Bright Healthy Radiance Brightening Night Comfort Cream ขอเริ่มจากเนื้อผลิตภัณฑ์ มีสีขาวขุ่น ค่อนข้างหนืดนิดหน่อย อยู่ในระดับที่พอรับได้ เนื้อแบบนี้เหมาะที่จะทากลางคืนตามที่ทางแบรนด์เคลมไว้เลย เรื่องของกลิ่นนั้น ไม่มีกลิ่นใดๆ ทั้งสิ้น เวลาเกลี่ย อาจะไม่สมูทสักเท่าไหร่ แต่ไม่มากนัก พอสักพักเนื้อถึงจะซึมเข้าสู่ผิว ส่วนประสิทธิภาพหลังการใช้ เรื่องของความกระจ่างใส จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ ยังไม่ค่อยเห็นผลลัพธ์สักเท่าไหร่ อาจจะต้องใช้เวลามากกว่านี้ ส่วนสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือเรื่องของความชุ่มชื่น ทาก่อนนอน ตื่นมาผิวดูอิ่มน้ำมากจริงๆ Bright Healthy Radiance Brightening Day Protection Cream SPF 15 ชอบความที่เป็นสกินแคร์ตอนเช้า ที่มี spf คือตอบโจทย์มาก เนื้อครีมมีสีขาว แต่ความรู้สึกตอนทา รู้สึกส่ามันหนืดหน้าไปนิดนึง ซึมเข้าสู่ผิวช้านิดหน่อย ส่วนผลลัพธ์เรื่องความกระจ่างใสยังเห็นไม่ชัดเจนสักเท่าไหร่ อาจจะต้องใช้ใหห้นานกว่านี้หน่อย

เป็นครั้งแรกที่ได้ลองใช้ VICHY Mineral 89 และเป็นครั้งแรกที่ได้ลองใช้พรีเซรั่มเช่นกัน ปกติก็คือใช้แต่เซรั่มเลย ไม่เคยต้องมาลงพรีเซรั่มก่อน หลังจากได้ลองใช้ สิ่งแรกเลยที่อยากพูดถึงคือเนื้อเซรั่มใส ไม่มีสี ถ้าดูจากส่วนประกอบก็จะเห็นว่าไม่มีการใ่ส่สีใดๆ ทั้งสิ้น เท็กเจอร์ของเนื้อเซรั่มค่อนข้างเหลวเลยล่ะ ทำให้เกลี่ยง่ายมาก และที่สำคัญคือ ซึมไว ไม่เหนอะหน้า ทาปุ๊ป ซึมปั๊ป สบายผิวมาก ส่วนเรื่องของกลิ่นนั้น ก็ไม่มีกลิ่นเลยแม้แต่น้อย เพราะพรีเซรั่มตัวนี้ไม่มีการแต่งกลิ่น ไม่ใส่น้ำหอม นอกจากไม่ใส่สี ไม่ใส่น้ำหอมลงไปแล้ว ยังไม่มีพาราเบน ซิลิโคน และแอลกอฮอล์อีกด้วย รับรองว่าใครทีมีผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย ใช้ได้แน่นอน ผลลัพธ์หลังจากการใช้ที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือเรื่องของความชุ่มชื่น ถ้าจากรูป before จะเห็นว่าข้างๆ จมูกจะแห้ง มีคราบขาวๆ หลังใช้พรีเซรั่มตัวนี้ไปสักพักก็คือข้างจมูกกลับมาชุ่มชื่น ไม่มีคราบแห้งตรงร่องจมูก คือเลิศมากๆ และอีกอย่างที่สัมผัสได้ก็คือ ผิวเด้ง นุ่ม เรียบเนียนขึ้นกว่าเดิม ถึงจะยังไม่มากนัก แต่โดยส่วนตัวรู้สึกได้จริงๆ หลังจากใช้มาสักพักก็คือเลิกทาเซรั่มไปแล้ว ใช้พรีเซรั่มตัวนี้ แล้วต่อด้วยครีมอีกหนึ่งตัว ก็พร้อมเข้านอน ใครที่มีปัญหาเรื่องผิวขาดน้ำ แนะนำตัวนี้เลยนะทุกคน มันดีมากจริงๆ

หลังจากได้ลองใช้ Clean & Clear Acne Clearing Cleanser อย่างแรกที่ชอบก็คือ เนื้อสัมผัส เป็นเนื้อเจลใส สมูท พอผสมน้ำแล้วฟองอาจจะไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ทำให้เวลาใช้รู้สึกว่าต้องบีบออกมาเยอะ เพราะโดยส่วนตัวชอบโฟมล้างหน้าที่มีฟอง อย่างที่สองเลยก็คือเรื่องของกลิ่น กลิ่นหอมแบบเบาๆ โดยส่วนตัวชอบกลิ่นฟีลลิ่งนี้มาก และอย่างสุดท้ายคือผลลัพธ์หลังการใช้ หลังล้างหน้าด้วยตัวนี้เสร็จ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ ไม่ลงสกินแคร์ต่อ อาจจะรู้สึกหน้าแห้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราสักเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับผลลัพธ์ที่เค้าเคลมมาว่า "ช่วยลดปัญหาสิวและสิวเสี้ยนตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้" เพราะช่วงที่เราเป็นสิวอักเสบ รู้สึกว่าหัวสิวมันแห้งเร็วขึ้นมาก ส่วนเรื่องสิวเสี้ยนยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ พวกรอยแดงๆ ที่เหมือนสิวจะขึ้นก็ลดน้อยลงด้วยนะ

อย่างแรกที่สัมผัสได้เลยก็คือ เนื้อครีมมีความข้น แต่ก็ยังสามารถเกลี่ยได้ง่ายพอสมควร ไม่หนืดมาก พอเกลี่ยครีมลงบนผิว รู้สึกถึงความเหนอะบนหน้าเล็กน้อย และได้กลิ่น menthol ที่ช่วยให้ความเย็น ครีมกันแดดตัวนี้ก็ยังทิ้งความเหนอะไว้ เหมือนครีมกันแดดทั่วไป แต่อยู่ในระดับที่รับได้ ใครที่นั่งทำงานในออฟฟิศ ต้องเจอมลภาวะในเมืองกรุง ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์มาก

อย่างแรกที่ต้องพูดถึงเลยก็คือเนื้อครีม ตอนบีบออกมาเนื้อครีมมีความเข้มข้นอยู่นะ แต่เกลี่ยง่ายและเกลี่ยสมูทมาก ไม่รู้สึกถึงความเอี๊ยดๆ บนผิว และเวลาที่เกลี่ยจะได้กลิ่นครีมกันแดดเบาๆ ส่วนตัวเราว่ากลิ่นโอเคเลยนะ ไม่เหม็น ละก็ไม่ฉุน พอครีมกันแดดเซ็ตตัว สักประมาณ 1-2 นาที เอามือแตะๆ ดูก็คือไม่เหนอะผิวเลยอ่ะ สบายผิวมากจริงๆ ครีมกันแดดสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ดี และไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิวหน้า ที่สำคัญสามารถเติมกันแดดทับเมคอัพได้ด้วย หลังจากได้ลองทาทับเมคอัพคือหน้าไม่เป็นคราบ ผิวยังดูดีเหมือนเดิม ก็คือเลิศมาก แต่แนะนำให้ใช้มือแตะๆ ให้ทั่วหน้านะ ไม่แนะนำให้ใช้มือเกลี่ย เพราะไม่งั้นเมคอัพอาจจะเลอะได้

ลิปทรีทเมนท์บำรุงริมฝีปากกลิ่น Rose Cupcake ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก ฟื้นฟูเซลล์ที่ถูกทำลายให้กลับมาเนียนนุ่ม ลดการหมองคล้ำด้วยคุณค่าจากส่วนประกอบออร์แกนิคทั้งหมด 100%"ลิปทรีทเมนท์ตัวนี้พราวทูพรีเซ้นต์เป็นที่สุด คือสรรพคุณเยอะมาก เยอะแบบ OMG กันเลยทีเดียว อย่างแรกคือส่วนประกอบเป็นออร์แกนิคทั้งหมดจ้า 100% แบบชัวร์ๆ เท่านั้นยังไม่พอ ลิปสูตรนี้เป็นสูตรอ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย และยังช่วยลดความหมองคล้ำของริมฝีปากด้วย""หลังจากได้ลองใช้คือเลิฟมาก อย่างแรกที่ชอบเลยคือกลิ่น ชื่อกลิ่นก็คือ Rose Cupcakeกลิ่นที่ได้จะไม่ใช่กลิ่นกุหลาบนะ แต่มันคือกลิ่นหอมแบบละมุนมาก เนื้อสัมผัสไม่บางเบา สบายปาก ส่วนเรื่องความชุ่มชื้นถือว่าทำได้ดีมาก เพราะโดยส่วนตัวชอบทาอยู่บ้านวันที่ไม่ได้ออกไปไหน จะบอกว่าใน 1 วัน เติมลิปมากสุดแค่ครั้งเดียว ไม่เคยเกินกว่านี้เลยจ้า ส่วนเรื่องการลดความหมองคล้ำนั้น ส่วนตัวเราเป็นคนที่ปากคล้ำโดยกรรมพันธ์อยู่แล้ว อาจจะไม่เห็นผลเท่าไหร่ ใครที่ปากคล้ำจากการแพ้ คิดว่าน่าจะช่วยได้นะ และใครที่เป็นสายออร์แกนิค หรือผิวแพ้ง่าย บอกไว้เลยว่าต้องมีสักแท่ง"

มาส์กสำหรับริมฝีปาก พลิกฟื้นเรียวปากเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นในข้ามคืน และช่วยผลัดเซลล์ผิว เพียงแค่เช็ดทำความสะอาดริมฝีปากในเช้าวันถัดมา"ลิปมันตัวนี้ได้เทสเตอร์มาจากเกาหลี พอได้ลองใช้แล้วสิ่งที่ชอบมากคือ ลิปตัวนี้ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้จริง พอตื่นเช้ามา แล้วเช็ดปาก มันจะมีเซลล์ผิวที่แบบลอกออกมา ใช้ทิชชู่ถูเบาๆ นางก็จะออกหมด อีกอย่างที่ชอบคือกลิ่น ดีงามมาก เป็นกลิ่นแบบหวานๆ ทาแล้วเหมือนได้กินลูกอม 55 ส่วนเรื่องความชุ่มชื้นนั้น โดยส่วนตัวนี่ว่าไม่ได้ชุ่มชื้นมากขนาดนั้น อาจจะด้วยความที่ลิปมันตัวนี้สามารถผลัดเซลล์ผิวได้ พอเวลาเราถูเพื่อเอาเซลล์ผิวออก รู้สึกว่าปากมันจะแห้งๆ ตึง แต่ๆ ไม่ใช่ว่าทุกวันที่ปากเราจะผลัดเซลล์ผิวนะ แค่บางช่วงเท่านั้น ส่วนเนื้อสัมผัสนั้นบางเบากว่าวาสลีนนิดหน่อย ไม่ได้ต่างกันมากสักเท่าไหร่"

วาสลีนเจลลี่สูตรออริจินัล ที่ประกอบด้วย Petrolatum แค่เพียงอย่างเดียวช่วยปกป้องและกักเก็บความชุ่มชื่น พร้อมบำรุงริมฝีปากที่แห้งแตก ให้กลับมาเนียนนุ่ม น่าสัมผัส"ลิปมันตัวนี้ใช้มาตั้งแต่เด็ก เรื่องความชุ่มชื้นคือทำได้ดีมาก ไม่ว่าปากจะแห้งแตกยังไงก็เอาอยู่ ด้วยความที่เป็นปิโตรเลียมเจลแบบเพียวๆ เนื้อสัมผัสอาจจะไม่สบายปากสักเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับตัวอื่นที่เคยใช้ แต่ถ้าทาก่อนเข้านอนก็คือเวิคมาก ตื่นเช้ามาปากนุ่มขึ้นจริง ในเรื่องของกลิ่นนั้น แน่นอนว่าลิปมันตัวนี้ไม่ได้แต่งกลิ่นแต่อย่างใด จึงไม่มีกลิ่นเลย"ความชุ่มชื้น 5/5เนื้อสัมผัส 3/5กลิ่น 3/5

Mineral Cleansing Water จากแบรนด์ Nu Formula เจ้าตัวนี้พิเศษตรงที่ปราศจากสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง ไม่มีน้ำมันและซิลิโคน ปราศจากสารกันเสียประเภทพาราเบน ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีน้ำหอม soap-free พร้อมคุณสมบัติ PH Balance แน่นอนว่าเจ้าคลีนซิ่งตัวนี้เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ใช้ได้แน่นอนวิธีใช้ก็ง่ายๆ เลย หยดคลีนซิ่งลงบนสำลีจนชุ่ม แล้วเช็ดทำความสะอาดทั่วใบหน้าและรอบดวงตา เปลี่ยนสำลีไปเรื่อยๆ จนไม่มีคราบเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกบนสำลีมาพูดถึงประสิทธิภาพในการเช็ดเครื่องสำอางกันบ้าง ถ้าวันไหนที่แต่งหน้าเบาๆ เช็ดแค่ 1-2 รอบ ก็สามารถเช็ดเครื่องสำอางได้หมดจด แต่ถ้าวันไหนที่แต่งหน้าหนัก ใช้เครื่องสำอางที่ติดทน กันน้ำ อาจจะต้องเช็ดมากกว่า 2 รอบหลังจากได้ลองใช้คลีนซิ่งตัวนี้เช็ดทำความสะอาดผิวหน้า อย่างแรกที่ชอบมากๆ คือ ความรู้สึกหลังเช็ด มันไม่ทำให้หน้าแห้งตึง รู้สึกสบายผิวแบบผิวชุ่มชื้น และที่สำคัญใช้เช็ดรอบดวงตาได้จริง ไม่ทำให้รู้สึกแสบตาแม้แต่น้อย สรรพคุณเริ่ดซะขนาดนี้ บอกเลยว่าหมดแล้วซื้อซ้ำตลอด ถือเป็นไอเท็มที่ควรมีเป็นอย่างยิ่ง คอนเฟิร์มค่า