รีวิว CLINIQUE Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter

Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter
อันดับ
CLINIQUE
Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter
SHARE
itosky's profile picture
itosky
Preview
ต้องขอบคุณ cosmenet และ Clinique มาก ๆ เลยนะคะสำหรับตัวอย่างทดลองของ Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter (ชื่อยาวมาก!) เพราะบอกตรง ๆ ว่าเราอยู่ในช่วงอายุที่ไม่ได้สนใจไม่ได้เสาะแสวงหาเรื่องไวท์เทนนิ่งอะไรมากมายเท่าไหร่แล้วค่ะ จุดนี้จะเป็นห่วงเรื่องริ้วรอยมากกว่าจนเกือบจะลืมดูแลเรื่องความกระจ่างใสและจุดด่างดำไปเลย  ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าผิวหน้าเราไม่เนียนหรือมีรอยด่างดำก็ทำให้ดูหมองและไม่อ่อนเยาว์เท่าที่ควรจะเป็นเหมือนกันนะ อีกอย่างก็กลัวแพ้ด้วย แต่พอเป็นไวท์เทนนิ่งของ Clinique เราเลยวางใจ เพราะเท่าที่ใช้ Clinique มาได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการตลอดสภาพผิวในช่วงนี้ : พักนี้ไม่มีรอยสิวอะไรบนผิวหน้ามากมาย ยกเว้นรอยสิวฮอร์โมนบริเวณคางและกรอบหน้าอีกตามเคย เศร้าใจ ก็ต้องรักษาวนกันไปทุกเดือนเนอะ แต่ที่เห็นชัดคือกระบริเวณแก้มที่เป็นมานานแล้ว เพราะสมัยเด็กไม่เคยทากันแดดเลย เง้อ ถ้าย้อนกลับไปได้จะไม่ละเลยแบบนี้แน่นอน เมื่อก่อนไม่รู้จริง ๆ พอมาเริ่มทาตอนอายุยี่สิบกว่า ๆ ก็ไม่ทันแล้วค่ะ เป็นกระถาวรไปแล้ว แม้จะเปลี่ยนความคิดใหม่ว่ามีกระก็น่ารักดีน้า แต่ก็แอบเมียงมองหาตัวช่วยอยู่เหมือนกัน เราเลยแอบมีความหวังกับน้องคนนี้อยู่นิด ๆ และเนื่องจากเอาข้อมือไปขูดกับขอบโต๊ะมา มีแผลเป็นเกือบสองเดือนแล้วยังไม่จางลงเลย จึงอยากจะขอทดสอบกับรอยนี้ด้วย เอาล่ะ งั้นมาลองดูกันหน่อยซิว่าน้องจะเป็นฮีโร่ให้เราได้หรือเปล่ากลิ่นและเนื้อสัมผัส : ชอบที่สุดตรงที่ไม่มีกลิ่นกวนใจนี่แหละค่ะ ส่วนเนื้อสัมผัสเป็นสีขาวขุ่น บางเบา เกลี่ยง่าย ประมาณสองปั๊มก็เกลี่ยได้ครึ่งหน้าแล้วค่ะ ทาแป๊บเดียวซึมแทบจะทันที ไม่ทิ้งความเหนอะหนะเอาไว้เลยแม้แต่นิดเดียว คนหน้าแห้งอาจจะไม่ชอบเพราะทำให้หน้าแมทแบบแมทจริง ๆ แมทสุด ๆ แต่เราไม่มีปัญหาและยังชอบด้วยซ้ำ เพราะสบายผิวหน้าดี และยังไงก็ต้องตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์อยู่แล้วผลลัพธ์ :รอยสิวบริเวณคางและกราม - จะเห็นได้ว่ารอยที่ไล่ขึ้นไปทางบริเวณกรามจางลงไปมากจนถ้าไม่สังเกตก็เกือบไม่เห็นแล้ว ส่วนรอยที่ใกล้บริเวณปากจางลงแต่ยังมองเห็นอยู่ นี่ก็งงว่าทำไมไม่เท่ากัน คิดไปคิดมาสงสัยเป็นเพราะเวลากินอะไรเสร็จแล้วไปล้างปากหรือแปรงฟันไม่ได้ระวังให้ดีพอ อาจมีบางส่วนโดนน้ำชะล้างไป เป็นข้อคิดให้ทุกคน จะได้ไม่เปลืองครีมฟรีนะคะ ฮือ ๆ แต่อยากบอกว่าปกติถ้าเราไม่ใช้ไวท์เทนนิ่งประเภทลดรอยสิวหรือจุดด่างดำเลยรอยจะหายช้ามาก เนื่องด้วยอายุเกิน 35 แล้ว รอยไม่หายได้ด้วยตัวเองเหมือนเด็ก ๆ แน่นอน บางทีนานถึงสองสามเดือนเลยก็มี (แต่สุดท้ายก็หายได้แม้จะใช้เวลานาน ซึ่งน่าจะเป็นผลพลอยได้จากสกินแคร์อื่น ๆ ที่ไม่ได้เน้นเรื่องไวท์เทนนิ่งแต่ช่วยให้ผิวแข็งแรงจนฟื้นฟูตัวเอง) แล้วพักหลังมานี้เราไม่ค่อยใช้พวกลดรอยดำด้วย ชอบปล่อยให้ค่อย ๆ จางไปเอง ช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร ถือคติสวยตามธรรมชาติค่ะ ฮ่า ๆ (แล้วค่อยใช้คอนซีลเลอร์เอา อ้าว)กระบริเวณหน้าแก้ม – ยังไม่ค่อยเห็นความเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่นะคะ ซึ่งอันนี้เข้าใจได้ เพราะถ้าแค่ 14 วันแล้วกระที่เป็นมาครึ่งชีวิตจางได้ก่อนอื่นคงต้องตกใจก่อน!ความกระจ่างใส -  โดยรวมหน้าดูขาวใสขึ้นนิดนึง อาจเป็นเพราะรอยสิวจางลง และไม่มีสิวใหม่เพิ่มด้วยค่ะความอ่อนโยน : ไม่ก่อให้เกิดสิวและไม่ทำให้สิวที่มีอยู่อักเสบ แม้จะทดลองใช้ในช่วงเซนซิทีฟของเดือน >< ซึ่งเราพอใจมากค่ะ เพราะปกติช่วงเวลานี้ผิวเราจะแปรปรวนสุด ๆ เราจึงจะไม่เสี่ยงใช้อะไรที่ไม่จำเป็นเลย เน้นประคองสิวก่อน เรื่องความอ่อนโยนนี้เราให้น้องผ่านฉลุยเลยค่ะรอยแผลเป็นตรงข้อมือ - มัน จาง ลง! ค่ะทุกคนนน ตื่นเต้นมาก เพราะปกติแผลเป็นตามตัวเราหายช้าสุด ๆ บางรอยนี่เป็นปีถึงจะหาย แต่นี่จะเห็นได้ว่ารอยสีน้ำตาลเข้ม ๆ ตรงกลางรอยแผลเป็นหดเล็กลง และบริเวณรอบนอกจางลงจนกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อน ๆ แล้วค่ะ เหยยย ปรบมือให้เลยซื้อต่อมั้ย? : Yes! ดีใจที่เจอสกินแคร์ไว้สำหรับรักษารอยสิว รอยด่างดำ ในยามที่ผิวอ่อนแอได้สักที เพราะเราสามารถใช้รักษารอยเหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องใช้บ้างพักบ้างจนไม่แน่ใจในผลลัพธ์ และในเมื่อรอยสิวจางแล้วเราก็อยากลองให้เวลากับกระของเราต่อค่ะ จะเอาไว้ทาแผลเป็นตามตัวด้วย เพราะเป็นคนซุ่มซ่ามมีแผลตลอดเวลา ที่สำคัญคือขวดจริงโฉมใหม่เป็นสีชมพูสวยน่าใช้โดนใจไปอีก สรุปให้น้องไปต่อค่า
ใช้เป็นประจำกำลังใช้ กิจกรรม cosmenet.in.th
25 ก.พ. 2563 เวลา 18:08 น.