Cosmenet* ส่งท้ายปีกับไอเทม Redeem แบบจุใจตลอดเดือนธันวาคม 2024!
สกินแคร์

เท้าแตก ทําไงดี? 5 สูตรสครับแก้เท้าแตก ให้ผิวเนียนนุ่ม ไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์

230
6 ธ.ค. 2567
สครับแก้เท้าแตก

‘ส้นเท้าแตก’ หนึ่งในปัญหาชวนหงุดหงิดที่สาว ๆ หลายคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่อากาศแห้ง หากดูแลเท้าได้ไม่ดีพอก็อาจจะทำให้เกิดรอยแยกหรือรอยแตกของผิวบริเวณส้นเท้าได้ นอกเหนือจากการบำรุงแล้ว การสครับ หรือขัดผิวก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่ช่วยป้องกันและบรรเทาปัญหาส้นเท้าแตกได้เป็นอย่างดี ซึ่งในวันนี้ Cosmenet* ก็ไม่พลาดนำ 5 สูตรสครับแก้เท้าแตก ให้ผิวเนียนนุ่ม ไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์มาบอกต่อกันแล้วค่าา~


ปัญหาส้นเท้าแตก เกิดจาก


ปัญหาส้นเท้าแตก เกิดจาก

1. ผิวแห้งขาดน้ำ : สภาพผิวที่ขาดความชุ่มชื้นจากผิวมีน้ำหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกสภาพผิว โดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยภายนอกอย่าง สภาพอากาศและมลภาวะ ทำให้ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น และอาจเกิดปัญหาผิวแห้งแตกตามมาได้

2. การอาบน้ำด้วยน้ำอุ่น : ถึงแม้จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่การอาบน้ำอุ่น หรือเอาเท้าแช่น้ำอุ่นบ่อย ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาส้นเท้าแตก เพราะน้ำอุ่นจะดึงความชุ่มชื้นและน้ำมันตามธรรมชาติของผิวออกไป จึงทำให้ผิวแห้งกร้านนั่นเองค่ะ

3. ละเลยการดูแลผิวบริเวณเท้า : อย่ามัวแต่ดูแลผิวหน้าและผิวกาย จนละเลยผิวบริเวณเท้ากันนะคะ แนะนำให้บำรุงด้วย
ครีมทาเท้าเป็นประจำ เพื่อป้องกันปัญหาส้นเท้าแตก และเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเนียนนุ่มอยู่เสมอ

4. สภาพอากาศที่เย็นและแห้ง : ปัญหาส้นเท้าแตกมักจะพบได้บ่อยในช่วงหน้าหนาว ช่วงที่สภาพอากาศแห้ง หรือคนที่อยู่ในห้องแอร์เป็นประจำ ซึ่งเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ผิวแห้งและแตกได้ง่าย

5. ปัญหาด้านสุขภาพ : ปัญหาส้นเท้าแตกพบได้บ่อยในผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกิน หรือเป็นโรคเบาหวาน


5 สูตรสครับแก้เท้าแตก


1. วาสลีน + น้ำตาล


ใครที่รู้สึกว่าการทำสครับใช้เองเป็นเรื่องยุ่งยาก แนะนำให้ลองสครับแก้เท้าแตกสูตรนี้เลยค่ะ เพราะใช้แค่วาสลีนและน้ำตาลเท่านั้น! โดยวาสลีนจะช่วยบำรุงจุดแห้งกร้าน เช่น ข้อศอก,หัวเข่า, ตาตุ่ม และส้นเท้า ให้เนียนนุ่มน่าสัมผัสมากขึ้น แถมยังช่วยป้องกันปัญหาส้นเท้าแตกด้วยน้าา ส่วนน้ำตาลก็จะทำหน้าที่เป็นเม็ดสครับ ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน


วาสลีน + น้ำตาล

วิธีทำ
  • นำวาสลีนประมาณ 2-3 ช้อนชา มาผสมกับน้ำตาลทราย 1-2 ช้อนชา
  • คนส่วนผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
  • นำมาขัดวน ๆ ที่บริเวณส้นเท้า
  • เช็ดทำความสะอาดด้วยทิชชู่ และทาออยล์ หรือครีมบำรุงเท้าอีกครั้ง


2. กากกาแฟ + น้ำตาลทราย + น้ำมันมะพร้าว


ทำสครับแก้เท้าแตกใช้เองได้ง่าย ๆ โดยมีส่วนผสมหลักจากกากกาแฟ นอกจากจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกแล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ที่เรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้นมาทดแทนด้วย นอกจากนี้นังมีน้ำตาลทราย และน้ำมันมะพร้าวที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเนียนนุ่ม น่าสัมผัส

กากกาแฟ + น้ำตาลทราย + น้ำมันมะพร้าว

วิธีทำ
  • นำกากกาแฟ 2 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  • คนส่วนผสมให้เข้ากัน
  • นำมาขัดวน ๆ ประมาณ 15-20 นาที โดยเน้นบริเวณที่มีปัญหาส้นเท้าแตก
  • ล้างออกด้วยน้ำสะอาด


3. มะนาว + น้ำมันมะกอก + เกลือ


หากใครมีปัญหาส้นเท้าแตก ร่วมกับกลิ่นเท้า แนะนำว่าต้องลองสครับสูตรน้ำเลยค่ะ โดยมีส่วนผสมของมะนาวที่มีกรด AHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกอย่างง่ายดาย ผสานน้ำมันมะกอกที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารบำรุงต่าง ๆ ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชชื้น และพระเอกของสูตรนี้คือ “เกลือ” ที่มีคุณสมบัติช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย จึงมีส่วนช่วยแก้ปัญหาเท้าเหม็นได้นั่นเองค่ะ

มะนาว + น้ำมันมะกอก + เกลือ

วิธีทำ
  • นำน้ำมะนาว และน้ำมันมะกอกอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับเกลือ 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • คนส่วนผสมให้เข้ากัน
  • นำมาขัดวน ๆ บริเวณส้นเท้า และซอกเท้า
  • ล้างออกด้วยน้ำสะอาด และเช็ดเท้าให้แห้ง


4. น้ำอุ่น + เบกกิ้งโซดา + น้ำตาลทรายแดง


เท้าดำ สีผิวไม่เรียบเนียน ส้นเท้าแตก แก้ได้ด้วยสูตรครับแก้เท้าแตกที่มีส่วนผสมของน้ำอุ่น น้ำตาลทรายแดง และเบกกิ้งโซดาที่ไม่เพียงแค่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกเท่านั้นนะคะ แต่เค้ายังมีฤทธิ์ช่วยฆ่าเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี จึงช่วยแก้ปัญหาเท้าเหม็นได้อยู่หมัด! 


น้ำอุ่น + เบกกิ้งโซดา + น้ำตาลทรายแดง

วิธีทำ

  • เริ่มจากนำเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมลงในน้ำอุ่น 1 ลิตร
  • แช่เท้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที
  • นำเบกกิ้งโซดา 3 ส่วน มาผสมกับน้ำ 1 ส่วน และน้ำตาลทรายแดง 1 ส่วน
  • นำมาขัดวน ๆ ให้ทั่วเท้า โดยเน้นบริเวณที่มีปัญหาส้นเท้าแตก และผิวหมองคล้ำ
  • ล้างออกด้วยน้ำสะอาด และเช็ดเท้าให้แห้ง


5. เกลือ + น้ำผึ้ง + เบบี้ออยล์


ปิดท้ายด้วยสูตรสครับแก้เท้าแตกที่เหมือนได้ทำสปาที่บ้าน โดยสูตรนี้มีส่วนผสมของเกลือ น้ำผึ้ง และเบบี้ออยล์ นอกจากจะช่วยผลัดเซลล์ผิวและช่วยป้องกันปัญหาส้นเท้าแตกแล้ว ยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเมื่อยล้าด้วยน้าา เหมาะสำหรับวันที่เดินเยอะ หรือเมื่อยเท้าสุด ๆ เลยค่ะ

เกลือ + น้ำผึ้ง + เบบี้ออยล์

วิธีทำ
  • นำเกลือ 1 ถ้วย มาผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ และเบบี้ออยล์ 1/4 ถ้วย
  • คนส่วนผสมให้เข้ากัน
  • นำมาขัดวน ๆ บริเวณส้นเท้า
  • ล้างออกด้วยน้ำสะอาด และเช็ดเท้าให้แห้ง


สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีแก้เท้าแตก บอกเลยว่า 5 สูตรสครับแก้เท้าแตกเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่อยากแนะนำ นอกจากจะช่วยบรรเท้าและป้องกันปัญหาส้นเท้าแตกแล้ว ยังช่วยปรับผิวให้กระจ่างใน เรียบเนียน และแก้ปัญหาเท้าเหม็นได้อยู่หมัด!


-----------------------
*Cosmenet Smart Beauty รีวิวดีบอกต่อ
ค้นหารีวิวเครื่องสำอาง สกินแคร์ แบบจริงใจได้ที่นี่ www.cosmenet.in.th
-----------------------


อ่านคอนเทนต์การบำรุงผิวอื่น ๆ เพิ่มเติม

What's new
ป้ายยา 5 อันดับครีมกันแดดหน้า ยี่ห้อไหนดี บางเบา ซึมง่าย สบายผิว จากรีวิวผู้ใช้จริงแนะนำ 5 อันดับไอเท็มจัดการฝ้าซ้ำซาก จะฝ้าแบบไหนก็เอาอยู่ รวมตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน รีวิว 5 รองพื้นผิวโกลว์ บางเบาแต่ปกปิดเนียนกริบ ติดทนตลอดวันETUDE ส่งท้ายปีกับคอลเลคชั่นใหม่ Dear My Bestie ด้วยความน่ารักแบบเกินต้าน!มัดรวม 4 ปีชงปีมะเส็ง มีนักษัตร์ไหนบ้าง พร้อมสถานที่ วิธีแก้ชง 256810 สกินแคร์ลดรอยสิว ปรับผิวให้เรียบเนียนกระจ่างใส ไร้รอยสิวกวนใจ!11 โลชั่นทาตัว AHA ผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ขาวใสเรียบเนียนดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 8 - 14 ธ.ค. 67 (ทุกราศี) เท้าแตก ทําไงดี? 5 สูตรสครับแก้เท้าแตก ให้ผิวเนียนนุ่ม ไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์Cosmenet* ส่งท้ายปีกับไอเทม Redeem แบบจุใจตลอดเดือนธันวาคม 2024!
COMMENTS
13 ความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
ต้องลองๆ
10 ธ.ค. 2567 เวลา 22:05 น.
ความคิดเห็นที่ 12
ขอบคุณค่ะ
10 ธ.ค. 2567 เวลา 13:25 น.
ความคิดเห็นที่ 11
ขอบคุณค่ะ
10 ธ.ค. 2567 เวลา 9:16 น.
ความคิดเห็นที่ 10
ขอบคุณค่ะ
9 ธ.ค. 2567 เวลา 22:53 น.
ความคิดเห็นที่ 9
ขอบคุณนะคะ
9 ธ.ค. 2567 เวลา 21:47 น.
ความคิดเห็นที่ 8
ขอบคุณค่ะ
9 ธ.ค. 2567 เวลา 20:32 น.
ความคิดเห็นที่ 7
ขอบคุณมากนะคะ
9 ธ.ค. 2567 เวลา 17:59 น.
ความคิดเห็นที่ 6
Thanks
9 ธ.ค. 2567 เวลา 17:48 น.
ความคิดเห็นที่ 5
ดีมากๆๆเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
9 ธ.ค. 2567 เวลา 17:09 น.
ความคิดเห็นที่ 4
ขอบคุณค่ะ
9 ธ.ค. 2567 เวลา 16:02 น.
ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณทริคดีๆค่า
9 ธ.ค. 2567 เวลา 15:10 น.
ความคิดเห็นที่ 2
ขอบคุณค่ะ
9 ธ.ค. 2567 เวลา 14:48 น.
ความคิดเห็นที่ 1
ขอบคุณค่ะ
9 ธ.ค. 2567 เวลา 14:38 น.