพิ่มสาขาด้วยนะ ติดตามได้ที่เพจของ Eveandboy เลย และสำหรับใครที่อยากกดออนไลน์มากกว่า ก็สามารถกดเข้าตะกร้าได้ที่ Eveandboy Online น้าา บลัยย-.