HNY-BNTop-Artistry

รีวิว VISTRA Cod Liver Oil 1000 Plus Vitamin E

Quick Recap
รีวิวผู้ใช้จริง สรุปโดย AIรีวิวผู้ใช้จริง สรุปโดย AI
ช่วยบำรุงร่างกายและสายตา มีวิตามินดีและอี เสริมภูมิคุ้มกัน แต่ไม่เหมาะสำหรับบางกลุ่ม ควรรับประทานต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพที่ดี ราคาคุ้มค่า
Beau BN's profile picture
Beau BN
October 21, 2021
น้ำมันตับปลา ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงสายตา ขนาดเม็ดกำลังพอดี กลืนลงคอง่าย ทานต่อเนื่องดีมากๆค่ะ...
Seam jari's avatar
Seam jari
February 14, 2021
ช่วงอายุ : 40 ขึ้นไป
เม็ดไม่ใหญ่ กลิ่นง่าย คาวนิดๆ กินคู่กับพวกvitaminCช่วยเรื่องสิว และรอยสิวได้ดี หน้าใสขึ้น เรื่องริ้วรอยยังไม่ทราบเพราะส่วนตัวเราไม่มี แต่เราเอาไว้กินป้องกันเอาจร้า...
BaiBua 양미경님 팬's profile picture
BaiBua 양미경님 팬
September 19, 2017
ช่วงอายุ : 36 - 40
ขอรีวิวน้ำมันแซลมอนผสมวิตามินอีค่ะ -แคปซูลใสสีนวลตามธรรมชาติของน้ำมัน -ช่วงเปิดฝาใหม่ๆ จะแข็งมาก แต่ผ่านไปสักสัปดาห์ในกระปุกก็จะเริ่มนิ่ม ตามปกติของเจลแคปซูลทุกยี่ห้อเลย -มีโอเมก้า 3 บำรุงสมอง -...
Preview
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
จากประเทศThailand
เหมาะสำหรับ-
อายุการใช้งาน-
ปริมาณ30 capsules และ 60 capsules
ราคา180 และ 330 บาท
ข้อแนะนำ-
จุดเด่นช่วยดูแลสายตาและ เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง เพื่อการดูแลสุขภาพแบบครบสูตร เตรียมความพร้อมในทุกวัน

Vistra Cod Liver Oil 1000 Plus Vitamin E

มากด้วยประโยชน์ ของวิตามินดี และเอ ที่ช่วยดูแลสายตาและ เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง เพื่อการดูแลสุขภาพแบบครบสูตร เตรียมความพร้อมในทุกวัน 

ส่วนประกอบที่สำคัญ ประกอบด้วย
น้ำมันตับปลา Cod Liver Oil1000มก. +
ให้วิตามิน เอ 1000 ไอยู Provide Vitamin A1000IU
ให้วิตามิน ดี 100 ไอยู Provide Vitamin D200 มก.
วิตามินอี Vitamin E9.09มก.



คำแนะนำ 
รับประทานวันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร ควรรับประทานอาหารให้หลากหลาย ครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ


คำเตือน
1. เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน
2. ห้ามใช้ในผู้ใหญ่ที่แพ้ปลาทะเลหรือ น้ำมันปลา
3. ควรระวังในผู้ที่เลือดแข็งตัวช้าหรือผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด

Cod Liver Oil

น้ำมันตับปลา คือน้ำมันที่สกัดมาจากตับของปลา ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วน้ำมันตับปลาที่ดีนั้นควรจะได้จากปลาทะเลที่อาศัยอยู่ในน้ำลึก เพราะจะมีความบริสุทธิ์ ปราศจากโลหะหนัก และปลอดภัยมากกว่า โดยปลาที่นิยมใช้ส่วนใหญ่จะเป็นตับปลาค็อด ที่จะอุดมด้วยสารอาหารที่สำคัญได้แก่ วิตามินเอ และวิตามินดี

น้ำมันตับปลากับน้ำมันปลา เหมือนหรือแตกต่าง ?

ตั้งแต่สมัยที่เรายังเด็กเชื่อว่าหลายคนคงเคยรับประทานน้ำมันตับปลาที่คุณพ่อคุณแม่ซื้อมาให้ จนกระทั่งโตมาเป็นผู้ใหญ่หลายคนเริ่มรู้จักและหาซื้อน้ำมันปลารับประทานเพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งที่คุ้นเคยที่เราใช้มาในวัยเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเรารู้หรือไม่ว่ามันต่างกัน

สารอาหารที่สำคัญ :  วิตามิน A,วิตามิน D โอเมก้า 3 (EPA, DHA)

ประโยชน์
  • ส่งเสริมการเจริญเติบโต
  • ส่งเสริมสร้างสุขภาพดวงตา
  • ส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียม
  • ดูแลสุขภาพทั่วไป
  • เสริมภูมิคุ้มกัน
  • ลดและควบคุมโคเลสเตอรอล 
  • ลดไตรกลีเซอร์ไรด์
  • บำรุงสมอง เสริมสร้างความจำ

น้ำมันตับปลาอุดมด้วย...

สารอาหารที่จัดว่าสำคัญที่สุดก็คือ วิตามินเอและวิตามินดี ดังนั้นเราลองมาดูประโยชน์ของวิตามินทั้ง 2 ชนิดกัน

วิตามินเอและประโยชน์ต่อร่างกาย ( Vitamin Aand Health Benefit)

วิตามินเอ จัดเป็นวิตามินในกลุ่มที่ละลายในไขมันและมีการเก็บสะสมมากในตับ โดยวิตามินเอนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบคือ เรทินอล (Retinol)และเบต้า-แคโรทีน (Beta-Carotene) โดยจะพบมากในอาหารจำพวก ตับ นม ไข่แดง มันเทศ แครอทผักบุ้ง ฟักทอง รวมถึง “น้ำมันตับปลา” ซึ่งประโยชน์ที่ได้จากวิตามินเอมีดังนี้คือ

  1. ดูแลสุขภาพผิวพรรณและเนื้อเยื่อต่าง ๆ
  2. เสริมภูมิคุ้มกัน
  3. ส่งเสริมสุขภาพดวงตาและการมองเห็น
  4. มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ
  5. เสริมสร้างระบบสืบพันธุ์

หมายเหตุ: ปริมาณวิตามินเอ ที่แนะนำให้บริโภคต่อวันสำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6ปีขึ้นไป (Thai RDI) คือ 2,664 IU
วิตามินดีและประโยชน์ต่อร่างกาย (Vitamin D and Health Benefit)


วิตามินดี หรืออีกชื่อ เรียกว่า แคลซิเฟอร์รอล (Calciferal) เป็นวิตามินที่ร่างกายต้องได้รับจากอาหารและแสงแดด จัดอยู่ในกลุ่มวิตามินที่ละลายในไขมัน ทำหน้าที่ควบคุมการดูดซึมแคลเซียม และมีความจำเป็นต่อความแข็งแรงของกระดูกและฟัน โดยแหล่งอาหารที่พบได้บ่อยได้แก่ น้ำมันตับปลาค็อต ปลาทะเลอื่น ๆนมและผลิตภัณฑ์จากนม เป็นต้น ซึ่งประโยชน์ที่ได้จากวิตามินดีมีดังนี้คือ

  1. ส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส
  2. เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
  3. ป้องกันโรคกระดูกอ่อนในเด็ก
  4. บรรเทาอาการของโรคสะเก็ดเงิน
  5. ส่งเสริมการดูดซึมวิตามินเอ
หมายเหตุ: ปริมาณวิตามินดี ที่แนะนำให้บริโภคต่อวันสำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6ปีขึ้นไป (Thai RDI) คือ 200 IU

รู้หรือไม่ว่า?
นอกจากน้ำมันตับปลาจะอุดมไปด้วยวิตามิน A และ D แล้ว น้ำมันตับปลายังประกอบไปด้วย กลุ่มของกรดไขมันที่จำเป็นโอเมก้า-3  อีกด้วย ซึ่งก็คือ EPA และ DHA ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจากสารอาหารทั้งสองชนิดก็มีดังต่อไปนี้
  • ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทและสมอง
  • ลดและควบคุมระดับไขมันในหลอดเลือดให้อยู่ในภาวะปกติ
  • บรรเทาอาการปวดบวมและอักเสบของข้อ