คัดเน้น ๆ 10 แชมพูลดผมร่วง 2025 บอกลาผมบาง ต้อนรับผมหนาอีกครั้ง!

รีวิว Yves Saint Laurent Mon Paris Couture Eau de Parfum

Quick Recap
รีวิวผู้ใช้จริง สรุปโดย AIรีวิวผู้ใช้จริง สรุปโดย AI
กลิ่นหอมหวานฟรุตตี้ฟลอรัล เย้ายวนใจ เหมาะสำหรับทุกโอกาส while อาจมีการติดทนน้อยกว่าที่คาดหวัง แนะนำให้ใช้วันละหลายครั้งเพื่อเพิ่มความหอมคุ้มค่า
SandHime's profile picture
SandHime
February 13, 2021
ช่วงอายุ : 31 - 35
กลิ่นหวานๆ สไตล์ฟรุตตี้ฟลอรัล กลิ่นไม่ฉุนแบบทำร้ายคนรอบข้าง แต่บนผิวเรา รู้สึกว่าติดไม่ทนเท่าไรค่ะ ...
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
จากประเทศFrance
เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
อายุการใช้งาน3 ปี หลังจากเปิดใช้
ปริมาณ30 / 50 / 90 มล.
ราคา3,300 / 4,500 / 6,500 บาท
ข้อแนะนำเก็บให้พ้นจากแสงแดด
จุดเด่นโดดเด่นในแนวกลิ่นชีแพรจากการผสานความหอมของดอกไม้และผลไม้อันทันสมัย ที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้น เย้ายวน และมีเสน่ห์เร้าใจ

Mon Paris Couture Eau de Parfum

โดดเด่นในแนวกลิ่นชีเพรจากการผสานความหอมของดอกไม้ทันสมัย ที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้น เย้ายวน และมีเสน่ห์เร้าใจ

แนวกลิ่นไวท์ ชีเพรใหม่นี้หอมจับใจตั้งแต่แรกพร่างพรม ทำให้เคลิบเคลิ้ม หลงใหลดั่งต้องมนตร์ ด้วยความกระจ่างใสบริสุทธิ์เป็นพิเศษ ซึ่งผสานกลิ่นพิมเสนใบ (patchouli) เข้ากับกลิ่นหอมจากดอกไม้สีขาว และทำให้สมดุลด้วยกลิ่นหอมเย้ายวนของมัสก์ (musk)




กลิ่นหอมชวนเคลิบเคลิ้มราวกับโลกหมุน  2 กลิ่น (accord) ใหม่ก่อให้เกิดแนวกลิ่นไวท์ชีเพรชวนเคลิบเคลิ้ม

ดอกลำโพง (Datura) ซึ่งน่ารักพอๆ กับน่ากลัว เป็นดอกไม้ในตำนานที่สวยงามชวนมอง เริ่มบานช่วงหัวค่ำและหุบในตอนบ่าย วิธีเดียวที่จะเก็บสารหอมสะกดใจของดอกลำโพงได้คือใช้เทคโนโลยีเฮดสเปซ (headspace)
ชูกลิ่นของดอกลำโพงด้วยความขาวสะอาดใสที่โชยกลิ่นหอมดึงดูดใจเนิ่นนานของพิมเสนต้น ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งแต่เป็นสองสายพันธุ์ แม้จะแตกต่างกันแต่เติมเต็มซึ่งกันและกัน สารหอมจากพิมเสนต้นจากกัวเตมาลา (Guatemala) เป็นที่ชื่นชอบในกลิ่นแฝงแบบอำพัน (amber) และวูดดี้ (woody) ส่วนพิมเสนต้นจากอินโดนีเซีย (Indonesia) มีกลิ่นหอมที่อบอุ่นเผ็ดร้อนแบบเครื่องเทศ (spicy) การจับคู่พิมเสนต้น 2 พันธุ์นี้ก่อเกิดเป็นกลิ่นหอมทรงอานุภาพที่ให้รอยกลิ่นของความปรารถนา เมื่อผสานกันกลิ่นมัสก์ กลิ่นหอมของพิมเสนต้นเปลี่ยนไปเป็นโครงสร้างพิเศษที่ให้ความรู้สึกโปร่งเบาราวอากาศ ขาว และสะอาด กฎเกณฑ์เดิมถูกทำลาย แล้วแทนที่ด้วยกลิ่นหอมใหม่ที่ชวนเคลิบเคลิ้มราวกับโลกหมุน



  • เริ่มต้นด้วยกลิ่นแรกที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาของมะกรูดจากแคว้นคาลาเบรีย (Calabria) กับความสดชื่นของกลิ่นราสพ์เบอรี่ (raspberry accord) และกลิ่นสตรอว์เบอรี่ (strawberry accord) เสริมด้วยกลิ่นหอมของลูกแพร์ (pear) มอบความสดชื่นชุ่มฉ่ำ – ขั้นตอนลับสู่ความเคลิ้มสุข 
  • ถัดมา ในกลิ่นกลาง แทนการใช้ส่วนผสมที่ให้ความรู้สึกทึบตันอันเป็นแบบฉบับของแนวกลิ่นชีเพรโดยส่วนใหญ่ กลิ่นกลางของ Mon Paris ให้ความรู้สึกโปร่งใส สะอาด และสดชื่น พุ่งขึ้นและลงเหมือนลำแสงตลอดการพัฒนากลิ่นของน้ำหอมนี้ เบ่งบาน รุ่งโรจน์ ร้อนแรง ด้วยกลิ่นดอกโบตั๋น (peony accord) ที่โปร่งเบาราวอากาศ ผสานกับสารหอมจากดอกมะลิลา (Jasmine Sambac absolute) จากอินเดีย และสารหอมจากมะลิจากมณฑลยูนนาน (Yunnan) ของจีน ระเบิดความเป็นหญิงที่เอิบอาบกลิ่นดอกลำโพงอันสดใสหอมตรึงใจ ตามมาด้วยความอบอุ่นของพิมเสนต้น 
  • กลิ่นฐาน เป็นอีกครั้งที่ฉีกกรอบ แทนที่จะปรากฏเฉพาะในกลิ่นฐานเหมือนอย่างน้ำหอมแนวกลิ่นชีเพรทั่วไป Mon Paris ท้าทายรูปแบบเดิมๆ ด้วยการระเบิดกลิ่นมัสก์ที่โชยกลิ่นอยู่โดยตลอดการพัฒนากลิ่นของน้ำหอมนี้ ตั้งแต่กลิ่นแรกจนถึงกลิ่นฐาน
  • กลิ่นไวท์มัสก์ (white musk) 3 ชนิด มีบทบาทสำคัญและสลับซับซ้อน ผสมผสานกับกลิ่นดอกไม้ขาว เพื่อเอิบอาบแนวกลิ่นชีเพรที่ชวนลุ่มหลงในแสงสีขาวอันสว่างสดใส เสริมความโดดเด่นให้กับความโปร่งเบาของกลิ่นกลางจากดอกไม้และกลิ่นพิมเสนต้นที่กระจ่างใส ก่อให้เกิดสัมผัสพิเศษของความโปร่งใสและบริสุทธิ์ 
  • ปิดท้ายอย่างสวยงามด้วยกลิ่นหอมอบอุ่นเย้ายวนของแอมบร็อกซ์ (ambrox) ซึ่งให้ความรู้สึกหรูหรา เสมือนความสบายของอ้อมแขนคนรัก เพื่อถ่วงดุลความสดใสของ Mon Paris เน้นกลิ่นน้ำหอมด้วยความเข้มข้น หรูหรา และสไตล์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และปราศจากกลิ่นแบบมอสส์ที่หม่นและขุ่นมัว 

ความรู้สึกที่ยากต่อต้าน คือความมีชีวิตชีวาที่ทันสมัย ชวนให้เคลิบเคลิ้ม ความบริสุทธิ์ที่ทรงอำนาจไม่สิ้นสุด และความขาวที่เปล่งประกายกระจ่างใส