How to สะสมคะแนน Cosmenet เก็บคะแนนให้ครบทุกวัน ต้องทำยังไงบ้าง?

รีวิว VISTRA Cod Liver Oil 1000 Plus Vitamin E

Cod Liver Oil 1000 Plus Vitamin E
อันดับ
Beau BN's profile picture
Beau BN
Commentความคิดเห็นที่ 3
น้ำมันตับปลา ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงสายตา ขนาดเม็ดกำลังพอดี กลืนลงคอง่าย ทานต่อเนื่องดีมากๆค่ะ...
21 ต.ค. 2564 เวลา 23:03 น.
Seam jari's avatar
Seam jari
Commentความคิดเห็นที่ 2
ช่วงอายุ : 40 ขึ้นไป
เม็ดไม่ใหญ่ กลิ่นง่าย คาวนิดๆ กินคู่กับพวกvitaminCช่วยเรื่องสิว และรอยสิวได้ดี หน้าใสขึ้น เรื่องริ้วรอยยังไม่ทราบเพราะส่วนตัวเราไม่มี แต่เราเอาไว้กินป้องกันเอาจร้า...
14 ก.พ. 2564 เวลา 15:59 น.
BaiBua 양미경님 팬's profile picture
BaiBua 양미경님 팬
Commentความคิดเห็นที่ 1
ช่วงอายุ : 36 - 40
ขอรีวิวน้ำมันแซลมอนผสมวิตามินอีค่ะ -แคปซูลใสสีนวลตามธรรมชาติของน้ำมัน -ช่วงเปิดฝาใหม่ๆ จะแข็งมาก แต่ผ่านไปสักสัปดาห์ในกระปุกก็จะเริ่มนิ่ม ตามปกติของเจลแคปซูลทุกยี่ห้อเลย -มีโอเมก้า 3 บำรุงสมอง -...
Preview
19 ก.ย. 2560 เวลา 10:41 น.
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
จากประเทศThailand
เหมาะสำหรับ-
อายุการใช้งาน-
ปริมาณ30 capsules และ 60 capsules
ราคา180 และ 330 บาท
ข้อแนะนำ-
จุดเด่นช่วยดูแลสายตาและ เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง เพื่อการดูแลสุขภาพแบบครบสูตร เตรียมความพร้อมในทุกวัน

Vistra Cod Liver Oil 1000 Plus Vitamin E

มากด้วยประโยชน์ ของวิตามินดี และเอ ที่ช่วยดูแลสายตาและ เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง เพื่อการดูแลสุขภาพแบบครบสูตร เตรียมความพร้อมในทุกวัน 

ส่วนประกอบที่สำคัญ ประกอบด้วย
น้ำมันตับปลา Cod Liver Oil1000มก. +
ให้วิตามิน เอ 1000 ไอยู Provide Vitamin A1000IU
ให้วิตามิน ดี 100 ไอยู Provide Vitamin D200 มก.
วิตามินอี Vitamin E9.09มก.



คำแนะนำ 
รับประทานวันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร ควรรับประทานอาหารให้หลากหลาย ครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ


คำเตือน
1. เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน
2. ห้ามใช้ในผู้ใหญ่ที่แพ้ปลาทะเลหรือ น้ำมันปลา
3. ควรระวังในผู้ที่เลือดแข็งตัวช้าหรือผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด

Cod Liver Oil

น้ำมันตับปลา คือน้ำมันที่สกัดมาจากตับของปลา ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วน้ำมันตับปลาที่ดีนั้นควรจะได้จากปลาทะเลที่อาศัยอยู่ในน้ำลึก เพราะจะมีความบริสุทธิ์ ปราศจากโลหะหนัก และปลอดภัยมากกว่า โดยปลาที่นิยมใช้ส่วนใหญ่จะเป็นตับปลาค็อด ที่จะอุดมด้วยสารอาหารที่สำคัญได้แก่ วิตามินเอ และวิตามินดี

น้ำมันตับปลากับน้ำมันปลา เหมือนหรือแตกต่าง ?

ตั้งแต่สมัยที่เรายังเด็กเชื่อว่าหลายคนคงเคยรับประทานน้ำมันตับปลาที่คุณพ่อคุณแม่ซื้อมาให้ จนกระทั่งโตมาเป็นผู้ใหญ่หลายคนเริ่มรู้จักและหาซื้อน้ำมันปลารับประทานเพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งที่คุ้นเคยที่เราใช้มาในวัยเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเรารู้หรือไม่ว่ามันต่างกัน

สารอาหารที่สำคัญ :  วิตามิน A,วิตามิน D โอเมก้า 3 (EPA, DHA)

ประโยชน์
  • ส่งเสริมการเจริญเติบโต
  • ส่งเสริมสร้างสุขภาพดวงตา
  • ส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียม
  • ดูแลสุขภาพทั่วไป
  • เสริมภูมิคุ้มกัน
  • ลดและควบคุมโคเลสเตอรอล 
  • ลดไตรกลีเซอร์ไรด์
  • บำรุงสมอง เสริมสร้างความจำ

น้ำมันตับปลาอุดมด้วย...

สารอาหารที่จัดว่าสำคัญที่สุดก็คือ วิตามินเอและวิตามินดี ดังนั้นเราลองมาดูประโยชน์ของวิตามินทั้ง 2 ชนิดกัน

วิตามินเอและประโยชน์ต่อร่างกาย ( Vitamin Aand Health Benefit)

วิตามินเอ จัดเป็นวิตามินในกลุ่มที่ละลายในไขมันและมีการเก็บสะสมมากในตับ โดยวิตามินเอนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบคือ เรทินอล (Retinol)และเบต้า-แคโรทีน (Beta-Carotene) โดยจะพบมากในอาหารจำพวก ตับ นม ไข่แดง มันเทศ แครอทผักบุ้ง ฟักทอง รวมถึง “น้ำมันตับปลา” ซึ่งประโยชน์ที่ได้จากวิตามินเอมีดังนี้คือ

  1. ดูแลสุขภาพผิวพรรณและเนื้อเยื่อต่าง ๆ
  2. เสริมภูมิคุ้มกัน
  3. ส่งเสริมสุขภาพดวงตาและการมองเห็น
  4. มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ
  5. เสริมสร้างระบบสืบพันธุ์

หมายเหตุ: ปริมาณวิตามินเอ ที่แนะนำให้บริโภคต่อวันสำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6ปีขึ้นไป (Thai RDI) คือ 2,664 IU
วิตามินดีและประโยชน์ต่อร่างกาย (Vitamin D and Health Benefit)


วิตามินดี หรืออีกชื่อ เรียกว่า แคลซิเฟอร์รอล (Calciferal) เป็นวิตามินที่ร่างกายต้องได้รับจากอาหารและแสงแดด จัดอยู่ในกลุ่มวิตามินที่ละลายในไขมัน ทำหน้าที่ควบคุมการดูดซึมแคลเซียม และมีความจำเป็นต่อความแข็งแรงของกระดูกและฟัน โดยแหล่งอาหารที่พบได้บ่อยได้แก่ น้ำมันตับปลาค็อต ปลาทะเลอื่น ๆนมและผลิตภัณฑ์จากนม เป็นต้น ซึ่งประโยชน์ที่ได้จากวิตามินดีมีดังนี้คือ

  1. ส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส
  2. เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
  3. ป้องกันโรคกระดูกอ่อนในเด็ก
  4. บรรเทาอาการของโรคสะเก็ดเงิน
  5. ส่งเสริมการดูดซึมวิตามินเอ
หมายเหตุ: ปริมาณวิตามินดี ที่แนะนำให้บริโภคต่อวันสำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6ปีขึ้นไป (Thai RDI) คือ 200 IU

รู้หรือไม่ว่า?
นอกจากน้ำมันตับปลาจะอุดมไปด้วยวิตามิน A และ D แล้ว น้ำมันตับปลายังประกอบไปด้วย กลุ่มของกรดไขมันที่จำเป็นโอเมก้า-3  อีกด้วย ซึ่งก็คือ EPA และ DHA ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจากสารอาหารทั้งสองชนิดก็มีดังต่อไปนี้
  • ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทและสมอง
  • ลดและควบคุมระดับไขมันในหลอดเลือดให้อยู่ในภาวะปกติ
  • บรรเทาอาการปวดบวมและอักเสบของข้อ