รีวิว Chopard Haute Parfumerie Collection Gardens of the Tropics
Quick Recap
น้ำหอมนี้มีกลิ่นหอมสดชื่นจากธรรมชาติ มีส่วนผสมพิเศษจากแหล่งคุณภาพ สามารถสร้างบรรยากาศที่สดใสและมีชีวิตชีวา ดีไซน์เลยสวยงาม เหมาะสำหรับการให้เป็นของขวัญ
Emilie
ความคิดเห็นที่ 1ช่วงอายุ : 40 ขึ้นไป
ผิวกาย : ผิวธรรมดา
คือถึงเราจะได้รับตัวอย่างทดลองใช้ของน้ำหอมรุ่นนี้แต่เราก็ค่อนข้างชอบอยุ่นะถึงกลิ่นจะไม่ทน...
1 ธ.ค. 2566 เวลา 20:40 น.
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
| จากประเทศ | France |
|---|---|
| เหมาะสำหรับ | สามารถใช้ได้ทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี |
| อายุการใช้งาน | 3ปี หลังจากเปิดใช้ครั้งแรก |
| ปริมาณ | 100 ml. |
| ราคา | 9,400 บาท |
| ข้อแนะนำ | เก็บในที่ ที่ไม่โดนแสงแดด |
| จุดเด่น | เป็นน้ำหอมตัวใหม่ของ CHOPARD ที่ได้ Alberto Morillas และ Nathalie Lorson สองผู้เชี่ยวชาญทางด้านน้ำหอมมาปรุงกลิ่นของน้ำหอม ด้วยโปรแกรม NATURALS TOGETHER™ โปรแกรมจาก Firmenich ที่จะช่วยกลั่นกรองวัตถุดิบที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ สามารถใช้ได้ทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี |
น้ำหอม Chopard Haute Parfumerie Collection
“Gardens of the Tropics”
CHOPARD ได้ร่วมงานกับสุคนธกรระดับอาจารย์อย่าง Alberto Morillas และ Nathalie Lorson ผู้เป็นที่รู้จักจากทักษะการค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์กลิ่นที่มาจากธรรมชาติและอารมณ์ที่หลากหลายและด้วยคอลเล็กชั่นนี้ ถือเป็นก้าวแรกของ CHOPARD PARFUMS ในการเดินทางเข้าสู่เส้นการเดินทางแห่งวิสัยทัศน์ เพื่อค้นหาศาสตร์การปรุงน้ำหอมจากธรรมชาติและเป็นมิตรต่อธรรมชาติด้วย
เรื่องราวแห่งการค้นหาวัตถุดิบที่ไม่เหมือนใคร
สำหรับคอลเล็กชั่นนี้ CHOPARD PARFUMS ยก 3 วัตถุดิบคัดสรรพิเศษจากโปรแกรม NATURALS TOGETHER™ ขึ้นเป็นตัวชูโรง กล่าวคือ NATURAL TOGETHER™ เป็นโปรแกรมพิเศษจาก Firmenich ซึ่งเป็นผู้สร้างโปรแกรมนี้ขึ้นภายใต้ปรัชญาของ CHOPARD และได้โปรแกรม Business for Development ของ Fiemenich โปรแกรมที่รวบรวมผู้ค้าวัตถุดิบธรรมชาติที่ดีที่สุดของโลกมาไว้ด้วยกัน มาช่วยนำทางสู่อนาคตแห่งวัตถุดิบธรรมชาติ โดยการให้คำปรึกษาและชี้แนะวัตถุดิบที่ดีและตรงเป้าหมายที่สุดให้
3 วัตถุดิบคัดสรรพิเศษ ได้แก่
1. หญ้าแฝกจาก Haiti
เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกว่า Haiti เป็นประเทศที่หญ้าแฝกดีที่สุดในโลก เมื่อปี 2010 Firmenich เป็นหนึ่งในการประชุมผู้ถือหุ้นที่ค้นพบและนำเข้าหญ้าแฝกจากแหล่งฟาร์มในเมือง Débouchette ประเทศ Haiti ปัจจุบันนี้ มากกว่าครึ่งของหญ้าแฝก Haiti ที่เรามีได้รับการรับรองจาก Ecocert ESR ซึ่งช่วยการันตีความแน่นอนของราคาสำหรับการมาร่วมทุรกิจ ในโปรแกรมนี้ ข้อผูกมัดระหว่าง Fiemenich และชุมชน Débouchette นั้น มุ่งเน้นไปที่เด็ก สตรี และสาธารณสุข ซึ่งในปี 2013 ที่ผ่านมา Firmenich ก็ร่วมสร้างโรงเรียนให้กับชุมชน และยังคงพัฒนาขึ้นโดยการจัดส่งคอมพิวเตอร์ให้กับโรงเรียนเพื่อใช้ในการเรียนรู้
2. วานิลลาจาก Madagascar
Madagascar เป็นผู้ส่งออกวานิลลาเบอร์เบิร์นเจ้าแรกของโลก ซึ่งตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา Fimenich ได้พัฒนาแผนการสร้างความยั่งยืนในเรื่องการผลิตวานิลลากับผู้จำหน่ายท้องถิ่น ช่วยเหลือกลุ่มชาวไร้ในการพัฒนาวานิลลาออร์แกนิค เพื่อให้ได้มาซึ่งประกาศนียบัตรของ Rainforest Alliance รวมไปถึงหาทางช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพอีกด้วย มากไปกว่านั้นความพยายามของชุมชนนี้ยังรวมไปถึงการสร้างบ่อน้ำสะอาดในหมู่บ้านที่ผลิตวานิลลา และสร้างแปลงเพาะต้นไม้อื่นๆ เพื่อสร้างความหลากหลายของผลิตผลและช่วยสร้างป่าอันเขียวชอุ่ม
3. กระวานเทศจาก Guatemala
Fiemenich ได้สร้างสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มเครือข่ายผู้ปลูกกระวานเทศใน Guatemala เป็นวากว่า 3 ปี ซึ่งปัจจุบันกลุ่มผู้ปลูกสามารถขยายขอบเขตการทำงานไปถึงการกลั่นกระวานเทศให้ได้เป็นน้ำมันหอมระเหย โดยใช้เครื่องมือจาก Fimenich แล้ว การทำงานโดยตรงกับผู้ปลูกช่วยให้ Fiemenich สามารถจ่ายค่าแรงที่สูงกว่าและความมั่นคงทางการเงินของผู้ปลูกก็จะช่วยการันตีจำนวนผลผลิตที่คงที่และได้คุณภาพ
เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกว่า Haiti เป็นประเทศที่หญ้าแฝกดีที่สุดในโลก เมื่อปี 2010 Firmenich เป็นหนึ่งในการประชุมผู้ถือหุ้นที่ค้นพบและนำเข้าหญ้าแฝกจากแหล่งฟาร์มในเมือง Débouchette ประเทศ Haiti ปัจจุบันนี้ มากกว่าครึ่งของหญ้าแฝก Haiti ที่เรามีได้รับการรับรองจาก Ecocert ESR ซึ่งช่วยการันตีความแน่นอนของราคาสำหรับการมาร่วมทุรกิจ ในโปรแกรมนี้ ข้อผูกมัดระหว่าง Fiemenich และชุมชน Débouchette นั้น มุ่งเน้นไปที่เด็ก สตรี และสาธารณสุข ซึ่งในปี 2013 ที่ผ่านมา Firmenich ก็ร่วมสร้างโรงเรียนให้กับชุมชน และยังคงพัฒนาขึ้นโดยการจัดส่งคอมพิวเตอร์ให้กับโรงเรียนเพื่อใช้ในการเรียนรู้
2. วานิลลาจาก Madagascar
Madagascar เป็นผู้ส่งออกวานิลลาเบอร์เบิร์นเจ้าแรกของโลก ซึ่งตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา Fimenich ได้พัฒนาแผนการสร้างความยั่งยืนในเรื่องการผลิตวานิลลากับผู้จำหน่ายท้องถิ่น ช่วยเหลือกลุ่มชาวไร้ในการพัฒนาวานิลลาออร์แกนิค เพื่อให้ได้มาซึ่งประกาศนียบัตรของ Rainforest Alliance รวมไปถึงหาทางช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพอีกด้วย มากไปกว่านั้นความพยายามของชุมชนนี้ยังรวมไปถึงการสร้างบ่อน้ำสะอาดในหมู่บ้านที่ผลิตวานิลลา และสร้างแปลงเพาะต้นไม้อื่นๆ เพื่อสร้างความหลากหลายของผลิตผลและช่วยสร้างป่าอันเขียวชอุ่ม
3. กระวานเทศจาก Guatemala
Fiemenich ได้สร้างสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มเครือข่ายผู้ปลูกกระวานเทศใน Guatemala เป็นวากว่า 3 ปี ซึ่งปัจจุบันกลุ่มผู้ปลูกสามารถขยายขอบเขตการทำงานไปถึงการกลั่นกระวานเทศให้ได้เป็นน้ำมันหอมระเหย โดยใช้เครื่องมือจาก Fimenich แล้ว การทำงานโดยตรงกับผู้ปลูกช่วยให้ Fiemenich สามารถจ่ายค่าแรงที่สูงกว่าและความมั่นคงทางการเงินของผู้ปลูกก็จะช่วยการันตีจำนวนผลผลิตที่คงที่และได้คุณภาพ
Magnolia with Vetiver from Haiti
ดอกแมกโนเลียและหญ้าแฝกจาก Haiti ถูกถักทอให้เข้ากันกลิ่นไม้ ดอกไม้ และเครื่องเทศที่สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้ได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนสีพิงก์เป๊ปเปอร์ ก็เป็นบ่งบอกความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
Neroli with Cardamom from Guatemala
ผลงานสร้างสรรค์แสนสนุกและน่าตื่นเต้น จากวัตถุดิบที่ดีที่สุดที่จะหาได้ ส่วนผสมของส้มแมนดาริน เนโรไล และน้ำมันหอมระเหยดอกส้มจะสร้างความสดชื่นให้ ทั้งยังช่วยสร้างความมีชีวิตชีวาให้อีกด้วย Neroli คืออีกหนึ่งความน่าหลงใหลที่เปรียบได้กับจิวเวลรี่ระดับสูง
Vanilla from Madagascar
แก่นแท้ของ Vanille de Madagascar นั้นคือวานิลลาที่บริสุทธิ์ที่สุดจาก Madagascar ซึ่งถูกพัฒนาให้ได้กลิ่นช๊อกโกแล็ต เหล้าเบอร์เบิร์น และคาราเมล ทั้ง 3 กลิ่นนี้จะช่วยสร้างสัมผัสที่น่าดึงดูด และมอบความตื่นเต้นให้ จริงๆ แล้วเมล็ดวานิลลาที่เอาไว้ใช้ทำน้ำหอมนั้นเป็นดั่งเพชรที่ยังไม่ถูกเจียระไน จึงต้องได้มะกรูด ชามัทฉะ และกลีบดอกส้มมาช่วยสร้างให้เครื่องประดับชิ้นนี้สมบูรณ์แบบขึ้นมา
Vetiver from Haiti with Green Tea
เมื่อหญ้าแฝกจาก Haiti ได้ชาเขียวมาเป็นคู่ผสมด้วยแล้ว แน่นอน มันคือการดึงคุณภาพ หญ้าแฝก Haiti ที่ดีที่งามที่สุดออกมา และเป็นทางที่จะนำเสนอความมีชีวิตชีวาของชาวไร่ท้องถิ่นออกมาได้ชัดเจนที่สุด ความบริสุทธิ์ที่แท้จริงผสมเข้ากับความสดชื่อของชาเขียว Nature Print จะช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้สมดุลกับธรรมชาติ
