ใช้มาเกือบเดือน ไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ เรื่องคุมมันก็เฉยๆ เห็นมีบอกช่วยเรื่องความขาวก็ไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ แต่ซึมซาบเร็วจริง ทาเสร็จละก็เนียนกริ๊บเลยไม่รู้ว่ากันน้ำ กันเหงื่อได้แค่ไหน แต่อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองดีค่ะ

กลิ่นหอมองุ่น มาส์กแล้วรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย แผ่นมาส์กบางไปมาก บางเกินเบอร์เซรั่มที่ใส่มาในถุงเหลือเกิน ให้มาเยอะชุ่มแผ่นจนน้ำไหลลงปากตอนมาส์ก แถมต้องเอาที่เหลือก้นถุงมาทาตัวต่อเพราะเสียดายวิธีใช้บอกว่า 3-5 นาที แต่หลังจากมาส์กไป 3 นาทีรู้สึกยังไม่สะใจเลยมาส์กต่อ ซึ่งก็ไม่ได้อะไร แต่ปัญหาคือ เซรั่มที่ให้มาเกินเบอร์ไม่ยอมแห้ง ซึมเข้าสู่ผิวไม่ทัน จะเช็ดออกก็เสียดายเลยนั่งตากลมไปเรื่อยๆ ให้มันแห้ง ถ้าถามว่าชุ่มไหม? ชุ่มมากจริงๆ แต่ไม่น่าโปรยเรื่อง 3-5 นาที เพราะคนมาส์กหน้ากว่ามันจะแปะครบหน้าผาก จมูก แก้ม คางก็หมดไปละ 2 นาที ยิ่งทำแผ่นบางขนาดนี้ยิ่งหาหัว หาหางยากชิบ เอาเป็นว่า ถ้าเปลี่ยนแพ็คเกจและใส่เซรั่มให้มันพอดีๆ ไม่เหนอะหน้า ที่โฆษณา 3-5 นาทีก็น่าจะทำได้อย่างที่พูดจริงๆ

ตัวนี้จะไม่เหนอะหนะมาก กลิ่นก็หอมเป็นเอกลักษณ์ คือเป็นโลชั่นที่มีกลิ่นหอมๆ ไว้ผ่อนคลายอารมณ์แล้วก็เติมความชุ่มชื่นให้ผิว ในส่วนของความขาวหรือลบริ้วรอยเลยไม่น่าหวังอะไรมาก แต่ก็เป็นอีกโลชั่นดีๆ สำหรับหน้าหนาว

เนื้อจะเหลวๆ หน่อย หนืดๆ เหมาะไว้ทาหน้าหนาว หรือคนที่อยู่แอร์หนักๆ เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวดีมาก แต่เหมาะกับการทาก่อนนอน ไม่เหมาะกับการทาตอนเช้าเท่าไหร่เพราะซึมซาบช้าตามสไตล์ Butter ส่วนกลิ่นก็แล้วแต่คนชอบ แต่เราชอบนะ 555+

ก็น่าจะดีค่ะเมื่อเปรียบเทียบสภาพก่อนใช้กับหลังใช้ ริ้วรอยใต้ตาก็ดูตื้นขึ้น ติดแค่ว่าเพิ่งใช้มา 2 คืน คิดว่าถ้าใช้นานกว่านี้ก็น่าจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้น ติดนิดหน่อยตรงที่เหมาะกับเป็น Night Cream มากกว่าทาเช้าเย็น เพราะเนื้อครีมค่อนข้างหนักและหนา ซึมซาบช้า ขนาดทาก่อนไดร์ผม จนไดร์ผมเสร็จ ครีมยังซึมเข้าผิวหน้าไม่หมด ซึ่งก็เหมาะกับคนผิวแห้งเพราะช่วยรักษาความชุ่มชื้น แต่ไม่เหมาะกับคนผิวมันเท่าไหร่

ยอมแล้วจ้า หลังจากที่เจอคลีนซิ่งของนีเวียตัวเก่าแล้วคิดว่า คงไม่ได้แอ้มเงินฉันแน่ๆ แต่คลีนซิ่งตัวใหม่นี้ก็ทำให้พ่ายแพ้ตั้งแต่ในมุ้ง เพราะเปิดมาก็มีกลิ่นแป้งเด็กอ่อนๆ ซึ่งส่วนตัวก็ชอบกลิ่นนี้อยู่แล้ว แถมงวดนี้ไม่ทำให้ผิดหวัง ไม่ฝืด ไม่แดง ไม่หน้าแห้งเหมือนคราวที่แล้ว แถมชุ่มชื่นได้ใจคนหน้าแห้งอย่างเรายิ่งนัก เช็ดตา เช็ดคิ้ว ก็สะอาดหมดจด ปาดนิดเดียวก็เกลี้ยงแล้วไม่ต้องเสียเวลาถูให้หน้ายับ เชียร์ค่าาาา

พอได้ขวดมาปุ๊บก็นึกถึง Lux เลยจ้า ซึ่งเราใช้ Lux สีชมพูประจำอยู่แล้วเลยได้เทียบกันจะๆ พบว่าเนื้อครีมของลักซ์เข้มข้นกว่ามาก ส่วนกลิ่นนี่ส่วนตัวเราชอบลักซ์มากกว่า แต่กลิ่น Parrot รุ่นนี้ก็ไม่แย่นะ ก็สดชื่นดี ส่วนเรื่องระงับกลิ่นระหว่างวันหรือผลัดเซลล์ผิว อันนี้ไม่รู้เลยจริงๆ เพราะไม่เคยหวังให้ครีมอาบน้ำทำได้ขนาดนั้น ถามว่า หมดขวดนี้จะซื้อเองไหม ก็ถ้ามีโปรโมชั่นน่าสนใจก็อาจจะซื้อ แต่ไม่ถึงกับเป็น Top brand ในใจขนาดนั้น

ดีค่ะ ใช้แล้วเครื่องสำอางอยู่ ช่วยกระชับรูขุมขน หน้าแน่นได้ทั้งวัน เนื้อเป็นเจลซิลิโคนใสๆ มีกลิ่นเหมือนเอาลิปมันทาทั้งหน้า แต่ก็ซึมซาบเร็วดี ไม่มีกลิ่นหลังจากที่ทาเลย

ลิปบาล์มในตำนาน สีชมพูหวานน่ารัก อยากลองมานานแล้วคราวนี้ได้ฤกษ์ซะที แกะมาปุ๊บก็ติดใจที่สามารถบีบตลับให้ฝาเด้งป๊อกกกออกมาได้เลย พอทาก็ได้กลิ่นหอมๆ แถมหน้าตาเหมือนเยลลี่น่ากินไปอีก แล้วปกติคือปากลอกเป็นขุยมาก แต่อันนี้ช่วยได้ เอาใจไปเลยค่า

รองพื้นอีกอันที่ปลื้มมาก ตอนแรกใช้ของอีกแบรนด์เพราะมีโปรโมชั่น แต่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เหมาะสำหรับสาวน้อยสาวใหญ่ที่ต้องไปออกกิจกรรมกลางแจ้งเช่น เรียน ร.ด. หรือเกณฑ์ทหาร เพราะวันนี้ได้พิสูจน์มาแล้วว่า เดิน 9 พันกว่าก้าวพร้อมลุยแดดครึ่งช.ม. นางก็หาได้สะทกสะท้านหวั่นไหวไม่ นี่ทาตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า กลับบ้านมาหกโมงเย็น เช็ดคลีนซิ่งนางยังอยู่กันเป็นปื้นๆ ถ้าเป็นยี่ห้อเดิมนี่เหลวเป็นน้ำตั้งแต่เที่ยงแล้วจ้า หมดหลอดนี้ไปตำซ้ำแน่นอนพูดเลย

อันนี้เราก็ชอบที่ความทนทาน คือใช้คู่กับรองพื้นอีกยี่ห้อ แต่รองพื้นไปก่อนตลอด 5555555 หัวแปรงก็กำลังพอเหมาะมาก ชอบเอามาลงใต้ตา แปลงร่างจากแพนด้าให้เป็นคนได้ภายในบัดดล เนื้อก็เกลี่ยง่าย ใช้ฟองน้ำเกลี่ยเอา

ไม่ทนเท่ารุ่น Matt เหมือนเน้นความวิ้งๆ ให้หน้าดูเปล่งประกายมากกว่า เหมาะสำหรับเป็นแป้งรองพื้นให้สาวผิวเข้มเวลางานกลางคืนแนวนั้น แต่ก็ไม่รู้สิ แค่รู้สึกว่า Shading มันคือ ส่วนเงา มันไม่ควรสะท้อนวิ้งๆ ป่ะ ถ้าอยากวิ้งก็ลงไฮไลต์ที่มี Shimmer ดีกว่าป่ะ อีกอย่าง เราว่ากลิ่นมันแปลกๆ เหมือนมีกลิ่นมะพร้าวตลอดเวลา 5555+