รีวิว Kiehl's Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate

สูตรปรับปรุงใหม่ ที่เพิ่มความเข้มข้นของวิตามินซีเป็น 12.5% และเสริมด้วยไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เซรั่มสูตรดั่งเดิมที่ลูกค้าชื่นชอบมานานและแวะเวียนมาถามหาอยู่เสมอ ตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบัน มียอดขายทั่วโลกรวมแล้วมากกว่า 5 ล้านขวด หรือเฉลี่ยนาทีละกว่าหนึ่งขวด เนื่องจากการทำให้วิตามินซีเสถียรนั้นเป็นเรื่องยาก การปรับปรุงสูตรในครั้งนี้จึงไม่ง่ายเลย ถึงกระนั้น คีลส์ยังคงมุ่งมั่นทำการทดลองกำหนดสูตรอย่างละเอียดรอบคอบ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญในการทำงานกับวิตามินซี กระทั่งสามารถพัฒนาสูตรผสมใหม่ที่ผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้วว่าทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้สำเร็จในที่สุด

วันนี้ ด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและส่วนผสมของไฮยาลูโรนิก แอซิดที่เพิ่มเติมลงไป Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate ทรงอานุภาพยิ่งขึ้นและช่วยให้ผิวแลดูเปล่งปลั่งและเรียบเนียนในทันที คีลส์ปรับสัดส่วนของสูตรผสมนี้ให้ได้สมดุลอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เซรั่มซึมซาบสู่ผิวอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทำให้รู้สึกมันเยิ้ม ผลิตภัณฑ์สูตรใหม่นี้ยังมอบกลิ่นหอมสดชื่นแบบซิทรัส (citrus) อีกด้วย

♥ ทำไมผลิตภัณฑ์ Vit C. จึงมีสีเหลืองเมื่อเวลาผ่านไปหรืออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง

วิตามินซี เป็นวิตามินที่มีคุณสมบัติในการต้านสารอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี ซึ่งทำให้วิตามินซีไม่เสถียรต่อความชื้น แสง หรืออุณหภูมิสูง หากวิตามินซีมีภาวะใดสภาวะหนึ่งดังกล่าวจะมีผลให้วิตามินซีสลายตัวซึ่งสังเกตได้ง่ายจากสีที่เปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองเข้มหรือสีน้ำตาล 

ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลักเป็นวิตามินซีมีโอกาสที่จะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองนวลได้หากผลิตภัณฑ์นั้นๆ มีวิตามินซีในปริมาณที่สูง ยกเว้นสีที่เหลืองเข้มจนเกินไป หมายถึงการเสื่อมสลายของวิตามินซี ทำให้คุณสมบัติทางเคมีในเป็นสารอนุมูลอิสระน้อยลง ทำให้ประสิทธิภาพลดลงหรือไม่มีประสิทธิภาพนั่นเอง แตกต่างจากคำว่าเสียอันเนื่องมาจากการย่อยสลายของจุลินทรีย์ (การเน่าเสีย) เป็นการเปลี่ยนแปลงทางเคมีและกายภาพ

ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินซีเป็นส่วนผสมโดยทั่วไปยากที่จะทำให้เกิดการคงตัว แม้จะได้การทดสอบความเสถียรแล้วก็ตาม ควรหยุดใช้หากผลิตภัณฑ์เปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้มหรือสีน้ำตาล อันหมายถึงผลิตภัณฑ์อาจจะเสื่อมหรือหมดประสิทธิภาพนั่นเอง

♥ ทำไมผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของวิตามินซีจึงมีการแยกชั้นเกิดขึ้นในบางครั้ง

ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินซีเป็นส่วนผสมหลักในการดูแลผิวนั้นมีหลายเนื้อผลิตภัณฑ์ ขึ้นอยู่กับ อนุพันธ์ของวิตามินซีที่ใช้เป็นส่วนผสมหลัก เพราะวิตามินซีเสื่อมสลายได้ง่ายมากหากผสมในสูตรที่มีน้ำ ดังนั้นจึงมีการพัฒนาโครงสร้างทางเคมีของวิตามินซีให้เสถียรมากยิ่งขึ้น แต่ก็จะมีผลต่อกระบวนการดูดซึมประสิทธิภาพหรือการนำไปใช้ ทำให้โครงสร้างเดิมของวิตามินซี ที่เรียกกันว่า แอลแอสคอร์บิก จึงยังคงได้รับความนิยมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เพราะเห็นผลได้ชัดเจนและรวดเร็วกว่า

จุดอ่อนอยู่ที่จะทำอย่างไรให้วิตามินซีคงตัวและคงประสิทธิภาพได้ และเป็นเรื่องท้าทายที่ทำให้วิตามินซีซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้ดี ต้องมาอยู่ในตัวกลางที่ปราศจากน้ำแต่ยังสามารถละลายไปกับตัวกลางได้ โดยต้องใช้เทคนิคทางเคมีรวมทั้งคุณสมบัติทางเคมีและกายภาพ เพื่อที่จะกักเก็บรักษาคุณภาพและความคงตัวของวิตามินซีไว้

ดังนั้นหากพบผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีเกิดการแยกชั้น ของเหลว ใส แยกออกมาจากเนื้อครีมขาว ถือว่าเป็นเรื่องปกติซึ่งไม่มีผลต่อโครงสร้างทางเคมี หรือทำให้ประสิทธิภาพลดลงแต่อย่างใด เพราะของเหลวที่แยกออกมาไม่ใช่น้ำแต่เป็นตัวกลางที่ปราศจากน้ำ

เพื่อแก้ไขปัญหานี้เพียงเขย่าบรรจุภัณฑ์ให้วิตามินซีสามารถแทรกซึมเข้าไปในตัวกลางให้ได้เหมือนเดิม แต่หากพบว่ากดออกมายังคงมีของเหลวใสๆ อยู่เนื่องจากของเหลวที่ค้างอยู่ที่ปลายหลอด ให้กดจนของเหลวใสออกมาจนเจอเนื้อผลิตภัณฑ์สีขาว

♥ ทำไมบางคนจึงรู้สึกแสบหรือคัน เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินซีเป็นส่วนประกอบหลัก

วิตามินซี เป็นวิตามินที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนและมีค่า PH ที่ต่ำ การทำให้ค่า PH สูงขึ้นจะทำให้มีผลต่อความมีประสิทธิภาพของวิตามินซีและทำให้ดูดซึมได้น้อยลง ดังนั้นจึงยังคงให้วิตามินซีคงค่า PH ตามธรรมชาติของวิตามินซีเพื่อคงประสิทธิภาพ สำหรับผิวบอบบางหรือผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น อาจเกิดความรู้สึกแสบหรือคันได้ สามารถแก้ได้โดยดูแลให้ผิวมีความชุ่มชื้น จึงจะสามารถดูดซึมวิตามินซีไปใช้ได้ และอาการดังกล่าวจะค่อยๆ ลดลง อีกหนึ่งวิธีในการแก้ปัญหานี้ คือ ใช้ปริมาณแต่น้อยในระยะแรกและใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ดูแลความชุ่มชื้นอื่นๆ ร่วมด้วย